Fenty Beauty 

 ความยั่งยืนหรือ Sustainability เป็นหัวใจหลักของแบรนด์ Fenty Beauty โดยทุกผลิตภัณฑ์ของแบรนด์ผลิตขึ้นภายใต้คอนเซปต์ Earth-conscious หรือคำนึงถึงสิ่งแวดล้อมเป็นหลัก ซึ่งให้ความสำคัญกับการใช้วัสดุที่มาจากการรีไซเคิล รวมถึงการออกแบบแพ็คเกจจิ้งที่เมื่อใช้หมดแล้วสามารถกลับมาใช้ได้ใหม่ด้วยการเติมรีฟิล "ฉันอยากให้แพ็คเกจจิ้งดูสวย ใช้งานสะดวกโดยที่คำนึงถึงสิ่งแวดล้อม เราตัดการใช้กล่องสำหรับบางผลิตภัณฑ์ มีรีฟิลซื้อเติมได้ และเน้นใช้วัสดุที่มาจากการรีไซเคิล ไม่มีใครเพอร์เฟคแต่ฉันเชื่อว่าเราสามารถพยายามทำให้ดีที่สุดได้และค่อยๆ พัฒนาขึ้นไปอีกเรื่อยๆ" Rihanna ผู้ก่อตั้งแบรนด์ Fenty Beauty กล่าวถึงความมุ่งมั่นของแบรนด์ของเธอในการช่วยรักษาสิ่งแวดล้อม

Hourglass

 นอกจากจะเป็นแบรนด์ที่ไม่ทดลองกับสัตว์แบบเต็มรูปแบบแล้ว Hourglass ยังมุ่งมั่นพัฒนาผลิตภัณฑ์ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมอย่างต่อเนื่อง อย่างล่าสุดได้เปิดตัวพาเลตต์อายแชโดว์ที่สาวกของแบรนด์สามารถ Customize ออกแบบพาเลตต์ได้ตามใจชอบด้วยอายแชโดว์หลากสีและเนื้อสัมผัสแบบรีฟิลได้ ทั้งนี้ยังคงคอนเซปต์คุณภาพของแต่ละผลิตภัณฑ์ที่มาพร้อมเนื้อสัมผัสลักชัวรี ใช้ง่าย และที่สำคัญรักษ์โลกและไม่ทำร้ายน้องสัตว์

Charlotte Tilbury

 คนที่เป็นแฟนคลับของ Magic Cream หนึ่งในผลิตภัณฑ์ไอคอนิกของแบรนด์ Charlotte Tilbury ตอนนี้มีตลับรีฟิลจำหน่ายเป็นที่เรียบร้อย โดยสามารถใช้กระปุกเดิมได้ ช่วยลดการสร้างขยะจากแพ็คเกจจิ้ง 

Chanel

เป็นอีกหนึ่งแบรนด์ที่ให้ความสำคัญกับความยั่งยืนมาโดยตลอด ไม่ว่าจะทางฝั่งของแฟชั่นหรือบิวตี้ที่ล่าสุดเปิดตัว  N°1 de Chanel กลุ่มผลิตภัณฑ์เจเนอเรชั่นใหม่เพื่อความงามที่ยั่งยืน มาพร้อมส่วนผสมของดอกคามิลเลียสีแดงที่ช่วยฟื้นบำรุงผิวให้เปล่งปลั่งอ่อนเยาว์ โดยมาพร้อมแพ็คเกจจิ้งรักษ์โลกที่ออกแบบให้เป็นมิตรต่อระบบนิเวศน์ด้วยดีไซน์ที่เรียบง่ายและทันสมัย สะท้อนถึงความทุ่มเทของ Chanel ในการช่วยลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมในทุกขั้นตอนของวงจรชีวิตของผลิตภัณฑ์ เช่น ฝาของผลิตภัณฑ์ถูกผลิตจากวัตถุดิบธรรมชาติที่สามารถนำไปรีไซเคิลได้ กระปุกครีมบำรุงผิวมีรีฟิลสามารถเติมได้ วัสดุแก้วที่ใช้ของแต่ละผลิตภัณฑ์มีน้ำหนักที่เบาลง นอกจากนี้ผลิตภัณฑ์อื่นๆ ของแบรนด์ อย่างน้ำหอม ก็มีแพ็คเกจจิ้งที่รักษ์โลกเช่นกัน

Augustinus Bader

สำหรับเซรั่มและอายครีมซึ่งเป็น 2 ผลิตภัณฑ์ใหม่ล่าสุดของแบรนด์ Augustinus Bader นอกจากจะมาพร้อมส่วนผสมสุดล้ำแล้วยังมาพร้อมแพ็คเกจจิ้งดีไซน์เก๋ที่เมื่อผลิตภัณฑ์ถูกใช้หมดสามารถซื้อรีฟิลมาเติมได้ โดยการพัฒนาอย่างยั่งยืนและส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมให้น้อยที่สุดเป็นปรัชญาที่แบรนด์ยึดถือมาตั้งแต่จุดเริ่มต้น ซึ่งได้เน้นใช้ส่วนผสมแบบคลีนบิวตี้และให้ความสำคัญกับการเก็บเกี่ยวแต่ละส่วนผสมจากธรรมชาติแบบยั่งยืน รวมถึงได้สร้างสรรค์แพ็คเกจจิ้งที่สามารถรีไซเคิลได้และงดการใช้พลาสติกห่อหุ้มผลิตภัณฑ์

La Prairie 

ในฐานะแบรนด์สกินแคร์ระดับลักชัวรีชั้นนำของโลก แบรนด์สัญชาติสวิสอย่าง La Prairie เป็นอีกหนึ่งผู้นำด้านการพัฒนาอย่างยั่งยืน โดยพัฒนาผลิตภัณฑ์ด้วยส่วนผสมที่ก้าวล้ำอย่างไม่หยุดนิ่งและในขณะเดียวกันมุ่งมั่นที่จะสร้างสมดุลกับสิ่งแวดล้อมโดยให้ความเคารพต่อสรรพยากรที่นำมาใช้ แต่ละผลิตภัณฑ์สร้างสรรค์ขึ้นโดยคำนึงถึงสิ่งแวดล้อม อย่าง กลุ่มผลิตภัณฑ์ Pure Gold ที่ล่าสุดมีรีฟิลวางจำหน่าย

Kiehl's

Kiehl's เป็นอีกหนึ่งแบรนด์ความงามที่ให้ความสำคัญกับการรักษาสิ่งแวดล้อม โดย 73 เปอร์เซนต์ของผลิตภัณฑ์ทั้งหมดไม่มีการใช้กล่อง และ 83 เปอร์เซนต์ของผลิตภัณฑ์ทำจากวัสดุรีไซเคิล นอกจากนี้แบรนด์ยังสนับสนุนให้ผู้ใช้รักษ์โลกไปด้วยกันผ่านโปรแกรมอย่าง Recycle & Be Rewarded ที่เมื่อนำผลิตภัณฑ์ที่ใช้หมดมารีไซเคิลที่ช้อปของแบรนด์จะได้รับคะแนนในการแลกซื้อผลิตภัณฑ์ชิ้นต่อไป นอกจากนี้ยังมีแพ็คเกจจิ้งแบบรีฟีลจำหน่ายเพื่อช่วยปริมาณขยะพลาสติกที่มาจากการทิ้งบรรจุภัณฑ์ด้วย