MAKE UP

เตรียมตัวไว้สำหรับปี 2019 เพราะนี่คือ 6 บิวตี้เทรนด์ที่มาแน่ๆ ที่สำคัญทำตามได้จริง

เป็นเทรนด์ที่เราเลือกมาแล้วว่าใครก็ทำตามได้

หลายครั้งที่เห็นเทรนด์บิวตี้ต่างๆ มักจะมีความเรารู้สึกว่าทำตามได้ยาก เพราะบางเทรนด์ก็สุดโต่งเกินกว่าจะเข้าใจ และใช้ไม่ได้จริงในชีวิตประจำวัน แต่สำหรับปีหน้านี้เราขอดึงเทรนด์บิวตี้ที่ถูกเซ็ตขึ้นโดยเจ้าแม่บิวตี้กูรู Kathy Phillips, International Beauty Director ภูมิภาคเอเชียของนิตยสาร Vogue, “W” Self, Vogue Girl และ Allure รวมถึงเจ้าของแบรนด์บิวตี้ This Work นอกจากนี้ 6 เทรนด์ที่เราจะพูดถึงนั้น เป็นเทรนด์ที่เราคัดมาแล้วว่า สาวๆ โว้กบิวตี้ของเราจะสามารถทำตามได้จริง รวมถึงผลิตภัณฑ์จำเป็นที่จะช่วยให้สาวๆ achieve เทรนด์เหล่านี้ด้วย

1. Global Warming

ร้อนแรงตามชื่อเทรนด์ด้วยการแต่งหน้าแบบผิวบ่มแดด รับกับอากาศร้อนระอุของซัมเมอร์ในปีหน้า ที่เป็นรันเวย์ลุคของ ALTUZARRA และ ALBERTA FERRETTI คีย์หลักคือใช้บรอนเซอร์มาปัดแก้ม และอย่าลืมปัดช่วงหน้าแก้มด้วย เพื่อครีเอตผิวบ่มแดดจริงๆ และอวดสีปากธรรมชาติด้วยการทาแค่กลอสหรือลิปบาล์มเท่านั้น

1 / 3

MARC JACOBS O!Mega Bronzer Coconut Perfect Tan
บรอนเซอร์ Limited Edition ไซส์ใหญ่สะใจ สร้างผิวบ่มแดดกำลังดี ที่สำคัญคือกลิ่นหอมหวานจากมะพร้าว

2 / 3

TOM FORD Bronzing Powder
แพ็กเกจจิ้งสีขาวโดดเด่น เนื้อละเอียด เพิ่มผิวโกลว์บ่มแดดได้อย่างเป็นธรรมชาติ หรือจะใช้คอนทัวร์เบาๆ เพื่อสร้างความคมชัดให้กับโครงหน้าด้วยก็ได้

3 / 3

HOURGLASS Ambient Lighting Bronzer
บรอนเซอร์เนื้อละเอียด มีความวาวโกลว์เล็กๆ ไม่เอะอะ เบลนด์กลืนไปกับผิวได้ไม่ยาก ช่วยให้ผิวสวยโกลว์ดูมีมิติ มาพร้อม 4 เฉดสีให้เลือก



WATCH



2. Forgive those Freckles

ใครที่หน้าเป็นกระแนะนำให้อวดไปเลย ไม่ต้องปกปิดให้ยุ่งยาก เทรนด์โชว์ผิวกระตามธรรมชาติกำลังจะกลับมาแน่นอน หรือถ้าใครไม่มีก็สามารถสร้างกระขึ้นมาเองก็ได้ หลักการที่ถูกต้องคือใช้ดินสอเขียวคิ้วประมาณ 3-4 เฉดสี เพื่อให้ได้กระสีน้ำตาลที่ต่างกันตามธรรมชาติ ไม่ควรใช้น้ำตาลเฉดเดียว เพราะอาจจะโป๊ะได้ ถ้าอยากจะให้มีลูกเล่นขึ้นอีกนิดอาจจะติดเป็นคริสตัลเล็กๆ ช่วงหน้าแก้มแทน

3. Olympic Skin

เป็นเทรนด์ผิวเงาจากเหงื่อแบบเหล่านักกีฬา ทำให้เทรนด์ผิวดิวอี้ยังฮิตอยู่แน่นอนสำหรับปีหน้า ผิวแบบ Olympic Skin ไม่ใช่การฟาดไฮไลต์เพียงอย่างเดียว แต่หลักๆ คือการบำรุงผิวให้ชุ่มชื่น และก่อนลงรองพื้นให้ลงออยล์ก่อนเป็นอันดับแรกเพื่อเพิ่มความฉ่ำเงา นอกจากนี้อาจจะเลือกใช้เป็นรองพื้นเนื้อดิวอี้บางเบาแทน เพื่อไม่ให้บดบังความเงาของผิว ส่วนแก้มแทนที่จะใช้เป็นแบบฝุ่นปัด แนะนำให้ใช้เป็นบลัชแบบครีม หรือจะใช้ลิปสติกสีแดงก็ได้ แล้วใช้นิ้วเบลนด์เอา จะได้แก้มที่ดูระเรื่อ เหมือนเพิ่งออกกำลังกายมา

1 / 4

LA MER The Renewal Oil
เป็นออยล์ที่ทำได้หลายอย่าง ทั้งช่วยเติมความชุ่มชื่นให้ผิว ฟื้นฟูผิว ต่อต้านริ้วรอย ที่สำคัญคือเขาไม่เนอะหนะ แถมยังใช้ได้ตั้งแต่ผิวหน้า ผม ริมฝีปาก หรือจะใช้ผสมกับรองพื้นเพื่อเติมความฉ่ำโกลว์ให้กับผิวก็ได้

2 / 4

HERBIVORE BOTANICALS Mini Facial Oil Trio 2 รีวิว
เซตออยล์บำรุงผิวในขนาดดีลักซ์ไซส์ Lapis Facial Oil จะช่วยเติมความชุ่มชื่นและปรับสีผิวให้สม่ำเสมอ เหมาะสำหรับผิวมัน ผิวผสม และผิวที่มีปัญหาสิว Phoenix Facial Oil เหมาะสำหรับผิวแห้งที่ต้องการความชุ่มชื่นแบบแน่นๆ และ Orchid Facial Oil ช่วยเพิ่มความโกลว์ เหมาะสำหรับผิวทุกประเภท แนะนำให้ใช้ก่อนลงรองพื้นเพื่อสร้างผิวเงาวับ

3 / 4

Glossier Cloud Paint สี Storm
ครีมบลัชเนื้อเกลี่ยง่าย ที่คงไม่ต้องพูดเยอะ เพราะฮอตฮิตมาก ให้สีติดทนชัด สี Storm เป็นสีโทนแดงก่ำ ใช้น้อยๆ ก็ทำให้ผิวกลายเป็นสุขภาพดีขึ้นมาทันที

4 / 4

SHISEIDO Minimalist WhippedPowder Blush สี Sayoko
บลัชออนสีแดงเนื้อมูส ช่วยสร้างผิวให้มีเลือดฝาด เพิ่มความโกลว์เล่นแสงให้กับผิว เป็นบลัชที่เกลี่ยง่าย ติดทน และเรียบเนียนไปกับผิวจริง

4. Keep it real hair

เทรนด์ที่ได้แรงบันดาลใจจากผมธรรมชาติของผู้หญิงที่ไม่ได้ถูกสไตลิ่งมาก และเป็นการอวดความสวยตามแบบธรรมชาติของผู้หญิง เป็นอีกหนึ่งเทรนด์ที่เราเลือกมา เพราะเชื่อว่าสาวๆ ทำตามเทรนด์นี้ได้ไม่ยาก คนที่ผมหยักโศกอยู่แล้วก็อาจจะหวีสักหน่อย และลูบออยล์ลงบนผมสำหรับการจัดทรงเล็กน้อย แต่ถ้าเป็นสาวผมตรง อาจจะจะปล่อยตามธรรมชาติหรืออาจจะม้วนแบบแกล้งๆ หน่อย ไม่ต้องตั้งใจมากก็ได้ เพื่อเพิ่มให้ผมมี Volume เพิ่มขึ้นมาอีกนิด

1 / 3

AVEDA Dry Remedy Daily Moisturizing Oil
ช่วยเพิ่มความชุ่มชื่นให้ผมโดยไม่ทิ้งความมัน สำหรับสาวผมมันอาจจะใส่แค่ช่วงปลายผมก็ได้ ถ้ากลัวผมรีบแบน แต่สำหรับสาวผมแห้งก็บำรุงได้เลยตั้งแต่โคนจรดปลาย

2 / 3

PERCY & REED No Oil Oil For Fine Hair
ออยล์อเนกประสงค์ที่จะช่วยทั้งบำรุงและซ่อมแซมตั้งแต่รากจรดปลาย ชะโลมลงบนผมแล้วเป่าให้แห้ง ผมจะดูเงางามมีน้ำหนักขึ้นทันที

3 / 3

L'Oreal Paris Elseve Extraordinary Oil Botanical Jasmine Oil Infusion Fragrance Hair Oil
ออยล์สำหรับใส่ผม กลิ่นหอม ชะโลมก่อนเป่าแห้งก็จะทำให้ผมทิ้งตัวสวย หรือจะใส่ตอนผมแห้ง แล้วหวีเพื่อลดผมชี้ฟู เพิ่มความเงางามให้เส้นผมก็ได้ โดยเฉพาะสาวๆ ผมแห้งฟูและหยักโศก

5. Perfect Reds

เวลาพูดถึงสีแดงคลาสสิกก็คือคลาสิกไร้กาลเวลาจริงๆ เพราะไม่ว่าจะปีไหนก็สามารถเอาสีนี้กลับมาเล่นได้อยู่ดี ปีหน้าเราจะยังคงได้เห็นลุคแต่งตาน้อยๆ กับปากแดงสด และเบลนด์ขอบปากให้เบลอ ไม่ต้องเพอร์เฟกต์มาก รวมถึงเล็บสีแดงด้วย เรียกว่าเป็น Timeless Trend จะแต่งเมื่อไรก็ยังอินอยู่ ไม่มีใครว่าได้

6. Baby Bangs

ม้าเต่อจะกลับมา! ใครที่อยากเปลี่ยนลุคแนะนำว่าตัดม้าเต่อเนี่ยแหละเปลี่ยนลุคของสาวๆ ได้แน่นอน เทรนด์นี้ก็อาจจะเหมาะสำหรับสาวๆ ที่เปรี้ยวซ่าสักนิด เป็นหนึ่งเทรนด์ที่ไม่ต้องอธิบายอะไรมาก แค่เดินเข้าร้านทำผม แล้วเปิดรูปให้ช่างดู คุณก็ได้ทรงผมที่อินเทรนด์สำหรับปีหน้าแล้ว หรือจะใส่เป็นวิกหน้าม้าปลอมก็ได้ แต่ต้องมั่นใจนะว่าใส่แล้วจะเนียนเหมือนตัดจริง

WATCH