Q: Salicylic Acid VS Benzoyl Peroxide ต่างกันอย่างไร? ส่วนผสมหลักในยาแต้มสิวที่ควรรู้จัก

ปัญหาโลกแตกสำหรับใครหลายคนคงหนีไม่พ้นเรื่อง "สิว" ซึ่งเกิดได้จากหลายสาเหตุไม่ว่าจะเป็นฮอร์โมน สิ่งแวดล้อมภายนอก มลภาวะ รวมถึงพฤติกรรมไม่ดีของตัวเราเองอย่างการล้างหน้าไม่สะอาดหรือการแกะสิว แน่นอนว่าการรักษาสิวก็ต้องพึ่งตัวช่วยอย่างยาแต้มสิวหรือสกินแคร์ที่มีส่วนผสมในการช่วยรักษาสิว ซึ่งส่วนผสมที่นิยมใช้ในการรักษาสิวคือ "Saliylic Acid" และ "Benzoyl Peroxide" แต่บางคนอาจจะยังสับสนอยู่ว่าสารสองชนิดนี้แตกต่างกันอย่างไร แล้วเหมาะสำหรับสิวประเภทไหน เรามาทำความรู้จักกับสองสิ่งนี้กัน!

Saliylic Acid

กรดซาลิซิลิกจะช่วยเร่งการผลัดเซลล์ผิวเก่าบนผิวชั้นนอก ทำความสะอาดรูขุมขนและช่วยสลายสิวหัวขาวและสิวหัวดำได้ และเป็นกรดที่ไม่มีผลต่อการผลิตซีบัมหรือเชื้อ P.acnes (เชื้อแบคทีเรียที่ทำให้เกิดสิว) ความเข้มข้นที่ใช้ในสกินแคร์จะอยู่ที่ 0.5 ถึง 2% แต่สาวที่มีผิวแพ้ง่ายควรเริ่มจากความเข้มข้นต่ำๆ ก่อน ซึ่งวิธีใช้มีให้เลือกหลายแบบของผลิตภัณฑ์ เช่น ชนิดทา ชนิดสครับ หรือเป็นผลิตภัณฑ์ล้างหน้า ฉะนั้นเลือกตามแบบที่เราชอบ แต่อาจจะมีผลข้างเคียงคือทำให้ผิวไวต่อแสงแดด แพ้ง่ายและเกิดอาการระคายเคืองได้ จึงควรทาครีมกันแดดเป็นประจำด้วย

1 / 4

2 / 4

3 / 4

4 / 4

Benzoyl Peroxide

เบนซอยล์เพอร์ออกไซด์เป็นสารต่อต้านเชื้อแบคทีเรียที่ช่วยลด P.acnes และทำให้สิวที่เกิดขึ้นแล้วแห้งได้ด้วย มีระดับความเข้มข้นตั้งแต่ 2.5 ถึง 10% แต่ระดับเข้มข้นต้องใช้ใบสั่งยาจากแพทย์ สารตัวนี้เป็นยาใช้รักษาสิวอักเสบเม็ดใหญ่ๆ ได้้ด้วย ซึ่งควรเลือกรูปแบบยาให้ถูกกับผิวคนผิวมันควรเลือกยารูปแบบเจล ส่วนคนผิวแห้งให้เลือกที่เป็นเนื้อครีม ยานี้อาจทำให้เกิดรอยด่างได้ ควรระวังถ้าใช้บริเวณคอและหน้าอก และสามารถเริ่มใช้วันเว้นวันเพื่อให้ผิวมีการปรับตัว โดยทาบางๆ บริเวณที่มีสิวทิ้งไว้ประมาณ 5-10 นาทีแล้วล้างออกด้วยน้ำสะอาด ข้อควรระวังคืออาจมีอาการผิวแห้งหรือระคายเคืองได้ ฉะนั้นถ้าพบว่าผิวเริ่มแห้งก็ควรลดปริมาณการใช้ลง

1 / 2

2 / 2