เรื่องราวในครั้งนี้เราต้องเดินทางย้อนอดีตไปสู่ช่วงต้นศตวรรษที่ 20 ในปี ค.ศ. 1920 ซึ่งเป็นช่วงปีที่บทบาททางสังคมของผู้หญิงนั้นเพิ่มสูงขึ้น ไม่ว่าจะเป็นสิทธิในการเลือกตั้งของผู้หญิง ที่อนุญาตให้เหล่าสุภาพสตรีได้เข้ามามีส่วนร่วมทางการเมือง หรือจะเป็นผลจากการเติบโตของเศรษฐกิจที่สูงมากขึ้น จนทำให้ผู้หญิงหลายคนเริ่มมีรายได้เป็นของตัวเอง ตลอดจนการเปลี่ยนแปลงทางสังคมที่เกิดขึ้น ทำให้ผู้หญิงสามารถใช้ชีวิตในแบบที่พวกเธอต้องการได้อย่างอิสระ ซึ่งปัจจัยเหล่านี้เองจึงทำให้ผู้หญิงเริ่มหันมาสนใจตนเองทั้งในเรื่องแฟชั่นเเละความสวยความงามมากย่ิงขึ้น จนเกิดเทรนด์ในการทาเล็บสีแดงซึ่งเป็นการแสดงออกในเชิงสัญลักษณ์ที่สื่อถึงความมั่นใจและอิสรภาพ

     อย่างที่เกริ่นไปว่าสีแดงถูกหยิบมาใช้เป็นเฉดสีที่แสดงถึงความมั่นใจของผู้หญิง เเต่ในขณะเดียวกันเฉดสีนี้ก็แฝงไปด้วยความหมายในด้านอื่นๆ เช่น ความกล้าหาญ พลัง อำนาจเเละความรัก ทำให้เป็นเฉดสีที่ช่วยสร้างแรงดึงดูดและน่าหลงใหลให้กับผู้หญิง ซึ่งมีการศึกษาในหลายชิ้นที่พูดไปในทิศทางเดียวกันว่า การที่ผู้หญิงทาเล็บสีแดงนั้นมักได้รับความนิยมจากผู้ชายมากขึ้น และด้วยความหมายเเละความเชื่อเหล่านี้เองทำให้ปัจจุบันผู้หญิงทั้งหลายเริ่มหันมาทาเล็บสีแดงเพื่อเสริมความโดดเด่นให้ตัวเอง

     แต่อย่างไรก็ดีทฤษฎีเล็บสีแดงนั้นเป็นเเนวความคิด ความเชื่อ เเละทฤษฎีเท่านั้น ทั้งยังเป็นสิ่งที่ไม่สามารถพิสูจน์ได้ในทางวิทยาศาสตร์ แต่หากการทาเล็บสีแดงทำให้เรามั่นใจมากขึ้น ผู้เขียนเองก็เชื่อว่าจะเป็นสิ่งที่ช่วยเพิ่มเสน่ห์เเละคอยดึงดูดคนรอบข้างเข้ามาเสมอ