SKINCARE

มินท์ธิตา ‘ชมพู’ ผู้หลงใหลในสกินแคร์ เจ้าของไอจีรีวิวบิวตี้สุดชิค ‘More Than Surface’

รู้จักตัวตนและบิวตี้รูทีนของเธอแบบมากกว่าแค่ 'พื้นผิว'

“ชมพูเรียนจบบัญชีมา หลังจบก็ทำงานเป็นออดิทคอยตรวจสอบบัญชีให้กับบริษัทต่างๆ  ซึ่งถือเป็นงานที่ค่อนข้างหนักและซีเรียส พอทำไปซักพักก็รู้สึกว่าไม่ใช่ตัวเองซักเท่าไหร่เพราะเราเป็นคนที่มีความชอบในหลายๆด้าน เลยตัดสินใจลาออก ด้วยความที่เป็นคนชอบเที่ยวจึงหันมาเป็นแอร์ ซึ่งปัจจุบันก็ทำงานอยู่ที่การบินไทย และด้วยความที่เป็นคนที่ชอบเรื่องของแฟชั่น การแต่งตัวและก็เรื่องความสวยความงาม เราก็เลยมีแบรนด์เสื้อผ้าด้วย ชื่อว่า The Summer Project BKK โดยเป็นงานออกแบบของตัวเอง สำหรับร้านนี้ก็ทำมาซักพักใหญ่ๆ แล้วและทุกครั้งที่ทำเราก็รู้สึกเอ็นจอยกับมันเสมอ หลังจากเรียนจบเราก็ค้นพบความชอบของเราหลายๆ อย่างรวมถึงสิ่งที่ชอบมานานแล้วอย่างเรื่องของสกินแคร์และเมกอัพ แต่พักหลังมานี้ดูจะอินกับสกินแคร์เป็นพิเศษเราเลยมาเริ่มทำเพจ More Than Surface โดยตอนแรกก็ไม่ได้กะว่าจะทำจริงจัง มันเริ่มจากการที่เราชอบอัดคลิปตัวเองขำๆ แบบพูดถึงโปรดักต่างๆ ลงไอจีส่วนตัวแล้วมีคนทักเข้ามาถามบ่อยๆ ว่าอันนี้อันนั้นดีไหม มันเลยจุดประกายไอเดียให้เราทำ More Than Surface ขึ้นมาเพราะน่าจะเป็นประโยชน์ต่อหลายๆ คน ซึ่งแนวคิดการทำเพจรีวิวนี้เราไม่ต้องการให้มันเหมือนการรีวิวทั่วไป แต่เป็นเหมือนการแชร์มุมมองของผู้หญิงคนนึงที่หลงไหลในสกินแคร์จริงๆ โดยมาบอกเล่าถึงสกินแคร์แต่ละตัวแบบเจาะลึกด้วยดีเทลและข้อมูลที่ถูกกรั่นกรองมาอย่างดี”

​​More Than Surface เกิดจากการอินสกินแคร์มากๆ รู้ตัวตอนไหนว่าเป็นคนที่คลั่งไคล้ในสกินแคร์?“จริงๆ ชอบมานานมาก…ตั้งแต่สมัยมัธยมช่วงม.ปลาย คือตอนนั้นเราก็ยังไม่ได้รู้จักสกินแคร์เยอะมากมาย รู้จักแค่แบรนด์ดังๆ ที่คนเค้าใช้กัน แต่พอเราเริ่มสนใจมากขี้นเราเลยลองเสิร์ชดูว่ามีสกินแคร์แบรนด์ใหม่ๆ อันไหนน่าลองบ้าง” แล้วทำไมถึงเป็นสกินแคร์…“พูชอบความเป็นธรรมชาติ ไม่แต่งหน้าจัด ให้ความสำคัญกับผิว เลยคิดว่านี่แหละเป็นเหตุผลที่ทำให้เราชอบสกินแคร์มากกว่าเมกอัพ และบวกกับเป็นคนผิวหน้าแห้งมากซึ่งตอนนั้นมีปัญหาหน้าลอกจึงเป็นจุดเริ่มต้นของการตามหาสกินแคร์ที่จะมาช่วยแก้ปัญหาผิวของเรา หลังจากที่ค้นพบว่าอะไรมันเวิร์คกับผิวเราและช่วยแก้ปัญหาเราก็เริ่มหลงรักสกินแคร์และชอบการได้ลองผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ มันไม่ใช่ว่าลองครั้งแรกแล้วหน้าหายลอกเลยนะแต่ต้องลองไปเรื่อยๆ ว่าอะไรเหมาะกับผิวเราจริงๆ ถึงจะรู้ว่าอันไหนที่ตอบโจทย์ผิวเรา”

ทำไมถึงชื่อ More Than Surface (มากกว่าพื้นผิว)?

“ถ้าพูดถึงความสวยงามคนก็มักจะมองว่าสวยด้วยเมกอัพ ซึ่งจริงๆแล้วเราว่ามันมากกว่านั้น คือเมกอัพก็เป็นแค่พื้นผิวของเรา ต่างจากสกินแคร์ที่เป็นตัวนำเอาความสวยของเราออกมาในแบบที่เราเป็น คือพูมองว่าถ้าผิวเราสุขภาพดี ความสวยของเราก็จะมาจากข้างใน เรื่องของผิวสวยสุขภาพดีเป็นสิ่งที่เราเน้นใน More Than Surface จริงๆเพจนี้เป็นอะไรที่สะท้อนตัวตนของพูมากๆ เพราะจะเน้นในเรื่องของสกินแคร์มากกว่าเมกอัพ ช่วงวันธรรมดาหรือวันหยุดเราจะไม่ค่อยแต่งหน้ายกเว้นต้องไปถ่ายรูปหรือไปทำงาน ก็จะใช้แค่บีบีครีม เขียนคิ้ว ปัดขนตา ส่วนเวลาทำงานหรือต้องบิน ทริคของเราคือการทาสีลิปสีแซ่บๆอย่างสีแดง คนเขาจะได้คิดว่าเราแต่งหน้าเยอะ (หัวเราะ)”

More Than Surface เป็นการรีวิวบิวตี้ที่ค่อนข้างแตกต่าง อะไรทำให้คนติดตามเรา?

“ต้องยอมรับเลยว่าดีใจกับผลตอบรับของเพจนี้มาก เราคิดว่าคนตามเพจของเราเพราะภาษาที่เข้าใจง่ายและการนำเสนอสกินแคร์พร้อมข้อมูล รวมถึงพวกมู้ดแอนด์โทนแล้วก็การถ่ายรูปด้วย เราจะทุ่มเทกับการถ่ายรูปแบบใส่ใจดีเทล หาพร็อพมาวาง ซึ่งแต่ละโพสจะใช้เวลาค่อนข้างนานอยู่เพราะเราต้องการให้หน้าไอจีออกมาสวย รูปไหนที่เราถ่ายเองก็จะติดแฮชแท็ก #photobyMORETHANSURFACE

 รีวิวจากประสบการณ์และหาข้อมูลด้วยตัวเอง...“จากหลากหลายคำถามที่พูได้รับทำให้เราได้รู้เลยว่าหลายๆ คนรู้จักสกินแคร์เพียงแค่พื้นผิวและยังขาดความเข้าใจในการใช้สกินแคร์ในหลายๆ เรื่อง เช่นการใช้โทนเนอร์ หลายคนจะคิดว่าเป็นขั้นตอนที่ไม่จำเป็นแต่โดยหลักการแล้วเป็นสเต็ปที่จำเป็นพอๆ กับการล้างหน้าเลยนะ คือส่วนใหญ่จะล้างหน้าแล้วตามด้วยมอยส์เจอไรเซอร์แล้วมองข้ามโทนเนอร์โดยไม่รู้ว่าเป็นขั้นตอนพื้นฐานที่จะช่วยให้ผิวของเราสะอาดจริงและยังช่วยปรับสมดุลผิวด้วย”



WATCH



Beauty Routines:

Morning Routine

“ตอนเช้าหลังจากตื่นนอนสิ่งแรกที่พูทำคือดื่มน้ำเพราะเราเชื่อว่าผิวที่สุขภาพดีดูชุ่มชื้นมาจากการดื่มน้ำเยอะๆ คือช่วงไหนที่ดื่มน้ำไม่พอเราจะสังเกตได้ว่าผิวตัวเองจะแห้งมาก หลังจากนั้นเราก็จะล้างหน้าด้วย 23 YEARS OLD Black Paint Rubar สบู่ก้อนล้างหน้าที่มาในรูปแบบแท่งหมุนได้ ตัวนี้ให้ความรู้สึกผิวสะอาดไม่แห้ง ซึ่งส่วนตัวเราเป็นคนชอบความรู้สึกผิวสะอาดและยิ่งมาเจอตัวที่คงความชุ่มชื้นด้วยยิ่งรักการล้างหน้าเข้าไปใหญ่ หลังจากล้างหน้าเสร็จช่วงเช้าเราจะไม่ใช้โทนเนอร์เพราะเราเพิ่งตื่นนอนจึงไม่มีความจำเป็นที่ต้องทำความสะอาดสิ่งสกปรกบนใบหน้าเท่าช่วงเย็น จากนั้นตามด้วย Aesop Parsley Seed Anti-oxidant Serum อันนี้เป็นลูกรัก (หัวเราะ) คือบีเอที่ Aesop เขาบอกว่าเป็นเซรั่มที่มีครบจบในขวดเดียว แต่เรารู้สึกว่ายังไม่พอเพียงเลยตามด้วยมอยส์เจอไรเซอร์ ที่ใช้อยู่คือ Drunk Elephant Whipped Cream เป็นตัวที่ใช้แล้วเราไม่เจอปัญหาหน้าลอกอีกเลย ส่วนถ้าบางวันที่เรารู้สึกหน้าแห้งอย่างเวลามีบินเราก็จะใช้เป็นออยล์แทน คือตัว Drunk Elephant Virgin Marula Luxury Facial Oil เป็นตัวที่เหมาะมากสำหรับไฟลท์ยุโรปหรือเวลาที่ต้องบินนานๆ จะช่วยให้หน้าชุ่มชื้นในอีกระดับ แต่ก็ไม่เหมาะกับอากาศบ้านเราซักเท่าไหร่เพราะเนื้อเขาจะค่อนข้างเหนอะหนะ ในวันที่รู้สึกว่าหน้าไม่ค่อยแห้งก็จะใช้ Pixi Skin Treats H2O Skin Drink Pure Hydration Gel หลังจากนั้นก็จะใช้ครีมกันแดดของเกาหลี MAKE P:REM Blue Ray Sun Gel SPF 50+ PA++++ เป็นกันแดดเนื้อเจล”

Makeup

“เราเป็นคนไม่ค่อยเน้นเมกอัพ (หัวเราะ) หลังจากลงสกินแคร์สำหรับ Everyday-look เราก็จะเริ่มด้วยไพรม์เมอร์ของ Banila Co แล้วต่อด้วยรองพื้นที่เป็นบีบีครีมของเกาหลี Jung Saem Mool essential star-cealer เป็นคุชชั่นที่มีเนื้อบางเบาให้ความผิวโกลว์ ใช้ง่ายดี สะดวก โดยปกติจะไม่ใช้แป้งฝุ่นทาทับ แต่ถ้าวันไหนไปบินก็จะใช้แป้งช่วยเซ็ตเมกอัพให้ทนขึ้น จากนั้นก็จะต่อด้วยครีมบลัชจาก Glossier ตัว Cloud Paint สี Beam อันนี้ชอบมาก หรือบางทีก็จะใช้ลิปมาเป็นบลัชด้วย โดยเราจะใช้ลิป Tatouage Couture Liquid Matte Lip Stain ของ YSL สี Nude Emblem No. 16 มาทาทั้งปากและปัดที่แก้มเล็กน้อย ส่วนคิ้วเราจะใช้ NYX Eyebrow Gel เป็นเจลที่ค่อนข้างติดทนหรือไม่ก็ Glossier Boy Brow จากนั้นตามด้วยมาสคาร่า เราไม่ค่อยใช้อายแชโดว์เพราะแต่งตาไม่ค่อยเก่ง (หัวเราะ) ถ้าต้องแต่งตาจริงๆ เราจะใช้บลัชจากพาเลตต์ Urban Decay Naked Flushed สี streak มาเป็นอายแชโดว์แทน ที่ขาดไม่ได้เลยคือการไฮไลต์ ที่ใช้อยู่ตอนนี้คือไฮไลต์จากพาเลตต์ Sleek Face Contour Kit ปัดบริเวณโหนกแก้ม ปลายจมูก และก็ที่คางนิดหน่อย"

Night Routine

“ถ้าวันนั้นแต่งตาเราก็จะใช้ L'oreal Paris Gentle Makeup Remover (Waterproof) เป็นออยล์ล้างเมกอัพตรงบริเวณตาและปาก จากนั้นก็ตามด้วยเคลนซิ่งบาล์ม Banila Co Clean It Zero ซึ่งเป็นขั้นตอนที่พูถือว่าสำคัญมากในสเต็ปการล้างหน้า เราเชื่อในการล้างหน้าแบบดับเบิ้ลเคลนซ์ซิ่ง คือเป็นสูตรการล้างหน้าจากเกาหลีที่แนะนำให้เราล้างด้วยบาล์มหรือออยล์ก่อนแล้วค่อยตามด้วยโฟมล้างหน้าอีกที ก็คือการทำความสะอาดผิวหน้าในช่วงเย็นจะแบ่งเป็น 2 สเต็ปหลักๆ คือล้างอายเมกอัพด้วยการใช้สำลีจุ่มที่ล้างเมกอัพแล้วค่อยๆ เช็ดตาและปาก จากนั้นก็ล้างเมกอัพทั้งหมดออกด้วยบาล์มอีกรอบ หลังจากนั้นก็ใช้น้ำล้างบาล์มออกจนหมด แล้วก็ต่อด้วยล้างหน้าด้วยโฟมล้างหน้าของ Senka Perfect Whip ที่ล้างหน้าจากญี่ปุ่นที่ราคาถูกมาก (หัวเราะ) เสร็จแล้วเราก็จะซับหน้าให้แห้ง พอทำความสะอาดผิวเสร็จก็ตามด้วย Pixi Glow Tonic โทนเนอร์ที่พูแนะนำทุกคนแบบภูมิใจนำเสนอมาก (หัวเราะ) หลายๆ คนใช้ก็บอกต่อว่าดี ถ้าวันไหนไม่ได้แต่งหน้าเราจะใช้วิธีเทโทนเนอร์ลงบนฝ่ามือแล้วกดให้ทั่วๆหน้า เพื่อปรับสมดุลผิว ส่วนวันที่ใช้เมกอัพเยอะก็จะใช้โทนเนอร์บนสำลีเพราะจะช่วยดึงเอาสิ่งสกปรกออกมาได้ดีกว่า จากนั้นก็ใช้ Aesop Lucent Facial Concentrate เซรั่มที่เต็มไปด้วยวิตามินซีที่ดีต่อผิว ตัวนี้ต้องวอร์มในฝ่ามือเพื่อเป็นการปลุกวิตามินต่างๆ ก่อนลงที่ผิว เวลาทาเราก็จะไม่ทาไปทีเดียวนะ แต่จะค่อยๆกดให้เนื้อผลิตภัณฑ์ซึมเข้าผิว แล้วตามด้วยอายครีม Advanced Night Repair Eye Serum ของ Estee Lauder และปิดท้ายด้วยมอยส์เจอไรเซอร์ Drunk Elephant Whipped Cream ส่วนเรื่องการผลัดเซลล์ผิวพูจะทำอย่างน้อยสัปดาห์ละครั้ง ที่ใช้อยู่ตอนนี้ก็คือ Cosrx One Step Original Clear Pad เป็นแบรนด์ของเกาหลี”

ต้องบอกเลยว่าตารางเวลาของสาวคนนี้ @mjcpjj เขาแน่นเอี๊ยดเพราะนอกจากเป็นแอร์, เจ้าของแบรนด์เสื้อผ้า และเจ้าของเพจรีวิวบิวตี้ @morethansurface แล้วเธอคนนี้ยังมีโปรเจคใหม่อีกหนึ่งโปรเจค นั่นก็คือจับมือกับเพื่อนๆเปิดร้านคาเฟ่แนวสุขภาพย่านสีลมซอย 3 “จริงๆ เราไม่ได้เป็นคนเฮลตี้นะแต่ที่อยากเปิดคาเฟ่เพราะตอนเด็กๆ ใฝ่ฝันอยากเป็นแคชเชียร์ ชอบกดเครื่องคิดเลข (หัวเราะ)  ร้าน “Pyti” ปิติ โค-เฮลต์ตี สเปซ เป็นคาเฟ่แนวเฮลตี้ที่สนับสนุนเกษตรกรท้องถิ่น ซึ่งคือชื่อ ปิติ เป็นชื่อไทยๆ ที่เราต้องการสื่อว่าเฮลตี้สไตล์ไทยๆ ก็ได้เหมือนกัน ต้องการพรีเซ้นต์ว่าวัตถุดิบไทยเราก็เฮลตี้ไม่แพ้เมืองนอกเหมือนกัน เช่นเครื่องดื่มที่ร้านเราจะใช้หญ้าหวานแทนน้ำตาล เฮลตี้แบบไทยๆ” มีกิจกรรมหลายอย่างมากทุกวันนี้ทำได้อย่างไร… “พูว่าถ้าเราทำสิ่งที่เราชอบ เราก็จะทำมันออกมาได้โอเคเลยนะ”

 

เรื่องและสัมภาษณ์: แก้วสิริ ศรีสำอาง

ภาพ: @morethansurface/ @mjcpjj

WATCH