MAKE UP
จริงหรือจกตา...เมื่อคนติ๊กต๊อกใช้คาลาไมน์แทนไพรเมอร์ในการแต่งหน้าก่อนลองใช้จริง มาดูกันก่อนว่าเชื่อถือได้มากแค่ไหน |
ตอนนี้ใครๆ ก็แห่แหนกันเล่นติ๊กต๊อกตามเทรนด์ เหล่าคอนเทนต์ครีเอเตอร์ต่างก็แย่งชิงพื้นที่บนโลกโซเชียลมีเดีย ด้วยคอนเทนต์สร้างสรรค์ที่มีทั้งความสนุกสนาน มีประโยชน์ ไปจนถึงเรื่องแปลกประหลาดที่เราไม่เคยรู้ อย่างล่าสุดสาวกบิวตี้ต้องอ้าปากค้างเมื่อเห็นบิวตี้บล็อกเกอร์ท่านหนึ่งหยิบคาลาไมน์มาใช้แต่งหน้าแทนการใช้ไพรเมอร์
ภาพ: Pinterest
ขอเกริ่นก่อนว่าคาลาไมน์เราฟังดูคุ้นหู เพราะมันคือคาลาไมน์เดียวกันที่เราใช้เวลาคันที่ผิวหรือเป็นผื่นแดงตามตัว ด้วยคาลาไมน์มีส่วนประกอบของสารผสมซิงก์ออกไซด์และเฟอร์ริกออกไซด์ นอกจากจะช่วยเรื่องอาการแก้คันแล้ว ยังยับยั้งการติดเชื้อที่เกิดขึ้นจากอาการคันได้อีกด้วย โดยคาลาไมน์จะมีเนื้อสัมผัสเป็นโลชั่นเหลว ให้สัมผัสนุ่มนวลและเย็นเมื่อทาลงบนผิว
ส่วนไพรเมอร์นั้นคือสิ่งที่เข้ามาช่วยเติมเต็มร่องผิวให้ดูเนียนมากขึ้น ช่วยเบลอรูขุมขนให้เล็กลง และปรับสีผิวให้ดูสม่ำเสมอ เป็นขั้นตอนก่อนลงรองพื้นและควรใช้เพียงน้อยเท่าเมล็ดถั่วเขียวแล้วค่อยๆ บิวต์เพิ่มเอาแทน
ภาพ: ET
ซึ่งจุดเริ่มต้น #calaminelotion เป็นไพรเมอร์นั้น มาจากแอคเคาต์ที่ใช้ชื่อว่า @tiasamuda เธอทดลองใช้ไม่รู้ว่าเป็นเคล็ดลับหรือเพราะอยากลอง สาวผิวดำคนนี้ทาคาลาไมน์ลงบนใบหน้าแล้วรอให้เซ็ตตัว ก่อนลงรองพื้นยี่ห้อ Nars ตามลงไป พร้อมใช้ฟองน้ำทั้งตบทั้งเบลนด์ทุกอย่างให้เข้ากัน จนออกมาผิวเนียนฉ่ำดูอิ่มน้ำ ได้ฟินิชลุคที่ทำเอาหลายคนอึ้งกันเป็นแถว กลายเป็นว่าชาวบิวตี้บล็อกเกอร์ทั้งหลายแห่แหนไปตำคาลาไมน์ เพื่อมาทดลองใช้ตามดูว่ามันจะได้ผลกันหรือไม่
แอคเคาต์ที่ใช้ชื่อว่า @flavorfaay2 และ @therealembree ก็ออกปากด้วยความตื่นเต้นว่าเจ้าสิ่งนี้มันเวิร์กจริง ในขณะที่อีกคนบอกว่าฉันจะต้องลองใช้เทคนิคนี้ดูบ้างแล้วล่ะ
WATCH
ภาพ: ET
อย่างไรก็ตามไม่ได้มีผลสรุปตายตัวว่าการใช้คาลาไมน์เป็นทางเลือกที่ถูกต้องหรือไม่ เพราะกับบางคนก็ใช้ได้มีประสิทธิภาพ ในขณะที่บางคนก็ไม่เห็นผลแถมยังได้สิวกลับมาเป็นของแถม เพราะบางคนใช้มากเกินไปก่อให้เกิดอาการผิวแห้ง และอุดตันในรูขุมขนซึ่งทำให้เกิดสิวตามมา
ส่วนความเห็นของเราก็คิดว่าควรละเสียดีกว่า คืออะไรที่มันสร้างมาเพื่อประโยชน์ของมัน เราก็ควรใช้ให้มันถูกที่ถูกทาง จะยอมเสียเงินน้อยซื้อคาลาไมน์ขวดละไม่กี่บาท แทนการใช้ไพรเมอร์หลอดละหลายร้อย แต่ก็ต้องมานั่งกังวลว่าสิวจะขึ้นไหม น่าจะแหกหรือเปล่า ท้ายที่สุดต้องเสียเงินหลายพันเข้าคลินิกกู้ผิวกลับมาเหมือนเดิมอีกครั้ง คิดๆ แล้วก็นับว่าเป็นบิวตี้แฮ็กที่ไม่ค่อยจะแฮ็กเท่าไหร่ เพราะกลัวจะแหกเสียมากกว่า
ข้อมูล : Teen Vogue, Everyday Health
WATCH