Sky Di Gioia Eau de Parfum จาก Giorgio Armani (ราคา 5,800 บาท / 100 ml)

เป็นการจับคู่ลิ้นจี่สดฉ่ำกับลูกแพร์เขียวที่ให้ความหอมหวาน ผสานกับกลิ่นของดอกโบตั๋นและดอกกุหลาบที่เข้ามาช่วยเพิ่มความสดชื่น ปิดท้ายด้วยความนุ่มลึกและเย้ายวนของไวท์มัสก์ ซีดาร์ และผลแบล็คเบอร์รี่ เป็นกลิ่นที่เหมาะสำหรับสาวที่มีความมั่นใจ กล้าออกไปท่องโลก

Top Notes : Litchi และ Pear

Middle Notes : Pink Peony และ Rose

Base Notes : Blackberry , White Musk และ Cedar

Belle De Jour จาก Christian Dior (ราคา 8,000 บาท / 85 ml)

กลิ่นหอมโดดเด่นด้วยโน๊ตของลูกแพร์หวานฉ่ำสดชื่น เสมือนเราได้ลิ้มรสหอมหวานของลูกพีช ผสมผสานด้วยกลิ่นกุหลาบและกลิ่นของไม้หอม เพิ่มความหอมน่าค้นหา เย้ายวน เหมือนผู้หญิงที่มีเสน่ห์ น่าหลงใหล

Notes : Rose , Pear , White Pear , White Peach , Woody Notes , Powdery Notes และ Pear Ice Cream

Acqua Colonia White Peach & Coriander Eau De Cologne จาก House of 4711 (ราคา 1,700 บาท / 170 ml)

น้ำหอมอโรมาติกฟรุตตี้ที่แฝงไปด้วยความเซ็กซี่และสดใสในเวลาเดียวกัน เป็นการผสมผสานระหว่างผลลูกพีชและสมุนไพรนานาชนิด กลิ่นจะออกแนวเผ็ดซาบซ่าเล็กน้อย แต่ได้ความสดชื่นของผลไม้รสเปรี้ยวเข้ามาตัด

Notes : White Peach , Coriander , Herbal Notes , Citruses และ Green Notes

Kate Spade New York Eau De Parfum จาก Kate Spade (ราคา 4,200 บาท / 100 ml)

น้ำหอมสไตล์ฟลอรัลฟรุตตี้ที่ให้กลิ่นเป็นประกาย สนุกสนาน เย้ายวน เพราะเป็นการผสมผสานของผลไม้รสเปรี้ยวและดอกไม้แสนสดชื่นเข้าไว้ด้วยกันอย่างลงตัว สื่อถึงสาวโมเดิร์นสมัยใหม่ที่มีความคิดสร้างสรรค์ มอบความสดใสให้กับคนรอบข้างอยู่เสมอ

Top Notes : Wild Strawberry , Bergamot และ Citruses

Middle Notes : Freesia และ Rose

Base Notes : Ambroxan และ Cashmeran

OUI Juicy Couture Splash Eau de Parfum Spray จาก Juicy Couture (ราคา 3,200 บาท / 50 ml)

น้ำหอมฟลอรัลฟรุตตี้ที่โดดเด่นด้วยกลิ่นผลไม้หอมหวานจากสัปปะรด, เลม่อน และแอปเปิ้ล จากนั้นได้กลิ่นของดอกกุหลาบอ่อนๆ เข้ามาตัดอารมณ์ความเปรี้ยวไม่ให้จัดจนเกินไป ปิดท้ายด้วยกล่ินไม้ซีด้าร์และมัสก์ที่ช่วยปรับมู้ดให้มีความน่าค้นหามากขึ้น

Top Notes : Pineapple , Sorbet , Lemon และ Apple

Middle Notes : Orange Blossom , Magnolia และ Jasmine

Base Notes : Ambroxan , Cedar และ White Musk

Burberry Her Intense จาก Burberry (ราคา 2,250 บาท / 30 ml)

Daisy Eau So Fresh Eau De Toilette จาก Marc Jacobs (ราคา 3,800 บาท / 75 ml)

น้ำหอมกลิ่นหอมละมุนด้วยกลิ่นของลูกแพร์หวานฉ่ำ มะลิ กุหลาบ และไวโอเล็ต แต่งเติมความสดใสด้วยกลิ่นหวานอมเปรี้ยวของผลไม้นานาชนิด ให้ความรู้สึกสดใสร่าเริงเหมือนสาววัยแรกแย้มที่กำลังวิ่งอยู่ในสวนผลไม้หลังบ้าน

Top Notes : Green Notes , Grapefruit, Raspberry และ Pear

Middle Notes : Violet , Litchi , Apple Blossom , Rose และ Jasmine

Base Notes : Musk, Plum และ Virginia Cedar

 Olympea Blossom Eau de Parfum Florale จาก Paco Rabanne (ราคา 3,750 บาท / 50 ml)

เป็นกลิ่นหอมของช่อดอกไม้ที่เกิดจากกลิ่นละเอียดอ่อนของกลีบกุหลาบและผลไม้ของแบล็คเคอแรนท์และลูกแพร์ ทำให้สามารถสื่อถึงความโรแมนติกและทันสมัยเหมือนผู้หญิงที่ค่อนข้างมีความเป็นเฟมินีสต์ มั่นใจในตัวเอง แต่ยังคงความอ่อนหวานอยู่ในตัว

Top Notes: Damask Rose และ Pink Pepper

Middle Notes: Pear , Blackcurrant และ Sorbet

Base Notes: Vanilla , Salt , Patchouli และ Cashmere Wood

Mon Paris Eau de Parfum จาก Yves Saint Laurent (ราคา 4,500 บาท / 50 ml)

เริ่มต้นด้วยกลิ่นแรกที่ให้ความรู้สึกมีชีวิตชีวาของมะกรูดและผลไม้ตระกูลเบอร์รี่ เสริมด้วยกลิ่นหอมของลูกแพร์ที่มอบความสดชื่นชุ่มฉ่ำ ตามมาด้วยกลิ่นดอกโบตั๋นและดอกมะลิที่ให้ความรู้สึกสะอาด ปลอดโปร่ง ปิดท้ายด้วยกลิ่นไวท์มัสก์ให้ดูน่าลุ่มหลง เติมความอบอุ่นเย้ายวนของแอมบร็อกซ์ที่มอบความรู้สึกหรูหรา

Top Notes: Strawberry , Raspberry , Pear , Orange , Tangerine , Calabrian Bergamot และ Calone 

Middle Notes: Peony , Jasmine Sambac , Chinese Jasmine , Datura และ Orange Blossom 

Base Notes: Indonesian Patchouli , Leaf Patchouli , White Musk , Vanila , Ambroxan , Moss และ Cedar

Sky Eau De Toilette จาก Anna Sui (ราคา 2,900 บาท / 50 ml)

เริ่มต้นกลิ่นด้วยความอบอุ่นของลูกแพร์ฉ่ำ มะกรูด และพริกไทยสีชมพู ตามด้วยกลิ่นความสดชื่นของดอกไม้นานาชนิด ปิดท้ายด้วยความหวานกรุบของกลิ่นวนิลา เป็นกลิ่นหอมคล้ายกับขนมหวานที่ไม่เลี่ยนจนเกินไป ให้ความรู้สึกเหมือนได้ย้อนวัยกลับไปเป็นเด็กอีกครั้ง

Top Notes: Pear , Bergamot และ Pink Pepper

Middle Notes: Lotus , Rose และ Lily-of-the-Valley

Base Notes: Popcorn , Musk และ Vanilla