SKINCARE
Q: 'ผิวแห้ง' ต่างจาก 'ผิวขาดน้ำ' อย่างไร? จะรู้ได้อย่างไรว่าเราเป็นผิวประเภทไหน?มาเช็คกันว่าผิวของเราอยู่ในลักษณะแบบไหน |
"ผิวแห้ง" และ "ผิวขาดน้ำ" เป็นอีกหนึ่งปัญหากวนใจของใครหลายคน อันเป็นผลมาจากการขาดกรดไขมันที่จำเป็นในการรักษาความชุ่มชื้นและสร้างเกราะป้องกันผิวจากสิ่งกระทบจากภายนอก ซึ่งถ้าไม่มีเกราะป้องกันผิวแล้วจะทำให้เกิดปัญหาริ้วรอยตามมาทีหลังได้ โดยผิวแห้งและผิวขาดน้ำเป็นปัญหาที่มีความแตกต่างกันอยู่เล็กน้อย เชื่อว่าสาวๆ บางคนยังเกิดความสงสัยระหว่าง 2 คำนี้ โว้กบิวตี้มีคำตอบและวิธีการตรวจสอบผิวของเรามาฝากกัน
ผิวแห้ง (Dry Skin)
เป็นประเภทของผิวหนังที่เกิดจากต่อมไขมันผลิตน้ำมันหล่อเลี้ยงตามธรรมชาติได้น้อย ลักษณะของพื้นผิวจะมีความหยาบกร้าน แห้ง และลอกเป็นขุย เวลาที่ผิวหนังสัมผัสกับอากาศแห้งหรือเย็นก็จะรู้สึกแสบ คัน หรือมีรอยแดงเห่อขึ้นมา ลักษณะผิวแบบนี้ถ้าไม่เกิดจากกรรมพันธุ์ ก็มีโอกาสเกิดขึ้นได้เมื่อมีอายุมากขึ้นเพราะร่างกายผลิตน้ำมันน้อยลง นอกจากนี้คนผิวแห้งยังมีปัญหาริ้วรอยเกิดขึ้นได้ง่ายกว่าโดยเฉพาะเวลาแสดงอารมณ์ วิธีดูแลคือถ้าหากอายุยังน้อยก็เพียงหมั่นบำรุงให้มีความชุ่มชื่น ริ้วรอยจะหายไปได้เอง แต่ถ้าอายุมากขึ้นแล้วอาจทำให้กลายเป็นริ้วรอยถาวรได้ ควรบำรุงผิวด้วยสกินแคร์ประเภทออยล์ บาล์ม หรือครีมสูตรอ่อนโยนและปราศจากน้ำหอม จะช่วยชะลอริ้วรอยลงได้
1 / 2
2 / 2
ผิวขาดความชุ่มชื้น (Dehydrated Skin)
เป็นลักษณะอาการของผิวหนังที่เซลล์ใต้ผิวชั้นนอกไม่สามารถกักเก็บน้ำได้ดีเท่าที่ควร ฉะนั้นแม้แต่คนผิวมันก็อาจมีอาการผิวขาดน้ำได้เช่นกัน สังเกตได้ง่ายๆ คือ แม้พื้นผิวหนังจะดูมันวาว แต่พอแสดงอารมณ์ทางใบหน้าจะรู้สึกตึงผิวและเห็นเป็นริ้วรอยได้ง่าย สาเหตุที่ทำให้ผิวขาดน้ำมีหลายอย่าง เช่น การอยู่ท่ามกลางอากาศแห้งอย่างเครื่องปรับอากาศหรือเครื่องทำความร้อน อาบน้ำอุ่นจัดเป็นเวลานาน โดนแดดแรง ดื่มน้ำน้อย หรือแม้กระทั่งใช้สกินแคร์ที่ออกฤทธิ์รุนแรงเกินไป ดังนั้นควรเลือกสกินแคร์ที่มีส่วนผสมช่วยรักษาระดับน้ำในผิวได้ยาวนานอย่างเช่นเซราไมด์และกรดไฮยาลูรอนิก ทั้งนี้สกินแคร์เนื้อครีมหนาหนักอาจไม่เหมาะกับสภาพอากาศบ้านเรา รวมทั้งคนผิวผสมถึงผิวมัน ดังนั้นลองเลือกเนื้อเจลกึ่งครีมหรือโลชั่นที่ซึมซาบเร็วและไม่อุดตันรุขุมขนดีกว่า
WATCH
1 / 2
2 / 2
ภาพ : IG: @itsalicewang / @mariaisabel
WATCH