BODY
รวม 10 น้ำหอมกลิ่นซิตรัส หวานซ่อนเปรี้ยว เพิ่มความกระปรี้กระเปร่าตลอดวันกลิ่นหอมสดชื่นที่ได้จากผลไม้รสเปรี้ยว เหมาะสำหรับช่วงหน้าร้อนหรือจะไปทะเลก็ดีงาม |
นอกจากน้ำหอมกลิ่นฟลอรัลที่ได้จากดอกไม้นานาชนิดที่ช่วยเพิ่มความสดชื่นให้กับอากาศร้อนแบบบ้านเราแล้ว ยังมีอีกหนึ่งกลิ่นที่อยากแนะนำคือ "กลิ่นซิตรัส" เป็นกลิ่นที่ได้จากผลไม้รสเปรี้ยวอย่างส้ม มะนาว มะกรูด เลมอน เป็นต้น ซึ่งเป็นกลิ่นที่เหมาะกับช่วงหน้าร้อน เพราะช่วยเพิ่มความมีชีวิตชีวา และความกระปรี้กระเปร่าให้หอมสดชื่นตลอดวัน โว้กบิวตี้แนะนำ 10 น้ำหอมกลิ่นซิตรัสที่สาวๆ ไม่ควรพลาด!
California Dream จาก Louis Vuitton (ราคา 9,450 บาท / 100 ml)
โคโลญจน์ที่พกความซัมเมอร์มาแบบเต็มๆ เพราะนำด้วยกลิ่นสดชื่นของส้มแมนดาริน เพิ่มความหอมหวลเล็กน้อยด้วยดอกไม้ ปิดด้วยความอบอุ่นของกลิ่นมัสก์เพื่อให้รู้สึกถึงช่วงเย็นที่ดวงอาทิตย์กำลังจะตกดิน โดดเด่นด้วยสีสันของแพ็กเกจจิ้งที่สะท้อนถึงภาพของการเจอกันระหว่างขอบฟ้าและท้องน้ำตอนที่ตะวันจะลับขอบฟ้าในรัฐแคลิฟอร์เนีย
Notes: Mandarin Orange, Pear, Ambrette, Musk และ Benzoin
Her London Dream Eau de Parfum จาก Burberry (ราคา 4,000 บาท / 50 ml)
โดดเด่นด้วยกลิ่นความสดชื่นจากมะนาวและขิง โดยมีกลิ่นของดอกกุหลาบและโบตั๋นเข้ามาแรกเพื่อให้ดูมีชีวิตชีวาขึ้น ให้ความรู้สึกถึงความโมเดิร์นที่แฝงด้วยความโรแมนติกราวกับยืนอยู่ใจกลางกรุงลอนดอน
Top Notes: Lemon และ Ginger
Middle Notes: Rose และ Peony
Base Note: Musk
WATCH
Lemon Solar Fruity Fresh Eau de Toilette จาก Dolce & Gabbana (ราคา 7,000 บาท / 100 ml)
เห็นแค่ขวดก็พอเดาได้แล้วว่านำมาด้วยกลิ่นสดชื่นของมะนาว แต่ความพิเศษอยู่ตรงที่เป็นการผสมผสานระหว่างซิซิเลี่ยนเลมอนและน้ำมันมะกรูดสกัดเย็นเข้มข้น ปิดท้ายด้วยเบสโน้ตของหญ้าแฝกเฮเชี่ยนและพฤกษาหอม ให้ความรู้สึกเหมือนได้ไปเยือนเกาะกลางทะเลตอนใต้ของประเทศอิตาลีในช่วงซัมเมอร์
Top Notes: Sicilian Lemon, Calabrian Bergamote และ Petitgrain
Middle Note: Ginger
Base Note: Haitian Vetiver
Aqua Allegoria Orange Soleia Eau de Toilette จาก Guerlain (ราคา 3,360 บาท / 75 ml)
เป็นน้ำหอมที่ได้แรงบันดาลใจมาจากบรรยากาศของสวนส้มบนเกาะซิซิเลีย ประเทศอิตาลี กลิ่นจึงหอมสดชื่นด้วยผลส้มและเพิ่มความเย็นเล็กน้อยด้วยกลิ่นของมินต์ เป็นน้ำหอมยูนิเซ็กส์ที่สามารถใช้ได้ทุกเพศ
Top Notes: Blood Orange, Bergamot และ Pink Pepper
Middle Notes: Petitgrain และ Mint
Base Notes: Tonka Bean และ Musk
Aegea Blossom Eau De Parfum จาก Aerin (ราคา 5,200 บาท / 50 ml)
เป็นกลิ่นหอมที่ได้แรงบันดาลใจจากทะเลอีเจียน ประเทศกรีซ ซึ่งเป็นความสดชื่นที่ผสมผสานระหว่างดอกส้ม เนโรลี และความนุ่มลึกจากกลิ่นของมัสก์ เป็นกลิ่นที่สามารถฉีดได้ในทุกวันหรือจะฉีดเพิ่มเสน่ห์ในช่วงที่ไปเที่ยวทะเลก็เข้ากันสุดๆ
Top Notes: Bergamot, Mandarin Orange และ Verbena
Middle Notes: Jasmine, African Orange Flower และ Neroli
Base Notes: Musk, Vetiver และ Sandalwood
Beach Walk Eau de Toilette จาก Maison Martin Margiela (ราคา 4,500 บาท / 100 ml)
เป็นกลิ่นที่พาเราย้อนไปในช่วงหน้าร้อนปี 1972 บนชายหาด Calvi ประเทศฝรั่งเศส เพราะเป็นกลิ่นหอมของมะกรูด เลมอนและพริกไทยสีชมพูผสมผสานเข้ากัน เพิ่มความเย้ายวนด้วยกลิ่นดอกกระดังงา ปิดท้ายด้วยกลิ่นมัสก์ให้ความนุ่มลึก เสมือนเราได้เอาเท้าจุ่มทรายเนื้อเนียนนุ่ม นั่งรับตะวันตกดิน
Top Notes: Bergamot, Lemon และ Pink Pepper
Middle Notes: Coconut Milk, Heliotrope และ Ylang-Ylang
Base Notes: Cadar, Musk และ Benzoin
Coco Mademoiselle L'Eau Privée จาก Chanel (ราคา 3,650 บาท / 50 ml)
น้ำหอมกลิ่นซิตรัส-โอเรียนทัลที่ออกแบบมาเพื่อโอกาสในตอนกลางคืนโดยเฉพาะ เปิดมาด้วยกลิ่นหอมบางๆ ของดอกมะลิและดอกกุหลาบ เพิ่มความสดชื่นเล็กน้อยด้วยกล่ินของส้มแมนดาริน ปิดท้ายด้วยความเซ็กซี่ของกลิ่นมัสก์
Top Note: Mandarin Orange
Middle Notes: Jasmine และ Rose
Base Note: White Musk
Viva La Juicy Le Bubbly Eau de Parfum จาก Juicy Couture (ราคา 3,020 บาท / 50 ml)
น้ำหอมสไตล์ฟลอรัลฟรุตตี้สำหรับสาวขี้เล่นที่เปิดมาด้วยกลิ่นความสดชื่นของดอกฟรีเซียและผลไม้รสเปรี้ยว เติมความเซ็กซี่เล็กน้อยด้วยเบสโน้ตของแอมเบอร์และเปลือกไม้ ให้ความรู้สึกเหมือนเป็นสาววัยรุ่นที่กำลังเปิดรับพลังและดื่มด่ำประสบการณ์ใหม่ๆ ในชีวิต
Top Notes: Champagne , Blood Orange , Wild berries , Mandarin Orange และ Pink Freesia
Middle Notes: Gardenia, Vanilla Orchid และ Jasmine
Base Notes: Praline , Amber และ Woodsy Notes
Diorissima จาก Christain Dior (ราคา 8,500 บาท / 125 ml)
Erémia Eau de Parfum จาก Aesop (ราคา 6,400 บาท / 50 ml)
ภาพ : Courtesy of the brands
WATCH