SKINCARE

เพิ่มความแข็งแรงให้กับผิวด้วย 9 เฟซออยล์แบรนด์ไทยที่ตอบโจทย์ทุกปัญหาผิว

แบรนด์ไทยก็มีดีไม่แพ้แบรนด์ต่างชาติ แถมยังทำออกมาครอบคลุมทุกปัญหาผิวด้วย

ใครที่กังวลว่าการใช้น้ำมันบำรุงผิวหน้าหรือเฟซออยล์จะทำให้ผิวหน้ายิ่งมันและเกิดสิวอุดตัน เตรียมบอกลาปัญหานั้นไปได้เลย เพราะในปัจจุบันเฟซออยล์ถูกออกแบบมาเพื่อรองรับกับสภาพผิวของคนไทยมากขึ้น เช่นการมีเนื้อสัมผัสบางเบา ไม่เหนียวเหนอะหนะบนใบหน้า รวมถึงการมีส่วนผสมของธรรมชาติเกือบ 100% ยิ่งตอบโจทย์สำหรับหลากหลายสภาพผิวให้สามารถใช้ได้แบบไม่ต้องกลัวแพ้ โว้กบิวตี้รวบรวมเฟซออยล์สัญชาติไทยมาแนะนำให้รู้จัก นอกจากจะหาซื้อได้ง่ายแล้วยังได้ส่วนผสมที่เป็นประโยชน์ต่อผิวแบบเน้นๆ อีกด้วย

100% Argan Oil จาก Amira (ราคา 1,490 บาท)

น้ำมันอาร์แกนสกัดเย็นบริสุทธิ์ที่อุดมไปด้วยโอเมก้า 3, 6, 9, วิตามิน E, และสารต้านอนุมูลอิสระที่สูงมากกว่าพืชชนิดอื่นๆ มีโมเลกุลเล็กจึงซึมซาบเข้าสู่ผิว ไม่ทิ้งความมันและความเหนียวเหนอะหนะช่วยฟื้นฟูผิวให้กลับมาแข็งแรงขึ้น โดยเฉพาะผิวแพ้ง่ายหรือแพ้สเตียรอยด์ ช่วยลดสิวและอาการอักเสบของสิว รวมถึงรอยจุดด่างดำที่เกิดจากสิว สามารถใช้ได้ทุกสภาพผิวและทั่วร่างกาย ทั้งผิวหน้า ผิวกาย เส้นผมและหนังศีรษะ

Wild Cactus Oil จาก Wild Clinic and Organic Treat (ราคา 1,590 บาท)

น้ำมันบำรุงผิวที่ได้สรรพคุณจากต้นกระบองเพชร ด้วยโมเลกุลขนาดเล็กจึงช่วยเข้าฟื้นบำรุงผิวในระดับเซลล์ ทำให้ซึมซาบไวไม่อุดตันรูขุมขน มีคุณสมบัติลดรอยสิว ลดความหมองคล้ำที่เกิดจากแสงแดด แถมให้ผิวนุ่มชุ่มชื้นด้วยวิตามิน E และ โอเมกก้า 6 พร้อมสารต้านอนุมูลอิสระที่ช่วยชะลอการเกิดริ้วรอยก่อนวัย เหมาะกับทุกสภาพผิว แนะนำให้ใช้เป็นสเต็ปสุดท้ายของการลงสกินแคร์หรือจะใช้เป็นสลีปปิ้งมาสก์แทนเลยก็ได้



WATCH



Face Organic Active Avocado Oil Triple-A จาก Koru (ราคา 1,100 บาท)

น้ำมันสกัดเย็นออร์แกนิก มีส่วนผสมหลักจากอะโวคาโด อาร์แกนออยล์ และสวีตอัลมอนด์ ช่วยบำรุงผิวให้กลับมาแข็งแรงจากภายใน ป้องกันผิวจากการถูกทำร้ายโดยรังสียูวีจากแสงแดด พร้อมกระตุ้นการผลิตคอลลาเจน ทำให้ผิวนุ่มและกระจ่างใสขึ้น เหมาะสำหรับผิวบอบบาง แพ้ง่าย

Moroccan Prickly Pear Seed Oil จาก Brisuthi (ราคา 1,590 บาท)

เฟซออยล์ออร์แกนิกที่ได้น้ำมันสกัดจากผล Prickly มีคุณสมบัติในการควบคุมน้ำมันใต้ผิว ช่วยให้ผิวนุ่มนวลชุ่มชื่นกระจ่างใสแล้ว ยังช่วยลดเลือนริ้วรอยแห่งวัยด้วย คนที่มีปัญหาสิวหรือผิวแพ้ง่ายสามารถใช้ได้ เพราะออยล์มีเนื้อสัมผัสบางเบา ไม่ค้างอยู่บนผิว จึงไม่อุดตันรูขุมขนที่เป็นสาเหตุของการเกิดสิว

Lotus Defense Face Treatment Oil จาก Panpuri (ราคา 2,300 บาท)

น้ำมันออร์แกนิกที่ได้ส่วนผสมจากน้ำมัน 5 ชนิดอย่าง มารูล่า โจโจบาร์ โอลีฟ โบราจ และรำข้าว ทำให้ผิวแข็งแรงเปล่งปลั่ง เติมความชุ่มชื้นให้ผิวอิ่มน้ำพร้อมกระชับผิวและรูขุมขน เหมาะกับทุกสภาพผิวรวมถึงผู้ที่มีผิวบอบบางและแพ้ง่าย แนะนำให้นวดออยล์ลงบนผิวประมาณ 1 นาที จะสามารถเห็นผลลัพธ์ว่าผิวชุ่มชื้นขึ้นทันทีหลังใช้

Organic Face Oil จาก HARNN (ราคา 1,790 บาท)

ออยล์บำรุงผิวหน้าออร์แกนิกที่มีสารสกัดจากพืชพรรณธรรมชาติ 100% คิดค้นมาเพื่อตอบโจทย์ความต้องการในเรื่องการบำรุงผิวหน้าอย่างล้ำลึก ด้วย 3 สูตรใหม่ ได้แก่ Deep Hydrating Organic Face Oil เน้นการบำรุงล้ำลึกกระตุ้นให้ผิวอ่อนเยาว์, Perfect Clarifying Organic Face Oil เน้นความกระจ่างใสอย่างเป็นธรรมชาติ, Ultimate Revitalizing Organic Face Oil เน้นการฟื้นฟูผิวเสื่อมสภาพในช่วงกลางคืน มาพร้อมส่วนผสมหลักจากน้ำมันสกัดบริสุทธิ์ 4 ชนิด ที่จะช่วยปกป้องฟื้นฟูสุขภาพผิวลดความหมองคล้ำ เน้นความกระจ่างใส

Amazonian Cacay Face Oil จาก Delicat (ราคา 1,890 บาท)

น้ำมันบำรุงผิวหน้าเนื้อบางเบา มีส่วนผสมของ Cacay oil ซึ่งอุดมด้วย Linoleic acid ที่ช่วยแก้ปัญหาสิวหัวขาว สิวอุดตัน สิวอักเสบ อีกทั้งช่วยปลอบประโลมผิวที่ระคายเคืองให้กลับมาแข็งแรงอย่างเป็นธรรมชาติ

Anti-Pollution Facial Oil จาก Lhamour (ราคา 1,380 บาท)

น้ำมันบำรุงผิวหน้าสูตรเข้มข้นจากน้ำมันธรรมชาติ 100% อย่างโอลีฟ, อะโวคาโด และโรสฮิป ช่วยต่อต้านอนุมูลอิสระ และฟื้นฟูผิวจากมลภาวะ ปรับสมดุลน้ำมันในผิว เผยผิวแข็งแรงสุขภาพดี เหมาะสำหรับผู้ที่มีผิวแห้งหรือผิวหมองคล้ำจากปัญหามลภาวะสิ่งแวดล้อม

Bakuchiol+Cacay Oil Super Serum Oil จาก Skinplants (ราคา 1,090 บาท)

น้ำมันบำรุงผิวพรีเมี่ยมผสานคุณค่าน้ำมันสกัดจากพืชธรรมชาติหลากชนิด ช่วยต้านอนุมูลอิสระและการอักเสบของผิวหนัง ลดเลือนริ้วรอยร่องลึกและความหมองคล้ำ พร้อมคืนความเฟิร์มกระชับและความยืดหยุ่นให้แก่ผิวได้อย่างมีประสิทธิภาพเหมือนการบำรุงด้วยเรตินอลแต่มีความอ่อนโยนที่สูงกว่า

WATCH

คีย์เวิร์ด: face oil skincare thai brand