MAKE UP

รวบรวม Glossier Dupes ถ้าไม่อยากพรีออเดอร์ เราจะใช้อะไรแทนได้บ้าง?

ถึงหน้าตาจะไม่เหมือน ก็ได้ผลลัพธ์ใกล้เคียงกันอยู่

Photo : Courtesy of www.thelovecatsinc.com

ถ้าพูดถึงเครื่องสำอางที่สาวไทยชอบพรีออเดอร์ คงต้องมีแบรนด์ Glossier เป็นหนึ่งในนั้นแน่นอนเพราะ 2-3 ปีที่ผ่านมานี้ เล่นกวาดใจชาวมินิมัลทั่วโลกไปแบบง่ายๆ ด้วยคาแรกเตอร์ของเครื่องสำอางที่มีความเป็น effortless ซึ่งจะให้ลุคที่เป็นธรรมชาติ เหมือนเป็นผู้หญิงผิวดีมาตั้งแต่เกิด และสวนกระแสกับคำว่าสายฝ. ที่เคยฮอตฮิตกัน แต่ปัญหาหลักๆ คือไม่มีขายที่ไทยและต้องพรีออเดอร์หรือฝากเพื่อนซื้อเท่านั้น ในขณะเดียวกันผลิตภัณฑ์ความงามที่วางขายในไทยนั้นมีให้สาวๆ เลือกเยอะแยะ หลากหลายแบรนด์ เพื่อตัดปัญหาการรอพรีออเดอร์หรือฝากซื้อ เรามีโปรดักต์ที่ให้ผลลัพธ์ใกล้เคียงกัน หรือ Dupes มาให้สาวๆ เลือกใช้แทน

Cloud Paint

เริ่มกันที่ Cloud Paint เจลบลัชสุดฮิตที่ขายดีเทน้ำเทท่าของ Glossier เนื้อครีมของบลัชตัวนี้ค่อนข้างไปทางเนื้อเจลมากกว่าลิควิด ที่หลายๆ คนชอบอาจจะเป็นเพราะความเกลี่ยง่ายไม่เป็นคราบ สามารถใช้นิ้วแต้มและเกลี่ยได้แบบสบายๆ ให้พวงแก้มที่เป็นธรรมชาติ สดใส สุขภาพดี ที่สำคัญสามารถใช้ได้ทั้งตา ปาก และแก้ม

1 / 3

Giorgio Armani NEO NUDE A-BLUSH (1,550)
เป็นลิควิดบลัชเนื้อดี เกลี่ยง่าย ให้งานผิวสุขภาพดี สีแก้มระเรื่อ เหมือนกับ Cloud Paint รวมถึงยังให้ฟินิชที่ไม่มันเงามาก ตอนแตะลงบนแก้ม อาจจะให้สีที่ดูเข้ม แต่พอเบลนด์เขาแล้ว ก็เนียนกลืนไปกับผิวอย่างเป็นธรรมชาติ (มีขายเฉพาะที่ Giorgio Armani Boutique สาขา ZEN @Central World)

2 / 3

Becca Beach Tint (1,100 บาท)
บลัชทินต์หลอดนี้จะมีความเหลวกว่า Cloud Paint ซึ่งก็มีโทนสีให้เลือกเยอะอยู่เหมือนกัน สามารถใช้ได้ทั้งแก้มและปาก เกลี่ยง่ายโดยไม่ต้องห่วงทิ้งคราบเอาไว้ ฟินิช Beach Tint หลอดนี้อาจจะไม่ทิ้งความดิวอี้เท่า Cloud Paint เรียกได้ว่าเป็นซาตินแมตต์ แต่ก็ให้ความติดทนมากกว่า

3 / 3

Etude Colorful Drawing Water Color Blusher
เป็นบลัชที่มีเนื้อใกล้เคียงกับ Cloud Paint ที่สุด เพราะไม่มีความเหลว พิกเมต์ของสีอาจจะมีความชัดกว่า และโทนสีที่มีให้เลือกค่อนข้างจะสดใส ตั้งแต่โทนสีชมพู แดง ไปจนถึงส้ม



WATCH



Boy Brow

คุณสมบัติมาสคาร่าคิ้วที่จะใช้แทน Boy Brow ได้คือ นอกจากจะช่วยปัดและเซ็ตขนคิ้วให้ดูเรียงตัวสวยแล้ว ยังต้องช่วยให้คิ้วดูเข้มและหนาขึ้นด้วย ที่สำคัญต้องทำให้ขนคิ้วดูไม่แห้งกรัง ไม่จับตัวเป็นก้อน และติดทนนาน วันรีบๆ ก็สามารถใช้เพียงมาสคาร่าคิ้วอย่างเดียว ไม่ต้องเสริมด้วยดินสอเขียนคิ้วก็ออกจากบ้านได้เลย

1 / 3

Benefit Gimme Brow+ (1,120 บาท)
มาสคาร่าคิ้วที่เป็นตัวแทนของ Boy Brow ได้เลย เพราะ Benefit Gimme Brow+ มีไฟเบอร์ในตัว ช่วยเติมขนคิ้วให้ดูเต็มได้เช่นเดียวกัน นอกจากนั้นยังมีให้เลือกถึง 8 เฉดสี ไม่ว่าจะสีผมเข้มหรืออ่อนแค่ไหน ก็สามารถหาสีคิ้วที่แมตช์กับผมของคุณได้ แถมไซส์แปรงยังมาในขนาดที่ใกล้เคียงกันด้วย

2 / 3

IPSA Eyebrow Mascara (700 บาท)
เป็นมาสคาร่าคิ้วที่หัวแปรงเล็ก ง่ายต่อการใช้งาน มีคุณสมบัติเหมือนกันคือช่วยจัดทรงคิ้วให้ได้รูป และขณะเดียวกันก็ช่วยเติมความหนาอย่างเป็นธรรมชาติ หมดปัญหาขนคิ้วบางไปเลย

3 / 3

HOURGLASS Arch Brow Volumizing Fiber Gel (1,210 บาท)
มาสคาร่าคิ้วที่ปัดแล้วช่วยให้คิ้วที่ดูเป็นธรรมชาติ หัวแปรงอาจจะใหญ่กว่า Boy Brow ขึ้นมาอีกนิด มาในสูตรไฟเบอร์เจลที่ช่วยให้ขนคิ้วดูฟูหนามีวอลลุ่ม เซ็ตแล้วไม่มีตก ไม่ร่วง หรือลบเลือนในระหว่างวัน

Balm Dot Com

คงไม่ต้องพูดอะไรมาก เพราะเป็นลิปบาล์มที่เราควักเงินซื้อตั้งแต่แพ็กเกจจิ้งแล้ว ก็อย่างที่รู้ๆ กันว่า Balm Dot Com สามารถช่วยเรื่องปากแห้ง ปากลอก บำรุงให้ปากชุ่มชื่น แต่จริงๆ สามารถใช้ในส่วนที่ผิวแตกแห้งได้ด้วย จุดเด่นของลิปตัวนี้คือมาในหลากสี หลายกลิ่น ตั้งแต่สีใสที่มีกลิ่นหวานหอม อย่าง coconut และ birthday รวมถึงสีแดงอ่อนที่มีกลิ่น Cherry หรือใครไม่ชอบสีหรือกลิ่นก็แนะนำรุ่นออริจินัล ส่วนลิปบาล์มยี่ห้อไหนที่จะใช้แทนได้บ้าง ไปดูกัน

1 / 2

Innisfree My Lip Balm (420 บาท)
ลิปบาล์มบำรุงปากราคาน่ารัก มีให้เลือกถึง 11 เฉดสี ซึ่งจะมีกลิ่นหอมอ่อนๆ คล้ายกับ Balm Dot Com แต่เป็นกลิ่นของผลไม้ ชา และสมุนไพร ซึ่งแพ็กเกจจิ้งก็น่ารักไม่ต่างกันเลย ส่วนเนื้อลิปก็ไม่เหนียวเนอะหนะ สีชัดสวย เหมาะกับคนที่อยากปรับสีปากให้ดูสดใสขึ้น มีส่วนผสมมาจากน้ำมันดอกทานตะวัน คูปัวคู บัตเตอร์ และโจโจบาออยล์ ที่ช่วยบำรุงให้ชุ่มชื่น

2 / 2

Laneige Lip Glowy Balm (350 บาท)
ลิปบาล์มที่จะให้ฟินิชแววาว ช่วยให้ปากดูอิ่มเอิบ ริมฝีปากเรียบเนียน ชุ่มชื่นเหมือนริมฝีปาก โดนเคลือบไว้ด้วยมอยส์เจอร์ฟิล์ม มีกลิ่นหอมหวานแบบผลไม้ ที่เราชอบคือกลิ่นวนิลลา

Haloscope Highlighter 

ไฮไลต์ที่มาในรูปแบบแท่ง วงด้านนอกจะเป็นสีไฮไลต์สุดฉ่ำ ส่วนข้างในตรงกลางจะเป็นบาล์มที่จะบำรุงผิวให้ชุ่มชื่น ทาแล้วจะให้ความวาวที่กำลังพอดี ช่วยให้ผิวดูโกลว์และเล่นกับแสง จึงเป็นไฮไลต์สุดโปรดปรานของสาวสายมินิมัล

 

1 / 3

Maybelline Master Strobing Stick by Face Studio (299 บาท)
เนื้อไฮไลต์ที่อาจจะไม่ได้ดิวอี้เท่ากับ glossier แต่ความวาวเล่นกับแสง เรียกว่าสูสีกันอยู่ แต่ชนะที่ตรงหาซื้อง่ายกว่า และมาในราคาย่อมเยา มีให้เลือก 2 สี ในโทนชมพูและโทนสีทอง

2 / 3

Nudestix Nudies All Over Face Color Glow (1,188 บาท)
งานไฮไลต์แบบแท่งต้องยกให้แบรนด์นี้ มีให้เลือกทั้งหมด 3 โทนสีที่สามารถนำมาใช้เป็นไฮไลต์ได้ แต่จริงๆ แล้วก็มีประเภทโทนชมพูให้เลือกอยู่ ที่สามารถใช้เป็นปัดแก้ม จะได้แก้มโกลว์สะใจ แถมมีบลัชในการช่วยเกลี่ยมาให้ในแท่งให้ด้วย

3 / 3

Fenty Beauty Match Stix Shimmer Skinstick (990 บาท)
เป็นแบรนด์ที่มีสีไฮไลต์ให้เลือกเยอะมาก ครอบคลุมทุกเฉดสีผิว ตั้งแต่ชิมเมอร์สีเงิน ชมพูโรสโกลด์ จนไปถึงโทนสีทอง รวมถึงยังมีสีเหลือบม่วงและโทนส้มด้วย ส่วนเนื้อไฮไลต์อาจจะไม่ครีมมี่เท่ากับ Haloscope Highlighter อาจจะต้องวอร์มเนื้อก่อนแต้มลงบนผิว จะช่วยให้เกลี่ยง่ายขึ้น แต่เรื่องความฉ่ำก็สู้ได้ไม่มีตก

WATCH

คีย์เวิร์ด: Glosssier