MAKE UP

อัพเดทเทรนด์ความงามกับ 3 ทรีตเม้นต์ฟื้นฟูผิวหน้ายอดนิยมที่เจ็บน้อยลงและเห็นผลไว!

รวมเทคโนโลยีทางการแพทย์และทรีตเม้นต์เพื่อผิวสวยที่ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์สาวยุคใหม่

เรื่องโดย: พิมรา กัมปนาทแสนยากร

 

เทรนด์ความงามในอุดมคติของผู้หญิงยุคนี้ไม่ใช่แค่สุขภาพร่างกายแข็งแรงอย่างเดียว แต่ใบหน้ากับผิวพรรณก็ต้องดูอ่อนเยาว์และสวยเพอร์เฟกต์ด้วย ซึ่งเทคโนโลยีทางการแพทย์สมัยนี้ก็ตอบโจทย์ เพราะเจ็บน้อยลง เห็นผลเร็ว ให้ผลลัพธ์ที่ดูเป็นธรรมชาติมากขึ้น ตามไปอัพเดตกันว่าช่วงนี้มีทรีตเมนต์ยอดนิยมอะไรบ้าง  

Ultherapy® (อัลเทอร่า)

แม้จะเปิดตัวมานานตั้งแต่ปี 2008 แต่ทรีตเมนต์ยกกระชับผิวด้วยพลังงานคลื่นเสียงอัลตราซาวด์หรือที่เรียกติดปากว่า Ulthera (อัลเทอร่า) ยังคงเป็นเทคโนโลยีล้ำหน้าที่สุดที่ได้รับการรับรองโดย FDA จากประเทศสหรัฐอเมริกาว่าสามารถยกกระชับผิวหย่อนคล้อยได้อย่างเป็นธรรมชาติและเห็นผลเร็ว โดยเน้น 4 จุดสำคัญได้แก่ คิ้ว คาง คอ และเนินอก ผลลัพธ์จะยิ่งเห็นชัดขึ้นเมื่อทำไปได้ประมาณ 1 เดือน และจะอยู่ได้นานประมาณ 10-12 เดือน

 

จุดเด่น

การส่งคลื่นเสียงลงไปช่วยแก้ปัญหาจุดกำเนิดของริ้วรอยและความหย่อนคล้อยอย่างแม่นยำและถึงชั้นลึกที่สุด โดยใช้เวลาไม่นาน (ประมาณ 1-2 ชั่วโมง) เห็นความเปลี่ยนแปลงทันทีประมาณ 30% และจะเห็นผลเต็มที่เมื่อผ่านไปประมาณ 1-3 เดือน เพราะผิวมีการซ่อมแซมและฟื้นฟูจากภายใน สังเกตได้ว่าพื้นผิวเนียนละเอียดขึ้น ริ้วรอยลดเลือนลง ใบหน้าดูกระชับได้รูปสวยเป็นธรรมชาติ สำหรับคนที่มีคางสองชั้น เครื่องนี้จะช่วยสลายไขมันและเสริมสร้างความกระชับไปพร้อมกัน อย่างไรก็ตาม ระหว่างทำอาจรู้สึกเจ็บบ้าง หลังจากนั้นอาจมีอาการเสียวแปลบและมีรอยแดง แต่โดยรวมแล้วไม่มีรอยบวมช้ำให้เห็นเด่นชัด สามารถแต่งหน้ากลับไปทำกิจกรรมอื่นต่อได้เลย

 

เหมาะกับใคร

คนที่เริ่มมีริ้วรอยถาวรปรากฏ พื้นผิวเริ่มหมองคล้ำ รูขุมขนกว้าง รวมทั้งผิวหน้าเริ่มหย่อนคล้อย ทำให้เห็นเป็นรอยร่องแก้ม หางตาตก ใบหน้าโดยรวมจึงดูเหนื่อยและไม่สดใส นอกจากนี้ยังเหมาะสำหรับผู้ที่มีปัญหาคางสองชั้นหรือแนวกรอบหน้าเริ่มไม่คมชัดทำให้ใบหน้าดูใหญ่ขึ้น

 

หลักการทำงาน

เครื่องมือจะปล่อยพลังงานคลื่นเสียงอัลตราซาวด์ความถี่สูงลงไปยังจุดหมายที่ต้องการให้ยกกระชับ โดยพลังงานจะถูกเปลี่ยนเป็นความร้อนอุณหภูมิประมาณ 65-75 องศาลงเป็นจุดเล็กๆ ทำให้เกิดรอยหดตัว ผิวจึงกระชับขึ้นและทำหน้าที่กระตุ้นเซลล์ไฟโบรบลาสต์ซึ่งเป็นเซลล์หลักที่สร้างคอลลาเจนและอิลาสตินขึ้นมาใหม่ รวมทั้งช่วยซ่อมแซมคอลลาเจนเดิมที่เสื่อมสภาพด้วย นอกจากนี้ บนเครื่องมือจะมีหน้าจอให้เห็นภาพสามมิติของชั้นผิวหนังของคนไข้ ทำให้แพทย์สามารถกำหนดจุดเป้าหมายที่จะปล่อยพลังงานลงไปแก้ไขได้อย่างแม่นยำ

 

Colorful Filler

เมื่อเราอายุมากขึ้น ปริมาณของไฮยาลูโรนิกแอซิด (HA) ในผิวจะเริ่มเสื่อมสภาพ สารฟิลเลอร์จึงถูกคิดค้นมาเพื่อทดแทนหรือเสริม HA ในผิวอีกครั้ง สารเติมเต็มที่มีส่วนประกอบของไฮยาลูโรนิกแอซิด หรือเรียกกันอีกอย่างว่า Belotero Filler นี้มีคุณสมบัติในการอุ้มน้ำได้มากถึง 1,000 เท่า จึงทำให้ผิวดูอวบอิ่ม เรียบเนียน และชุ่มชื่นขึ้น ส่วนชื่อ Colorful Filler นั้นมาจากสีสันของกล่องซึ่งใช้กำหนดประเภทของฟิลเลอร์ในการแก้ปัญหาตามระดับความรุนแรงของริ้วรอยที่แตกต่างกันในแต่ละชั้นผิว เช่น

กล่องสีเขียว สูตร Hydro ช่วยเพิ่มความชุ่มชื่นให้ผิว  

กล่องสีเหลือง สูตร Soft สำหรับริ้วรอยที่ผิวชั้นนอก เช่น รอยตีนกา ริ้วรอยที่หน้าผากและรอบปาก

กล่องสีส้ม สูตร Balance สำหรับริ้วรอยลึกระดับปานกลาง เช่น ร่องลึกระหว่างคิ้ว ใต้ตา ร่องแก้ม หรือรอยเส้นในแนวตั้งจากมุมปากลงมาที่คางด้านนอก สูตรนี้สามารถช่วยเติมเต็มริมฝีปากให้ดูอวบอิ่มขึ้นได้ด้วย

กล่องสีชมพู สูตร Intense สำหรับริ้วรอยลึกมากบริเวณร่องแก้ม มุมปาก และเส้นแนวตั้งจากมุมปากลงมายังคางด้านนอก

กล่องสีม่วง สูตร Volume ช่วยแก้ปัญหาหน้าตอบไร้วอลูมและหย่อนคล้อย เช่นที่บริเวณโหนกแก้มและคาง

 

จุดเด่น

ฟิลเลอร์รุ่นนี้ผลิตด้วยเทคโนโลยี Dynamic Cross-Lining Technology ซึ่งสามารถช่วยปรับแต่งให้ดูสมดุลได้ง่าย ตัวสารยังมีความยืดหยุ่นและยึดเกาะกันได้ดี สามารถเข้าถึงและสนองความต้องการของชั้นผิวที่เฉพาะเจาะจงได้ด้วย บริเวณที่เติมจะดูเป็นธรรมชาติมากขึ้น ไม่จับเป็นก้อนแข็งอย่างในสมัยก่อน นอกจากนี้ยังมีส่วนผสมของลิโดเคน (Lidocaine) ซึ่งเป็นยาชาเฉพาะที่จึงช่วยลดอาการเจ็บและระคายเคืองขณะฉีดได้ ทั้งยังปลอดภัยและเห็นผลลัพธ์ที่ยาวนานขึ้น 

 

เหมาะกับใคร

ผู้ที่มีปัญหามีริ้วรอยร่องลึกแบบถาวรแม้จะไม่ขยับใบหน้าก็ตาม หรือใบหน้าเริ่มสูญเสียวอลูมบริเวณแก้มจนเกิดเป็นร่องลึกที่แนวข้างจมูก รวมทั้งผู้ที่มีปัญหาหน้าผากแบนหรือใต้ตาลึกโบ๋ทำให้ใบหน้าโดยรวมดูซูบเซียว และผู้ที่มีปัญหาผิวแห้งกร้านด้วย

 

หลักการทำงาน

แพทย์จะดูระดับปัญหาของริ้วรอยก่อนจึงค่อยเลือกชนิดฟิลเลอร์ที่เหมาะสม จากนั้นจะฉีดสารลงไปบริเวณที่ต้องการแล้วนวดให้สารกลมกลืนเป็นธรรมชาติไปกับผิว หลังจากฉีดแล้วสามารถอยู่ได้นานสูงสุดถึง 12 เดือน ควรงดนวดหน้าหรือทำกิจกรรมในอุณหภูมิร้อนจัดหรือเย็นจัดช่วงอาทิตย์แรกหลังทำ



WATCH



Xeomin

ชื่อทางการค้าของสาร Botulinum Toxin Type A จากประเทศเยอรมนี มีคุณสมบัติช่วยปิดกั้นการทำงานของกล้ามเนื้อ ทำให้ผิวหนังบริเวณที่ฉีดไม่สามารถขยับได้และริ้วรอยที่ปรากฏอยู่เดิมโดยเฉพาะบริเวณที่แสดงอารมณ์ เช่น หน้าผาก หางตา และร่องแก้มลดเลือนลง นอกจากนี้ยังช่วยปรับรูปหน้าให้ดูเรียวกระชับขึ้นด้วย

 

จุดเด่น

เป็นสารที่ทำงานเหมือนแบรนด์ Botox และ Dysport แต่ความพิเศษอยู่ที่ Xeomin มีโมเลกุลขนาดเล็ก ไม่มีสารโปรตีนที่ซับซ้อน ปลอดภัย จึงช่วยลดปัญหาในผู้ที่มีอาการดื้อสารจากการฉีดและลดความเสี่ยงต่อการเกิดอาการแพ้ด้วย

 

เหมาะกับใคร

ผู้ที่มีปัญหาริ้วรอย หางตาตก ผิวหน้าหย่อนคล้อย และใบหน้าขาดความเรียวกระชับ โดยเฉพาะคนที่ประสบปัญหาดื้อสาร Botulinum Toxin Type A ซึ่งเกิดจากการฉีดต่อเนื่องเป็นเวลานานและสารเหล่านี้มีโปรตีนเจือปนอยู่ทำให้ร่างกายเกิดการสะสมและสร้างแอนติบอดีเพื่อมาทำลายนั่นเอง เมื่อฉีดแล้วจึงไม่ค่อยเห็นผลและริ้วรอยก็ไม่จางลงเท่าที่ควร ดังนั้น Xeomin จึงสามารถช่วยแก้ปัญหาดังกล่าวและสามารถฉีดในปริมาณที่ต้องการได้ด้วย

 

หลักการทำงาน

ฉีดไปที่บริเวณกล้ามเนื้อที่ต้องการให้ขยับน้อยลง ทำให้รอยย่นบริเวณที่มีการขยับบ่อยจางลงและช่วยยับยั้งไม่ให้เกิดริ้วรอยขึ้นมาใหม่ หรือฉีดบริเวณแนวกรามเพื่อช่วยปรับรูปหน้าให้เรียวกระชับ รวมทั้งบริเวณหางตาหรือหางคิ้วเพื่อช่วยยกดวงตาให้ดูสดใสขึ้น หลังฉีดตัวยาจะเริ่มออกฤทธิ์ภายในสัปดาห์แรกและสามารถอยู่ได้นานประมาณ 6-8 เดือน

 

Healing Time

หลังทำทรีตเมนต์ด้วยเครื่องมือที่มีพลังงานความร้อนต่างๆ สภาพผิวมักจะยังอ่อนแอและบอบบาง ดังนั้นควรพักสกินแคร์ส่วนผสมเข้มข้นไว้ก่อนโดยเฉพาะพวกที่มีกรดต่างๆ หันมาใช้ชนิดอ่อนโยนแทน เลือกเนื้อสัมผัสที่เป็นเจลหรือเจลครีมซึ่งมีคุณสมบัติทำให้ผิวเย็นและช่วยปลอบประโลมผิวได้ดี อย่างลืม ปกป้องผิวจากแสงแดดด้วยผลิตภัณฑ์ที่มีค่าเอสพีเอฟ 30 ขึ้นไปและเน้นส่วนผสมที่ให้ความชุ่มชื่นสูงเพื่อดูแลผิวที่อาจแห้งและลอกเป็นขุยในระหว่างวันด้วย

 

Cover Photo by Phairam Danjittrong

WATCH

TAGS : Instant youth