BODY

เจาะลึกแรงบันดาลใจเบื้องหลัง Wind Flowers น้ำหอมเฟรชฟลอรัลใหม่ล่าสุดจาก Creed

โว้กบิวตี้พูดคุยกับ Sarah Rotheram CEO ของ Creed น้ำหอมนิชแบรนด์สัญชาติฝรั่งเศส ถึงการรังสรรค์ Wind Flowers น้ำหอมกลิ่นเฟรชฟลอรัลใหม่ล่าสุดสำหรับผู้หญิง

Wind Flowers คือน้ำหอมแนวกลิ่นเฟรชฟลอรัลใหม่ล่าสุดจาก House of Creed ที่สร้างสรรค์โดย Olivier Creed ทายาทรุ่นที่ 6 ผู้เป็นสุคนธกรผู้เชี่ยวชาญในการปรุงน้ำหอม ซึ่งเขาได้หยิบแรงบันดาลใจจากการผสมผสานอย่างลงตัวของความสง่างามและความแข็งแกร่งของท่าเต้นนักบัลเล่ต์ที่เคลื่อนไหวอย่างพริ้วไหวผ่านสายลมในอากาศ และเพื่อเผยความงามของกลิ่นนี้ เฮ้าส์ ออฟ ครีด ได้เล่าเรื่องราวผ่านมิวส์คนล่าสุดอย่าง Lauren Cuthbertson นักบัลเล่ต์ชาวอังกฤษและเป็นนักเต้นหลักของ Royal Ballet ในกรุงลอนดอน โดยได้เธอมาช่วยถ่ายทอดกลิ่นหอมจากดอกไม้อย่างดอกกุหลาบ Rose Centifolia และไอริสที่หอมโปร่งเบา ออกมาเป็นงานศิลปะในรูปแบบของท่าเต้นอันน่าหลงใหล ซึ่งจากการสัมภาษณ์พิเศษกับคุณ Sarah Rotheram ผู้บริหารสูงสุดของเฮ้าส์ ออฟ ครีด ขณะที่เธอเดินทางมาร่วมเปิดตัวน้ำหอมในประเทศไทย เธอได้เล่าถึงแรงบันดาลใจกับโว้กบิวตี้พร้อมพาเราเจาะโน๊ตและส่วนผสมที่ทำให้ Wind Flowers เป็นน้ำหอมฟลอรัลที่มีความโมเดิร์น สะท้อนตัวตนของผู้หญิงยุคใหม่ได้อย่างมีเอกลักษณ์

 

 

ช่วยเล่าถึงแรงบันดาลใจเบื้องหลังน้ำหอมกลิ่น Wind Flowers ให้เราฟังได้ไหมคะ

“เขาอยากรังสรรค์น้ำหอมให้แก่ผู้หญิงยุคใหม่ค่ะ โดยเขาได้หยิบยกแรงบันดาลใจมาจากความสง่างามอ่อนช้อยของท่าเต้นที่เคลื่อนไหวอย่างพริ้วไหวผ่านสายลมในอากาศแต่ซ่อนไว้ด้วยความแข็งแกร่ง ความตั้งใจ และความทุ่มเท ซึ่งสะท้อนถึงผู้หญิงในปัจจุบัน เขาตั้งใจอยากถ่ายทอดที่เต้นที่พริ้วไหวของนักเต้นบัลเล่ต์ออกมาเป็นกลิ่นน้ำหอมซึ่งเกิดเป็นแรงบันดาลใจการครีเอตน้ำหอมแนวกลิ่นฟลอรัลที่มีความโมเดิร์น โดยส่วนใหญ่แล้วสำหรับน้ำหอมผู้หญิง โอลิวิเยร์จะนิยมรังสรรค์กลิ่นที่ทำให้นึกถึงช่อดอกไม้สีขาวอย่าง จัสมิน (Jasmine) และ ซ่อนกลิ่น (Tuberose) ซึ่งครั้งนี้เขาได้เลือกใช้ Rose Centifolia กุหลาบสีชมพูอ่อนทีมอบสัมผัสกลิ่นหอมโปร่งเบาภายในฮาร์ทโน๊ตด้วยค่ะ”

 

กลิ่น Wind Flowers ทำให้คุณนึกถึงอะไรบ้าง

“ฉันใช้กลิ่นหอมนี้มาตลอดตั้งแต่เริ่มสร้างสรรค์เลยค่ะ ฉันรักกลิ่นนี้เลย สำหรับตัวฉัน กลิ่นนี้ทำให้นึกความเป็น 'โอลด์ แกลม’ แฟชั่นในยุคเก่านิดๆ แต่ในขณะเดียวกันมีความร่วมสมัยสุดๆ ใช้ได้ทุกโอกาสเลยค่ะ”

 

Wind Flowers ใช้เวลา 5 ปีในการสร้างสรรค์ กระบวนการสร้างสรรค์ของคุณโอลิวิเยร์เริ่มต้นอย่างไรบ้าง

“ทุกอย่างเริ่มต้นที่ส่วนผสมเลยค่ะ โอลิวิเยร์จะเริ่มด้วยการเสาะหาส่วนผสม และเหตุผลที่เขาค่อนข้างใช้เวลานานกับกระบวนการรังสรรค์เพราะเมื่อเขาใช้เวลากับการเลือกสรรจากแหล่งส่วนผสมที่ดีที่สุดค่ะ เขาอธิบายว่าการสร้างสรรค์น้ำหอมก็เหมือนกับการทำอาหาร เช่น ถ้าคุณเริ่มปรุงด้วยส่วนผสมอย่างมะเขือเทศชั้นดีอาหารจานนั้นก็จะออกมาหอมมีหน้าตาน่ากิน เช่นเดียวกันกับการปรุงน้ำหอมค่ะ ถ้าเริ่มจากส่วนผสมชั้นเลิศ ซึ่งเป็นหัวใจของทุกอย่างที่แบรนด์เราทำ กลิ่นหอมก็จะเหมือนมีดอกไม้ที่ผลิบานอยู่ด้านในขวดน้ำหอม หลังจากนั้นก็จะมีการทดลองกลิ่นไปมา ซึ่งมักจะมีการปรับเปลี่ยนเล็กน้อย…บางครั้งมันคล้ายกับการเพ้นท์งานศิลปะที่ไม่มีจุดสิ้นเลยค่ะ และหน้าของฉันคือการช่วยตัดสินใจว่า ‘เนี่ยละคือกลิ่นที่เราตามหา’ บางครั้งกระบวนการปรุงน้ำหอมมีความน่าอัศจรรย์คือได้กลิ่นที่ต้องเลย บางครั้งจะใช้เวลากว่าจะได้กลิ่นหอมที่ต้องการค่ะ อย่างกลิ่นของ Praline (ช็อกโกแลตที่มีไส้สอดตรงกลาง) ถูกเติมเข้ามาทีหลังเลยค่ะ เพราะเราได้ทำงานใกล้ชิดกับนักบัลเล่ต์ด้วยค่ะ เพื่อศึกษาว่าเราจะสามารถถ่ายทอดสิ่งนี้ออกมาเป็นกลิ่นน้ำได้อย่างไร และช่วงเวลานี้เองที่ความครีเอทีฟและกระบวนการสร้างสรรค์มาบรรจบกันค่ะ โดยกลิ่นพลาลีนได้ช่วยถ่ายทอดกลิ่นหอมของผิวกาย อีกทั้งยังมีกลิ่นหอมของ ไอริส (Iris) ที่โปร่งเบาสะท้อนถึงทวงท่าที่พริ้วไหวผ่านสายลมในอากาศของนักบัลเล่ต์ค่ะ”

 

Wind Flowers 75 ml. ราคา 10,300 บาท

 

คุณโอลิวิเยร์ใช้วิธีไหนบ้างในการคัดเลือกส่วนผสม

“เขาเดินทางไปรอบโลกเลยค่ะ และเรามีส่วนผสมส่งตรงมาจากผู้ผลิตเพื่อให้เขาได้ดมและศึกษากลิ่นต่างๆ ซึ่งขึ้นอยู่กับแต่ละส่วนผสมเลยค่ะ อย่างล่าสุดฉันได้รับฝักวานิลลาช่อยักษ์ส่งมาที่บ้าน ซึ่งเหมือนเพิ่งถูกเก็บมาใหม่ๆ เลยค่ะ มันคือวานิลลาที่หอมหวานสุดๆ เลยค่ะ และนั่นทำให้เราตัดสินใจเลือกซื้อวานิลลาจากเจ้านี้และนำมาสกัดเองค่ะ โอลิวิเยร์จะทำการดมทุกส่วนผสมด้วยตัวเองเลย ซึ่งการใส่ใจในการคัดสรรส่วนผสมที่ดีที่สุดถือว่าเป็นหัวใจของแบรนด์เราเลยค่ะ”

 

ช่วยอธิบายถึงแต่ละโน๊ตของ Wind Flowers ให้เราฟังหน่อยคะ

“ก่อนจะมาทำความรู้จักแต่ละโน๊ตของน้ำหอม ต้องเกริ่นก่อนว่าเพราะน้ำหอมของเรามีส่วนผสมสกัดจากธรรมชาติในเปอร์เซนต์ที่สูงมาก บางกลิ่นของเรามีส่วนผสมจากธรรมชาติถึง 77 เปอร์เซนต์ อาจทำให้ต้องใช้เวลาสักครู่กว่ากลิ่นหอมจะดรายดาวน์ค่ะ สำหรับท๊อปโน๊ตจะเปิดด้วยกลิ่นดอกส้มตูนิเซีย (Tunisian Orange Blossom) และกลิ่นพีช (Peach) และต่อมาในฮาร์ทโน๊ตจะมอบสัมผัสความหอมของช่อดอกไม้สีขาวที่ประกอบด้วยกลิ่นของดอกมะลิ (Jasmine Flower) กลีบกุหลาบสีชมพูอ่อน Rose Centifolia จากนั้นจะเริ่มเผยกลิ่นที่ซับซ้อนมากยิ่งขึ้น โดยมีกลิ่นไอริส (Iris) อยู่ในช่วงท้ายที่มอบมิติความหอมอันบางเบาที่เหมือนตัวเรายกลอยอยู่กลางอากาศ  โดยในเบสโน๊ตคุณจะได้กลิ่นของมัสค์ (Musk) และ กลิ่นพลาลีน (Praline) กลิ่นหอมที่นุ่มนวลกระตุ้นความรู้สึกสดใสและสง่างาม กลิ่นหอมกระจายและอยู่ทนหลายชั่วโมงเลย กลิ่นนี้ผู้ชายก็สามารถใช้ได้นะคะ ฉันได้ลองใช้กลิ่นนี้กับอากาศที่ค่อนข้างร้อนของประเทศไทยก็เข้ากันได้ค่ะ”

 



WATCH



 

กลิ่น Wind Flowers ได้บอกเล่าเรื่องราวผ่านมิวส์ของแบรนด์ Lauren Cuthbertson ผู้เป็นนักบัลเล่ต์ชาวอังกฤษและเป็นนักเต้นหลักของ Royal Ballet ในลอนดอนด้วย ช่วยเล่าถึงการร่วมงานกับเธอให้เราฟังหน่อยคะ

“เธอน่ารักมากๆ เราติดต่อเธอไปค่ะ จริงๆ เธอไม่ค่อยทำงานร่วมกับแบรนด์ เพราะอาชีพหลักคือนักเต้น เธอคือแรงบันดาลใจที่สดใหม่เลยค่ะ ส่วนตัวเธอใช้น้ำหอมเพื่อช่วยให้ตัวเองเข้าถึงคาแร็กเตอร์ของบทบาทที่ได้รับ บางครั้งระหว่างการแสดง เธอเปลี่ยนน้ำหอมถึง 6 ครั้งเลยค่ะ เพราะการแสดงบัลเล่ต์นั้นประกอบไปด้วยหลากหลายอารมณ์และซีนต่างๆ เราให้บรีฟกับเธอถึงแรงบันดาลใจและสิ่งที่อยากให้นักเต้นช่วยถ่ายทอดออกมาสำหรับกลิ่นนี้ เธอตื่นเต้นมากๆ ค่ะ ซึ่งเป็นการร่วมงานกันที่ดีมากๆ เลยค่ะ เราขอให้เธอครีเอตทวงท่าที่เหมือนดอกไม้ขณะที่กำลังเคลื่อนไหว หากดูจากวีดิโอแคมเปญจะเห็นว่าท่าของเธอเคลื่อนไหวเหมือนกับกลีบดอกไม้ที่กำลังผลิบาน เธอสุดยอดมากค่ะ เป็นเวิร์กกิ้งวูแมน เป็นคุณแม่ด้วย เรียกว่าเธอเป็นตัวแทนของน้ำหอมกลิ่นนี้เลยค่ะ”

 

 
 
 
 
 
ดูโพสต์นี้บน Instagram
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 

โพสต์ที่แชร์โดย Creed Boutique Fragrances (@creedboutique)

 

กลิ่นในความทรงจำของคุณมีอะไรบ้าง

"คงเป็นกลิ่นน้ำหอมของคุณแม่ฉันเลยค่ะ ตอนนี้เธอจากไปแล้วค่ะ ทุกๆ วันเกิดของเธอฉันจะใช้น้ำหอมกลิ่นโปรดที่เธอเคยใช้ประจำเพื่อให้ตัวเองรู้สึกใกล้ชิดกับแม่อีกครั้งค่ะ นอกจากนี้ยังมีกลิ่นของสวน กลิ่นของอาหารที่ยายทำตอนเด็กๆ ค่ะ กลิ่น After Shave และกลิ่นควันบุหรี่ที่ติดสูทของคุณพ่อเวลาที่เขากลับมาบ้านหลังเลิกงานค่ะ"

 

 Sarah Rotheram CEO แห่งแบรนด์ Creed

 

สำหรับการเปิดตัวในประเทศไทย คุณซาร่าห์ยังได้กล่าวเปิดตัว Wind Flowers ด้วยตัวเองในค่ำคืนสุดพิเศษที่ฉลองให้กับกลิ่นฟลอรัลที่มีความโมเดิร์นสะท้อนตัวตนของผู้หญิงยุคใหม่ที่มีทั้งความสง่างามและแข็งแกร่ง 

 

 
 
 
 
 
ดูโพสต์นี้บน Instagram
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 

โพสต์ที่แชร์โดย Vogue Beauty Thailand (@voguebeautythailand)

 

หนึ่งในเสน่ห์ของน้ำหอมนิชแบรนด์คือการบอกเล่าเรื่องราว ซึ่งการก้าวไปข้างหน้าสำหรับ House of Creed แบรนด์น้ำหอมเก่าแก่จากประเทศฝรั่งเศสที่ก่อตั้งขึ้นในปี ค.ศ. 1760 หมายถึงการฉลองให้กับการเล่าเรื่องราวผ่านกลิ่นน้ำหอมที่ถูกส่งต่อจากรุ่นสู่รุ่น “เราก้าวไปข้างหน้าโดยที่ยังมีเท้าข้างหนึ่งอยู่ในอดีต โดยใช้จุดนี้เป็นแรงบันดาลใจของเรา” คุณซาร่าห์เล่าถึงการเปลี่ยงแปลงที่เธอเห็นตลอดระยะเวลา 20 ปีที่อยู่ในวงการน้ำหอมลักชัวรี่และ 2 ปีที่ร่วมงานกับแบรนด์ Creed “ตอนที่ฉันเริ่มทำงานกลุ่มน้ำหอมนิชยังไม่ค่อยเป็นที่รู้จักเลยค่ะ คนรู้จักน้อยมาก สิ่งที่เปลี่ยนไปคือคนเริ่มหันมารู้จักและชื่นชอบกันมากขึ้น” เธออธิบายเพิ่มเติมว่าแบรนด์ปรับตัวอยู่เสมอและได้เชื่อมโยงการปรุงน้ำหอมเข้ากับนวัตกรรมมากขึ้น ซึ่งสะท้อนถึงความตั้งใจในเรื่องความยั่งยืนด้วยค่ะ เช่นเราจะสร้างสรรค์อย่างไรให้เป็นมิตรต่อโลกมากที่สุด"

 

WATCH