‘Drag Queen’ ภาพสะท้อนศิลปะ ความคิดสร้างสรรค์ และความเท่าเทียมผ่านตัวตนที่ไร้ขอบเขต

ในโลกของศิลปะการแสดงและวัฒนธรรมสมัยใหม่ปฏิเสธไม่ได้ว่า ‘แดร็กควีน’ (Drag Queen) ก็เป็นตัวเอกที่ไม่เพียงสะท้อนความสามารถทางศิลปะและความคิดสร้างสรรค์ แต่ยังเป็นสัญลักษณ์ของการทลายกรอบและการแสดงออกถึงตัวตนที่หลากหลายภายใต้หน้ากากที่ฉูดฉาดและลวดลายที่เหนือความเป็นจริง บทความนี้โว้กบิวตี้พาไปทำความรู้ศิลปะบนเรือนร่างและการแสดงออก ทั้งยังแฝงไปด้วยประเด็นที่แหลมคมอย่าง 'แดร็กควีน'

 

จากการแสดงในคลับสู่การแสดงออกทางนัยยะที่แอบแฝง

หากกล่าวถึงต้นกำเนิดแดร็กควีนคงต้องกล่าวถึงรากฐานที่มาจากการแสดงในโรงละครและคลับเพื่อความบันเทิง ในสมัยก่อนที่ผู้ชายแต่งตัวและสวมบทบาทแสดงเป็นผู้หญิง และเป็นข้อเท็จจริงที่แดร็กควีนอยู่คู่กับวัฒนธรรมเกย์มาตั้งแต่ต้น โดยเฉพาะในช่วงปลายทศวรรษที่ 20 ที่แดร็กควีนได้กลายมาเป็นสัญลักษณ์ของการต่อต้านและการแสดงออกทางวัฒนธรรมที่แตกต่างจากมาตรฐานสังคมดั้งเดิม โดยไม่ได้เป็นการแสดงความสามารถในการแต่งหน้าหรือแต่งตัวแต่ยังนำเสนอความหลากหลายทางเพศและความเป็นอิสระทางตัวตนที่อยู่เหนือกรอบสังคมโดยปริยาย

 

 

 

 

 

 

ดูโพสต์นี้บน Instagram

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

โพสต์ที่แชร์โดย RuPaul's Drag Race (@rupaulsdragrace)

Rupaul’s Drag Race เวทีประชันตัวตนผ่านความคิดสร้างสรรค์ทางศิลปะและความบันเทิง

ในแง่ของศิลปะและการแสดง แดร็กควีนสามารถใช้เวทีเป็นพื้นที่ในการแสดงออกทางความคิดสร้างสรรค์ผ่านการร้องเพลง เต้น แต่งหน้า หรือการแสดงอารมณ์ที่มีเอกลักษณ์ ทำให้การแสดงของพวกเขามักเต็มไปด้วยอารมณ์สนุกสนานแต่ในขณะเดียวกันก็สามารถสะท้อนประเด็นทางสังคม การเมือง การเคลื่อนไหวเพื่อความเท่าเทียม หรือแฝงไปด้วยการทลายขอบเขตทางสังคม

อย่างรายการประกวดแดร็กควีนจากฝั่งอเมริกาฯ Rupaul’s Drag Race ของ Rupaul (รูพอล) ควีนของเหล่าแดร็กควีนทั่วโลกจากผลงานในวงการบันเทิงมากมาย โดยรายการนี้จะนำศาสตร์ทุกแขนงของการเป็นแดร็กควีนมาแข่งขันกัน ไม่ว่าจะเป็นร้อง เล่น หรือเต้นรำ รวมถึงการออกแบบเสื้อผ้า โดยมีไฮไลต์ประจำซีซั่นที่หลายคนรอคอยอย่างการแข่งกันแต่งเป็นคนดัง ซึ่งการมีอยู่ของการรายการนี้ทำให้ Rupaul เป็นอีกหนึ่งบุคคลคุณูปการสำคัญที่ช่วยผลักดันให้ชาว LGBTQ+ ได้มีพื้นที่ในการเฉิดฉายความเป็นตัวเอง รวมถึงยังเป็นแรงบันดาลใจให้กับใครหลายคนไม่ว่าจะเพศใดก็ตาม

 

 

 

 

 

 

ดูโพสต์นี้บน Instagram

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

โพสต์ที่แชร์โดย ･ﾟ: *✧ Chappell Roan ✧*:･ﾟ (@chappellroan)

Chappell Roan ศิลปินเควียร์ในลุคแดร็กสุดโต่งกับตัวตนที่จัดจ้าน

อีกหนึ่งคนดังที่มักเห็นเธอปรากฏตัวในลุคที่โดดเด่นอยู่เสมออย่าง ‘แชปเปล โรน’ (Chappell Roan) ศิลปินเควียร์ที่สะท้อนตัวตนอย่างจัดจ้านผ่านลุคสุดโต่ง กับประโยคประจำตัวอย่าง “I’m Chappell Roan, and I’m your favourite artists’ favourite artist” ที่ได้แรงบันดาลใจมาจากแดร็กควีนชื่อดังอย่าง ‘ซาช่า โคลบี้’ (Sasha Colby) ที่เคยกล่าวว่า “ฉันคือแดร็กควีนที่คุณชื่นชอบ ‘ชื่นชอบ’” เธอชื่นชอบประโยคนี้และหวังว่าสักวันเมื่อซาช่าเห็นเธอกล่าวประโยคนี้จะสามารถรับรู้ได้ถึงความชื่นชอบและชื่นชมที่เธอมีให้

โดยเธอได้รับแรงบันดาลใจในการรังสรรค์ลุคที่จัดเต็มเสมือนแดร็กมาจากเพื่อนที่เป็นทั้งแดร็กควีนและนักแสดงละครเวที Chappell คลุกคลีกับวัฒนธรรมแดร็กมาหลายปีโดยก่อนหน้าที่จะโด่งดังเธอเคยเลือกให้ศิลปินแดร็กควีนในท้องถิ่นมาร่วมคอนเสิร์ตของเธออยู่บ่อยครั้งและกลายมาเป็นธรรมเนียมที่เธอยังคงปฏิบัติมาจนถึงทุกวันนี้ ด้วยการแต่งกายที่เล่นใหญ่และจัดเต็มเสมือนแดร็กควีนทุกครั้งที่ขึ้นโชว์ สะท้อนถึงการแสดงออกถึงตัวตนของเธอเองและคอมมูนิตี้ LGBTQ+ ส่งให้ Chappell กลายเป็นศิลปินขวัญใจของ Gen Z และ LGBTQ+ ที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัวแบบสุดโต่ง

แดร็กควีนไม่จำเป็นต้องเป็นหญิงแท้หรือผู้มีรสนิยมทางเพศที่เฉพาะเจาะจงแต่แดร็กควีนจะใช้การแสดงที่มีความเป็นศิลปะและมีความหมายในการแสดงตัวตนที่สร้างสรรค์มากกว่าการตีความแบบดั้งเดิม ในการแสดงแดร็กควีนมักจะมีการผสมผสานระหว่างความตลกขบขัน ล้อเลียน และความกล้าในการแสดงออก ซึ่งมากกว่าความบันเทิงแดร็กควีนเป็นดั่งคอมมูนิตี้ที่ผลักดันความเท่าเทียมและเป็นพื้นที่ให้หลายคนรู้สึกเป็นตัวของตัวเองมากขึ้น ดังนั้นแดร็กควีนจึงไม่ใช่แค่การแต่งตัวเพื่อความบันเทิงเท่านั้น แต่ยังเป็นการแสดงออกถึงอำนาจในการเลือกตัวตน และการทลายขีดจำกัดที่สังคมมีเพื่อกำหนดการแสดงออกทางเพศและอัตลักษณ์ในแบบของตัวเอง

 

ภาพ: via from Instagram (@chappellroan) and Dave Soto from Unsplash