
BODY
แนะนำ ‘น้ำหอมกลิ่นกรีน’ ที่ให้ความรู้สึกสดชื่น คล้ายกับการได้สูดอากาศบริสุทธิ์กลางป่าทำความรู้จัก ‘น้ำหอมกลิ่นกรีน’ ที่มอบกลิ่นหอมสดชื่น คล้ายกับกลิ่นของธรรมชาติ และพืชไม้นานาพรรณ |
“น้ำหอมกลิ่นกรีน” (Green perfume) เป็นน้ำหอมที่มอบสัมผัสของความเขียวขจี มอบกลิ่นที่ถ่ายทอดโลกสีเขียวรอบตัวเรา ผสมผสานกลิ่นของต้นไม้ ใบหญ้า พืชนานาพรรณ ไปจนถึงกลิ่นดินอันอบอุ่น โดยกลิ่นเหล่านี้จะสื่อถึงความสดชื่นของอากาศบริสุทธิ์ เสมือนอยู่ท่ามกลางธรรมชาติอันแสนสงบ เบาสบาย ชวนผ่อนคลาย ซึ่งหากใครสนใจกลิ่นน้ำหอมแนวนี้แต่ยังตัดสินใจไม่ถูก ลองเลือกจากลิสต์ที่โว้กบิวตี้คัดสรรมาแนะนำกันนี้ได้เลย

Diptyque Philosykos Eau de Parfum (ราคา 8,100 บาท)
น้ำหอมที่มอบความรู้สึกสดชื่นและเป็นธรรมชาติอย่างแท้จริง โดยคำว่า "Philosykos" ในภาษากรีก มีความหมายว่า "มิตรแห่งต้นมะเดื่อ" โดยกลิ่นหอมหลักๆ ได้มาจาก “มะเดื่อ” ทั้งต้น ไม่ว่าจะเป็น ใบ ยาง และไม้ มอบกลิ่นที่สร้างความทรงจำเสมือนกำลังได้เดินผ่านมวลหมู่ของต้นมะเดื่อป่าในช่วงฤดูร้อนในประเทศกรีซ ทำให้รู้สึกสดชื่น มีความบางเบา ไม่หวานหรือเลี่ยน และแฝงความอบอุ่นของไม้ที่ไม่ได้เข้มข้นมากนัก แต่กลิ่นซีดาร์จะชัดเจนขึ้นในตอนท้าย

Jo Malone London Lime Basil & Mandarin Cologne (ราคา 3,100 บาท)
สำหรับวันที่ต้องการความสดชื่นและเอเนอร์จี้ในการทำกิจกรรม แนะนำกลิ่นกรีนกลิ่นนี้ที่ผสมผสานความสดชื่นที่ซับซ้อนในสไตล์ซิกเนเจอร์ของ Jo Malone โดยกลิ่นในโน้ตแรกเปิดนำด้วยความเปรี้ยวซ่อนหวานของมะนาวและส้มแมนดาริน มีความเย็นสดชื่นเหมือนลมในฤดูร้อนที่สดใส ผสานกับกลิ่นโหระพาที่ให้ความรู้สึกเขียวชอุ่มและมีชีวิตชีวา พร้อมเพิ่มมิติด้วยสัมผัสเผ็ดร้อนจากพริกไทย ปิดท้ายด้วยกลิ่นวู้ดดี้ที่มีกลิ่นคล้ายอำพันอันอบอุ่น
WATCH

Chanel No. 19 (ราคา 8,000 บาท)
Chanel No. 19 เป็นน้ำหอมแนว Floral Green ซึ่งกลิ่นได้เอกลักษณ์จากพันธุ์ไม้เขียวขจี Galbanum ผสานกับกลิ่นหอมของแป้งจากดอก Iris ที่นุ่มนวล สร้างกลิ่นที่สะท้อนถึงบุคลิกอันกล้าแกร่งและมีอิสระเสรี นับเป็นมาสเตอร์พีซอันทรงคุณค่าของชาแนล เปิดตัวในปี 1970 โดย No.19 ได้รับแรงบันดาลใจจากวันเกิดของกาเบรียล (19 สิงหาคม) และนี่เป็นน้ำหอมกลิ่นสุดท้ายที่ถูกรังสรรค์ด้วยตัวของ Gabrielle Coco Chanel

Hermès Un Jardin Sur Le Nil (ราคา 6,300 บาท)
การได้ฉีดพรม Un Jardin sur le Nil จาก Hermès ขวดนี้ จะได้พบกับความสดชื่นเสมือนการได้เดินเล่นท่ามกลางสวนบนเกาะริมแม่น้ำไนล์ ในเมืองอัสวาน ประเทศอียิปต์ ซึ่งแม่น้ำสายนี้เป็นสัญลักษณ์ของชีวิตและความเอื้ออาทร อันเป็นกลิ่นหอมของความเขียวชอุ่ม พืชพรรณ และกลิ่นทราย โดยผสมผสานกลิ่นจากมะม่วงเขียว ดอกบัว ต้นคาลามัส และไม้ซิกามอร์ ซึ่งล้วนเป็นหัวใจสำคัญของความสดชื่นนี้ที่สร้างกลิ่นกรีนที่หอมซับซ้อนและล้ำลึก

Le Labo Baie 19 Eau de Parfum (ราคา 7,650 บาท)
กลิ่นนี้เหมาะสำหรับผู้ที่ชื่นชอบความสดชื่น ลุ่มลึก และสัมผัสที่เป็นธรรมชาติ กับ Baie 19 น้ำหอมแนวกลิ่น Aromatic Green จำลองความรู้สึกของดินชุ่มน้ำหลังฝนตก โดยได้อินสไปร์มาจากฝนตกหนักในช่วงที่แห้งแล้ง โดยเป็นกลิ่นที่ให้ความรู้สึกสะอาดสดชื่น ชวนให้นึกถึงเช้าวันใหม่ที่สดใส โดยโน้ตแรกมอบกลิ่นสดชื่นจาก Juniper berries และ Patchouli สร้างความรู้สึกเย็นฉ่ำเหมือนละอองฝนแรก ตามด้วยกลิ่นหญ้าแฝกและไม้ซีดาร์ที่ให้ความรู้สึกสงบ แล้วเสริมด้วยกลิ่นมัสก์และแอมบร็อกซ์ที่ให้ความอบอุ่นและติดทนนาน
ภาพ : Courtesy of Brands
WATCH