MAKE UP

Eyeliner 101 แนะนำการเลือกใช้อายไลเนอร์แต่ละแบบสำหรับมือใหม่

ทำความรู้จักกับอายไลเนอร์แต่ละแบบว่ามีความแตกต่างกันอย่างไร เหมาะสำหรับลุคการแต่งหน้าแบบไหน

     ‘อายไลเนอร์’ เป็นเมกอัปไอเท็มที่ช่วยให้ดวงตาดูกลมโต สวยคม ไม่ว่าจะแต่งลุคไหนเมื่อได้การเขียนอายไลเนอร์ก็ช่วยคอมพลีตลุคให้ดูเติมเต็มยิ่งขึ้น ซึ่งการเขียนอายไลเนอร์แต่ละแบบก็ช่วยเพิ่มเสน่ห์ที่แตกต่างกันไปเช่นกัน ฉะนั้นการเลือกอายไลเนอร์แต่ละประเภทจึงมอบผลลัพธ์ที่ไม่เหมือนกันนั่นเอง โว้กบิวตี้พามาทำความรู้จักกับอายไลเนอร์แต่ละเภท มือใหม่หัดเขียนอายไลเนอร์ควรรู้!

 

เจลไลเนอร์

     อายไลเนอร์ที่มาพร้อมกับรูปแบบกระปุกเล็กๆ มีลักษณะเป็นเนื้อเจลที่ไม่เหลวหรือแห้งจนเกินไป ใช้คู่กับแปรงที่มีลักษณะหัวกลมหรือหัวตัดแล้วแต่ความถนัด เพื่อช่วยให้กำหนดขนาดเส้นของไลเนอร์ได้ตามใจชอบ เหมาะสำหรับคนที่มีพื้นฐานในการเขียนไลเนอร์เล็กน้อย เพราะในบางครั้งอาจต้องใช้ความแม่นยำในการกำหนดจุดการเขียนเส้นไลเนอร์ ข้อดีคือติดทนนานมากเมื่อเทียบกับอายไลเนอร์ชนิดอื่น แต่ข้อเสียคือค่อนข้างแห้งไวกว่าแบบอื่น ถ้าเนื้อเจลในกระปุกแห้งเกินไป ลองใช้สเปรย์น้ำแร่ฉีดเล็กน้อย เพื่อช่วยให้สามารถแตะเนื้ออายไลเนอร์ขึ้นมาได้ง่ายและเกลี่ยบนเปลือกตาได้ถนัดกว่าเดิม

 

Pro Longwear Fluidline Eye Liner And Brow Gel จาก MAC Cosmetics (ราคา 1,150 บาท)

Eyestudio Lasting Drama Gel Liner จาก Maybelline (ราคา 399 บาท)

 

ปากกาเมจิกไลเนอร์

     อายไลเนอร์ชนิดนี้เหมาะสำหรับมือใหม่หัดเขียนอายไลเนอร์ เพราะจับถ่ายเหมือนปากกา ถนัดมือ มาพร้อมกับหัวปากกาเรียวเล็กที่ช่วยกำหนดทิศทางการเขียนได้ตามต้องการ เนื้อสัมผัสเป็นลิควิดที่ไม่เหลวจนเกินไป จึงสามารถเขียนและเนียนไปกับเปลือกตาได้ง่าย มอบการติดทนนานไม่แพ้อายไลเนอร์ประเภทอื่น ทั้งยังมีหลากหลายสีให้เลือกสรร จึงไม่แปลกใจที่อายไลเนอร์ประเภทนี้เป็นที่นิยมมากที่สุดในบรรดาอายไลเนอร์ทั้งหมด

 



WATCH



Forever Pen Liner Waterproof จาก Mille (ราคา 495 บาท)

Stay All Day Waterproof Liquid Eyeliner จาก Stila (ราคา 980 บาท)

ดินสอไลเนอร์

     ดินสอไลเนอร์มี 2 แบบหลักๆ คือ ดินสอที่ต้องใช้ที่เหลาและดินสอหมุนออโต้ ซึ่งทั้งสองแบบนี้มีเนื้อสัมผัสเหมือนกันที่เป็นลักษณะเหมือนเนื้อดินสอ แต่ไม่แห้งจนเกินไป จึงสามารถใช้ได้ทั้งเปลือกตาและขอบตา หลายคนจึงนิยมนำอายไลเนอร์ชนิดนี้มาเขียนบริเวณเส้นขอบตาหรือที่เรารู้จักกันในชื่อว่า ‘อินไลเนอร์’ นั่นเอง ด้วยความที่เนื้อสัมผัสไม่แห้งหรือเหลวจนเกินไป จึงสามารถใช้แปรงหัวเล็กที่มีลักษณะแบน นำมาเกลี่ยให้เส้นไลเนอร์ดูฟุ้ง เหมาะสำหรับแต่งในลุคใสๆ ประจำวันได้ หรือถ้าใครอยากได้ลุคแน่นจัดเต็ม แนะนำให้เขียนดินสอไลเนอร์เพื่อเป็นการกำหนดเส้นไลเนอร์ก่อน จากนั้นตามด้วยการใช้ปากกาเมจิกหรือเจลไลเนอร์เขียนทับอีกครั้ง เพื่อช่วยให้การแต่งตาติดทนตลอดวัน

 

Last Auto Gel Eyeliner จาก Bbia (ราคา 195 บาท)

Trust Me Auto Pencil Eyeliner จาก Cosluxe (ราคา 229 บาท)

ลิควิดอายไลเนอร์

     อายไลเนอร์ประเภทนี้มาในลักษณะหลอดจิ้มจุ่มที่มาพร้อมกับหัวแปรงแบบจุ่ม เนื้อสัมผัสเป็นเหมือนน้ำหมึกที่ค่อนข้างเหลวเมื่อเทียบกับอายไลเนอร์ชนิดอื่น มอบผลลัพธ์เส้นเล็กคมชัด ฟินิชจะมีความวาวเล็กน้อย ไม่แมตต์เท่ากับเจลไลเนอร์หรือดินสอไลเนอร์ แต่อายไลเนอร์ชนิดนี้ไม่ค่อยเหมาะกับมือใหม่เพราะว่าควบคุมในการเขียนได้ยากด้วยหัวแปรงที่เล็กและบาง ถึงแม้จะมีเนื้อสัมผัสค่อนข้างเหลวแต่มีความติดทนนานมาก เหมาะสำหรับลุคแน่นจัดเต็มหรือใครที่ต้องการความติดทนของการแต่งตาเป็นพิเศษในวันนั้น

 

Aqua Resist Color Ink Eyeliner จาก Make Up For Ever (ราคา 1,000 บาท)

Dip Eyeliner Waterproof 24h Long-Lasting จาก Essence (ราคา 165 บาท)

ภาพ : @emmachenartistry, @apj.bella, Courtesy of brands

WATCH

TAGS : EyeLiner