จบปัญหาคอลซีลเลอร์ใต้ตาตกร่องด้วย 5 เทคนิคนี้

หนึ่งในปัญหาของสาวๆ ที่มีใต้ตาดำคือการลงคอลซีลเลอร์ นอกจากจะต้องกลบรอยแพนด้าให้มิดแล้วยังต้องเจอปัญหาอย่างคอลซีลเลอร์ใต้ตาตกร่อง ไม่ว่าจะด้วยปัญหาริ้วรอยรอบดวงตาที่มาพร้อมสัญญาณแห่งวัยหรือสภาพอากาศเมืองไทยที่ทำให้เมกอัปไหลเยิ้มได้ง่ายระหว่างวัน โว้กบิวตี้เลยขอรวบรวมเอาเทคนิคการลงคอนซีลเลอร์ใต้ตาที่ช่วยจบปัญหาใต้ตาตกร่องกับ 5 เทคนิคนี้ที่ทำตามได้จริงในชีวิตประจำวัน 

ลอง 5 เทคนิคนี้ คอลซีลเลอร์ไม่มีตกร่องแน่นอน

1.ห้ามลืมบำรุงผิวรอบดวงตา

ถ้าใครยังคิดว่าการลงบำรุงผิวรอบดวงตานั้นไม่ใช่เรื่องสำคัญขอให้ลองคิดใหม่ เพราะการบำรุงผิวรอบดวงตาให้ชุ่มชื้นนั้นถือเป็นพื้นฐานสำคัญในการลงคอนซีลเลอร์ให้สวยและเรียบเนียน โดยทิปส์ในการลงสกินแคร์นั้นคือการลงในปริมาณที่พอดีที่จะไม่ทำให้ผิวใต้ตาแห้งหรือชุ่มชื้นมากเกินไปและควรทิ้งระยะเวลาก่อนลงคอลซีลเลอร์ให้สกินแคร์เซ็ตตัวอย่างน้อย 3-5 นาที หากไม่มีเวลาจริงๆ ก็สามารถใช้กระดาษซับหน้าเพื่อซับเอาความมันออกแทนได้ 

2.อย่าลงเนื้อผลิตภัณฑ์เยอะเกินไป

การลงคอลซีลเลอร์ที่ดีควรเริ่มจากปริมาณทีละน้อยและค่อยเพิ่มทีหลังตามความเหมาะสม โดยการลงผลิตภัณฑ์เยอะเกินไปในทีแรกอาจจะทำให้คอลซีลเลอร์ส่วนเกินกองอยู่บนผิวและทำให้เห็นริ้วรอยรอบดวงตาได้ชัดเจนมากขึ้นนั่นเอง ทิปส์ในขั้นตอนนี้คือการค่อยๆ ลงเป็นจุดเล็กๆ 3-4 จุดบริเวณใต้ตาโดยไม่ใช้การปาดหรือป้ายเพราะจะทำให้ควบคุมปริมาณได้ยาก 

3.ใช้แปรงหรือนิ้วมือแทนพัฟฟองน้ำ

ผิวบริเวณรอบดวงตาถือเป็นบริเวณที่มีความบอบบางจึงไม่ควรลงน้ำหนักในบริเวณนี้มากนัก โดยการใช้แปรงหัวเล็กสำหรับการลงคอลซีลเลอร์จะช่วยให้ฟินิชผิวรอบดวงตาดูบางเบาไม่หนาจนเกินไปและยังทำให้สามารถควบคุมน้ำหนักมือไม่ให้ระคายเคืองบริเวณรอบดวงตา ทิปส์ในขั้นตอนนี้คือการใช้แปรงค่อยๆ ลากเนื้อผลิตภัณฑ์ให้กระจายตัวและใช้นิ้วมือค่อยๆ กดลงบนผิวเบาๆ อุณหภูมิที่มีความอุ่นของนิ้วมือเราจะช่วยให้เนื้อคอนซีลเลอร์เบลนด์เข้ากับผิวได้อย่างเรียบเนียนและเป็นธรรมชาติมากขึ้น

4.เลเยอร์ด้วยสเปรย์เช็ตเมกอัป 

หากใครที่มีผิวมันง่ายการเลเยอร์ด้วยสเปรย์เซ็ตเมกอัปก็ถือเป็นอีกไอเท็มหนึ่งที่ช่วยเพิ่มความมั่นใจได้ว่าเมกอัปจะอยู่กับเราไปตลอดทั้งวัน โดยทิปส์ในขั้นตอนนี้คือการใช้เช็ตติ้งสเปรย์พ่นลงไปที่แปรงสำหรับลงคอนซีลเลอร์และค่อยๆ แตะเพื่อเกลี่ยคอลซีลเลอร์ให้เข้ากับผิว ขั้นตอนนี้จะช่วยให้เนื้อผลิตภัณฑ์เช็ตตัวและล็อกอยู่บนผิวได้ดียิ่งขึ้น และอย่าลืมที่จะใช้เช็ตติ้งสเปรย์ทุกครั้งในขั้นตอนท้ายสุดหลังจากแต่งหน้าเสร็จเพื่อล็อกเครื่องสำอางทุกอย่างให้ติดทนมากยิ่งขึ้น 

5.ใช้เช็ตติ้งพาวเดอร์ทุกครั้ง

สำหรับใครที่ชอบแต่งหน้าแบบลุคธรรมชาติและไม่อยากลงแป้งให้ผิวแมตต์แบบทั่วทั้งหน้า ให้ลงแป้งฝุ่นเซ็ตติ้งหรือแป้งอัดแข็งสีโปร่งแสงโดยใช้คู่กับหัวแปรงขนาดเล็กที่มีลักษณะเป็นพู่เพราะจะช่วยกระจายเนื้อแป้งได้ดี โดยใช้แปรงปัดลงไปที่เนื้อแป้งแล้วเคาะออกก่อนเพื่อป้องกันแป้งส่วนเกิน จากนั้นค่อยๆ ใช้แปรงกดลงบริเวณผิวรอบดวงตาอย่างเบามือให้ทั่วบริเวณ เพียงเท่านี้ก็จะได้ผิวรอบดวงตาที่ดูสดใสเรียบเนียนและติดทนตลอดทั้งวันแล้ว