การใส่วิกผมเพื่อความสวยงามในปัจจุบัน หลายคนมักนักถึงการใส่วิกของผู้หญิงเพียงอย่างเดียวเสมอ แต่ตามจริงแล้วในหน้าประวัติศาสตร์หลากหลายแห่งการใส่วิกไม่ได้มีเพียงผู้หญิงเท่านั้น อย่างเช่นการใส่วิกผมในประวัติศาสตร์ฝรั่งเศสช่วงศตวรรษที่ 18 

ผู้นำเทรนด์ทรงผมช่วงศตวรรษที่ 18  

เรื่องเมกอัพและทรงผมถือเป็นหนึ่งเอกลักษณ์ที่ช่วยบ่งบอกแต่ละช่วงเวลาในประวัติศาสตร์ได้เป็นอย่างดี เช่นในศตวรรษที่ 18 เมกอัพและทรงผมในช่วงเวลานี้มีความโดดเด่นเป็นอย่างมาก ทั้งการแต่งหน้าทาตัวให้ขาว แก้มสีแดงระเรื่อ พร้อมกับวิกผมทรงเฉพาะ ซึ่งเทรนด์ความงามเหล่านี้มีจุดเริ่มต้นมาจากประเทศฝรั่งเศสและอังกฤษที่เป็นเหมือนผู้นำด้านแฟชั่นของยุค

อิทธิพลการใส่วิกผมเพื่อความงาม

ก่อนวิกผมจะเป็นที่นิยมอย่างมากในช่วงศตวรรษที่ 18 แท้จริงแล้วเทรนด์นี้ถูกริเริ่มตั้งแต่ช่วงศตวรรษที่ 17 โดยชายผู้เป็นหนึ่งในบุคคลสำคัญของประวัติศาสตร์ นั่นคือพระเจ้าหลุยส์ที่ 13 แห่งฝรั่งเศส เมื่อพระองค์ต้องเผชิญกับปัญหาหัวล้านก่อนวัยอันควร จึงเป็นสาเหตุให้พระองค์ต้องใส่วิกผมอยู่บ่อยครั้ง ข้าราชบริพารได้เห็นจึงเกิดการทำตาม จนแผ่วงกว้างกลายเป็นแฟชั่นการใส่วิกผมตั้งแต่นั้นมา ซึ่งวิกผมเป็นสิ่งจำเป็นสำหรับผู้ชาย ในฐานะชนชั้นกลางและสูง สำหรับผู้หญิงแล้วการใส่วิกผมทั้งหัวคล้ายกับผู้ชายในยุคนั้นมีค่อนข้างน้อย แต่จะนิยมใส่วิกผมเฉพาะส่วนคล้ายกับ ‘แฮร์พีซ’ ในปัจจุบันแทน เพื่อคงความเป็นธรรมชาติ

ทำไมต้องวิกผมสีขาว

วิกผมสีขาวที่เรามักเห็นตามภาพบุคคลในงานศิลปะช่วงศตวรรษที่ 17 และ 18 นั้นมักเป็นสีขาวเสมอ สาเหตุเพราะวิกผมสีขาวในช่วงเวลานั้นเป็นที่นิยมอย่างมาก ด้วยความหายากและราคาที่สูง ผู้ใดที่ได้ใส่ ไม่ว่าจะชายหรือหญิงจะถือว่าเป็นบุคคลที่มีฐานะร่ำรวยและสูงส่ง แต่ในช่วงเวลาเดียวกันก็ได้เกิดวิธีทำผมสีขาวขึ้นด้วยการโรยแป้งสีขาวที่มีราคาประหยัดและไม่ต้องทำร้ายเส้นผมเหมือนการย้อม 

ท้ายที่สุดแล้วแม้เรื่องราวการใส่วิกของผู้ชายจะเป็นเพียงหนึ่งในหน้าประวัติศาสตร์ของประเทศฝรั่งเศส แต่สิ่งนี้ทำให้เห็นว่าวิกผมไม่ใช่อุปกรณ์ที่ถูกกำหนดเฉพาะเจาะจงให้ใช้งานกับผู้หญิงเพียงฝ่ายเดียว นอกจากนี้ยังทำให้เห็นว่าเรื่องความงามก็ไม่ใช่เรื่องที่ถูกเจาะจงกับผู้หญิงอย่างเดียว แต่เกิดขึ้นได้กับทุกเพศเช่นกัน