Paulina Porizkova หวนคืนแบรนด์แอมบาสเดอร์ Estee Lauder อีกครั้งหลังจากยุค 1980

วันหนึ่งในกลางเดือนมกราคมที่ยังคงอยู่ในฤดูหนาว พอลลินา-โพริซโควา (Paulina Porizkova) นางแบบและนักเขียนสัญชาติเช็กที่กำลังฟื้นตัวจากไข้หวัดอยู่ที่สหรัฐอเมริกากำลังพูดคุยกับโว้กผ่านแอปพลิเคชันซูม เธอขดตัวอยู่บนโซฟาคู่กับ “Ludwig” สุนัขหูหนวกแสนรักของเธอ

แม้ว่าพอลลินาจะกำลังป่วย แต่ยังคงดูเปล่งประกาย สภาพร่างกายยามป่วยของเธอที่ทำงานได้เพียง 80 เปอร์เซนต์ยังเหนือกว่าคนส่วนใหญ่ที่ทำงานอย่างเต็มที่ เธอยังคงมีพลัง กระปรี้กระเปร่า และกระตือรือร้นในบทบาทล่าสุดกับการเป็นแบรนด์แอมบาสเดอร์ระดับโลกของ Estée Lauder

เดิมทีพอลลินาเป็นตัวแทนของแบรนด์ (Brand Spokeperson) ตั้งแต่ยุค 1980 บทบาทนั้นคือจุดเริ่มต้นเส้นทางอาชีพนางแบบที่ส่งเธอให้กลายเป็นดาวจรัสแสงแห่งวงการในเวลานั้น มาสู่ยุคปัจจุบัน ผลงานของเธอขับเคลื่อนและสร้างแรงกระเพื่อมให้กับสังคม ทั้งการเป็นภาพของหญิงผู้อยู่ร่วมกับเรื่อง “เอจจิ้ง” ได้อย่างงดงาม รวมถึงหนังสือที่เธอเขียน “No Filter: The Good, the Bad and the Beautiful” ก็สร้างแรงบันดาลใจให้กับผู้อ่านได้ไม่น้อย พอลลินาในวัยย่างเข้า 60 ปี เธอกลายเป็นตัวแทนของผู้หญิงที่ยังคงยืนหยัดและเป็นที่มองเห็นของสังคมไม่ว่าจะอายุเท่าไหร่ สุดท้ายเธอจึงถูกดึงตัวกลับมาสู่ Estée Lauder อีกครั้ง

กลับบ้านเก่าด้วยบทบาทที่มากขึ้น

“ใช่แล้วล่ะ ฉันกลับมาเป็นแบรนด์แอมบาสเดอร์ Estée Lauder อีกครั้ง!” พอลลินากล่าว “ตอนนั้นฉันได้เป็นตัวแทนของแบรนด์ (Spokesmodel) ส่วนตอนนี้ฉันได้เป็นแบรนด์แอมบาสเดอร์ มันมีความแตกต่างกันอยู่นอกจากคำเรียกนะ ครั้งนี้แบรนด์ติดต่อฉันมาเพราะพวกเขาชอบในสิ่งที่ฉันกำลังทำ บนอินสตาแกรมฉันไม่ได้โพสต์รูปโชว์ความสวยงามของฉันเฉยๆ ฉันเปิดเผยมากเรื่องความแก่ชราและการดูแลตัวเองในเรื่องนี้ ฉันเชื่อเป็นอย่างยิ่งว่า ผู้หญิงไม่ว่าจะอยู่ในช่วงเวลาไหนของชีวิต พวกเรายังคงมีคุณค่าเสมอ”

การกลับมาของพอลลินาครั้งนี้ เธอเป็นตัวแทนของทุกหมวดผลิตภัณฑ์ของ Estée Lauder ไม่ว่าจะสกินแคร์ เมกอัป และน้ำหอม สิ่งที่เธอทำให้เห็นชัดเจนคือการทำงานร่วมกับแบรนด์ครั้งนี้ไม่ใช่แค่เรื่องผลิตภัณฑ์ แต่มันคือเรื่องของคุณค่า พอลลินายืนยันว่าเธอจะไม่ใช่ทั้ง “ชื่อ” และ “เสียง” ของเธอเพื่อคำว่า “ต่อต้านริ้วรอย” (Anti-Aging) แต่เธอมุ่งมั่นที่จะแสดงให้เห็นว่าเราสามารถรู้สึกและเปิดเผยตัวตนที่ดีที่สุดไม่ว่าจะอยู่ในช่วงเวลาใดของชีวิต 

เธอย้ำกับทีมงานของ Estée Lauder ตั้งแต่ประชุมครั้งแรกว่า “ข้อแรกเลยนะ ฉันจะไม่ทำอะไรเกี่ยวกับ ‘Anti-Aging’ แม้แต่อย่างเดียว ถ้าหากพวกคุณยังต้องการละก็ ฉันจะเดินออกจากห้องตอนนี้เลย” แบรนด์ตอบกลับว่า “นั่นคือสาเหตุว่าทำไมเราถึงเลือกคุณ” นี่ทำให้เห็นว่าเอสเต้ ลอเดอร์ กำลังปรับตัวและรับฟังคำแนะนำจากแอมบาสเดอร์คนใหม่อย่างเปิดกว้าง เพื่อขับเคลื่อนแวดวงความงามให้พัฒนายิ่งขึ้น 

โดยเธอเริ่มต้นจากการขอให้แบรนด์เปลี่ยนคำว่า “Youth” เป็น “You” ในชื่อของครีมบำรุง “Revitalizing Supreme+ Youth Power Moisturizer Creme” จนท้ายที่สุดแบรนด์ก็ฟังเธอ 

หญิงผู้โอบกอดความงามตามกาลเวลา 

“ฉันเห็นถึงความขัดแย้งในตัวเองนะว่าฉันกำลังส่งเสริมให้ผู้หญิงได้โอบกอดตัวเองผ่านความช่วยเหลือจากแบรนด์เครื่องสำอางที่ตั้งใจจะขายของ ดังนั้นฉันต้องยอมรับในสิ่งที่กำลังเกิดขึ้นอยู่” พอลลินายังคงซื่อสัตย์กับจิตวิญญาณและความแน่วแน่ของเธอ 

“แน่นอนว่าฉันชอบให้ตัวเองดูดีที่สุดอยู่แล้ว” พอลลินากล่าว “ฉันเองก็คลั่งไคล้เมกอัปมากๆ  มันคือสิ่งที่เราได้เล่นสนุก ส่วนด้านบำรุงผิว ฉันชอบใช้ผลิตภัณฑ์บำรุงมากและใช้มันอย่างเป็นประจำด้วย ตัวฉันเองยอมรับเรื่องริ้วรอยที่เกิดขึ้น แต่ฉันก็ยังอยากให้ผิวโกลว์มีประกายตามรูปแบบผิวในเวลานี้”

สำหรับพอลลินาแล้วความมุ่งมั่นตั้งใจในแง่บวกทำให้เธอกลายเป็นแอมบาสเดอร์ที่ดี “ฉันคือคนที่เหมาะที่สุดที่จะแสดงให้ทุกคนเห็นว่าผลิตภัณฑ์นั้นๆ เป็นอย่างไร เพราะว่าฉันซื่อสัตย์เสมอ หลังจากตัดสินใจว่าจะกลับมาร่วมงานกับ Estée Lauder อีก ฉันก็ใช้แต่ผลิตภัณฑ์ของแบรนด์นี้มาโดยตลอด และตอนนี้ฉันก็รู้สึกดีมากๆ นี่คือตัวอย่างที่ชัดเจนว่าผลิตภัณฑ์ Estée Lauder ให้ผลลัพธ์อะไรกับเราได้” 

แม้ว่านี่คือสภาพ 80 เปอร์เซ็นต์ของพอลลินาที่กำลังป่วย แต่ตัวตนและจิตวิญญาณอันแน่วแน่มั่นคงทำให้เราเชื่อมั่นในตัวเธอ 100 เปอร์เซ็นต์และเห็นด้วยกับสิ่งที่เธอกำลังทำ 100 เปอร์เซ็นเช่นกัน 

 

เรื่อง Jessica Diner 

แปลและเรียบเรียง ธีรชยา พิมพ์กิติเดช