สำหรับคนที่ชื่นชอบการทำเล็บไม่ว่าจะเพนต์เล็บ ทาเล็บเจล หรือต่ออะคริลิกก็ตาม เชื่อว่ามีไม่น้อยที่ไม่เคยปล่อยเล็บให้เปลือยเปล่า และทำเล็บอยู่เป็นประจำเมื่อคิดอยากจะเปลี่ยนสไตล์ แต่รู้หรือไม่ว่าเล็บของเราเองก็ต้องการการพักหายใจบ้าง เพราะการไม่เว้นว่างการทำเล็บเลยอาจส่งผลเสียต่อสุขภาพเล็บโดยไม่รู้ตัว แต่เนื่องด้วยสุขภาพเล็บที่แย่ลงจะไม่มีอาการเจ็บปวดให้รับรู้ เราจึงจำเป็นต้องหมั่นสังเกตด้วยตัวเองอย่างสม่ำเสมอผ่าน 5 สัญญาณเตือนเหล่านี้ที่เล็บกำลังบอกคุณว่าถึงเวลาแล้วที่ต้องพักเล็บก่อน

 

 

2. หน้าเล็บบางลง

     สัญญาณเตือนอีกประการหนึ่งที่บ่งบอกว่าควรพักเล็บคือเมื่อรู้สึกได้ว่าหน้าเล็บมีความบางลง โดยเกิดได้จากหลายสาเหตุด้วยกันไม่ว่าจะการใช้น้ำยาล้างเล็บที่มีสารอะซิโตนผิดวิธี หรือการลอกเล็บเจลออกเลยดื้อๆ ก็เป็นหนึ่งในนั้น ดังนั้นเมื่อไหร่ก็ตามที่หน้าเล็บเริ่มบางแล้วแต่ก็ฝืนทำเล็บอยู่ ก็อาจจะยิ่งทำให้เล็บมีความเปราะบางและฉีกขาดได้ง่ายยิ่งขึ้น

 

4. เล็บฉีกขาดง่าย

     หากเล็บมีความเปราะบางและฉีกขาดอยู่บ่อยๆ เป็นไปได้ว่าสุขภาพเล็บกำลังย่ำแย่ วิธีที่ดีที่สุดคือการหยุดทำเล็บ หากทาเล็บเจลหรือต่อเล็บอยู่ก็ควรถอดออกทันที ทั้งนี้อย่าลืมว่าต้องล้างเล็บหรือถอดอย่างถูกวิธี เพราะไม่งั้นเล็บอาจจะยิ่งฉีกขาดมากกว่าเดิม จากนั้นควรทิ้งเวลาพักเล็บจนกว่าเล็บกลับเข้าสู่สภาะวะปกติ 

 

5. หนังโคนเล็บลอกหรือแห้ง

     การละเลยไม่ดูแลผิวหนังบริเวณรอบๆ เล็บจนขาดความชุ่มชื้น และการใช้สารเคมีที่มาจากน้ำยาล้างเล็บประเภทต่างๆ จะทำให้ทั้งเล็บและผิวหนังรู้สึกแห้งมากเกินไป วิธีแก้คืออันดับแรกคือต้องพักเล็บ จากนั้นใช้ออยล์บำรุงเล็บเป็นประจำ รวมถึงเพิ่มความชุ่มชื้นให้กับมือด้วยการใช้แฮนด์ครีม ซึ่งนอกจากจะทำให้ทั้งเล็บและผิวรอบๆ เล็บมีสุขภาพดีแล้ว ยังลดโอกาสการเกิดเล็บขบอีกด้วย 

 

     อย่างไรก็ตามไม่จำเป็นต้องรอเกิดสัญญาณเตือนข้างต้นแล้วค่อยพักเล็บ แต่เราควรว่างเว้นจากการทำเล็บบ้างเพื่อเปิดโอกาสได้เล็บได้หายใจหายคอ ดีที่สุดคือควรพักเล็บอย่างน้อย 1-2 สัปดาห์ เพื่อทิ้งช่วงเวลาให้เล็บได้ฟื้นฟูซ่อมแซมตัวเอง และรีเซ็ตเล็บกลับมาให้แข็งแรงสุขภาพดี