BODY

The Scent of Roses เปิดลิสต์น้ำหอมกลิ่นดอกกุหลาบที่ควรมี! พร้อมเทคนิคฉีดน้ำหอมให้ติดทนตลอดวัน

เปิดลิสต์น้ำหอมแนวกลิ่นกุหลาบ ต้อนรับเทศกาลแห่งความรัก วันวาเลนไทน์ พร้อมวิธีฉีดน้ำหอมให้ติดทนยาวนานยิ่งขึ้น

โดย Sirikanya Dangprasert

15 กุมภาพันธ์ 2567

ต้อนรับเทศกาลและเดือนแห่งความรักในวันวาเลนไทน์ด้วยกลิ่นหอมของดอกไม้ที่เป็นสื่อสัญลักษณ์ตัวเเทนความรักของใครหลายๆ คน อย่างดอกกุหลาบ กลิ่นหอมหวานมีเสน่ห์ที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะ เหมาะสำหรับใครที่เบื่อไอเดียของขวัญอย่างช่อดอกกุหลาบหรือช่อดอกไม้แบบเดิมๆ วันนี้โว้กบิวตี้ขอพามาเปิดลิสต์น้ำหอมแนวกลิ่นดอกกุหลาบที่สามารถนำมาเป็นไอเดียในการเลือกซื้อให้คนที่รักหรือเป็นของขวัญให้ตัวเองในโอกาสพิเศษนี้กัน พร้อมเทคนิคการฉีดน้ำหอมที่ควรเลี่ยง ถ้าอยากให้น้ำหอมติดทนอยู่กับเราตลอดทั้งวัน

1. Rose 31 Eau de Parfum จาก Le Labo ( ราคา 9,000 บาท )

กลิ่นหอมที่โดดเด่นด้วยกลิ่นกุหลาบสายพันธุ์ Centifolia Rose อันเป็นเอกลักษณ์สื่อสะท้อนถึง กลิ่นกุหลาบที่อบอุ่นผสานความเผ็ดร้อน ถือเป็นมิติใหม่ของแนวกลิ่นกุหลาบที่ไร้ข้อจำกัดทางเพศ

2. Rose Prick Eau de Parfum จาก Tom Ford ( ราคา 15,000 บาท )

น้ำหอมที่ได้แรงบันดาลใจของสวนกุหลาบ เป็นน้ำหอมแนวกลิ่นกุหลาบแบบเข้มข้นที่รวมรวบกุหลาบ 3 สายพันธุ์เข้าด้วยกัน ให้ความรู้สึกหอมหวานแบบมีระดับเสมือนเดินอยู่ท่ามกลางทุ่งกุหลาบของทอมฟอร์ด

WATCH

3. Eau de Parfum Lumineuse Chloé for women จาก Chloé ( ราคา 5,900 บาท )

น้ำหอมวีแกนที่ปรุงกลิ่นจากส่วนผสมธรรมชาติ ให้กลิ่นหอมแห่งดอกกุหลาบและแสงแดด เสมือนเดินอยู่ในทุ่งกุหลาบในยามแสงแดดเจิดจ้า สะท้อนความเป็นอิสระและเปล่งประกายของผู้หญิงทุกคน

4. Rose Blush Cologne จาก Jo Malone London ( ราคา 4,550 บาท )

กลิ่นหอมกุหลาบสีชมพูระเรื่อผสานความสดชื่นและชุ่มฉ่ำของลิ้นจี่ช่วยเติมเต็มกลิ่นให้ลงตัว มาพร้อมดีไซน์ดอกกุหลาบพิเศษเฉพาะเทศกาล เป็นน้ำหอมแนวกลิ่นหอมฟลอรัลนุ่มนวลอบอุ่นอีกหนึ่งชิ้นที่ควรค่าแก่การมี

5. Rose des Vents จาก Louis Vuitton ( ราคา 11,300 บาท )

น้ำหอมแนวกลิ่นกุหลาบที่เสมือนได้พาทุกคนเดินทางไปยังทุ่งกุหลาบแห่งเมืองกราสส์ โดดเด่นด้วยน้ำมันสกัดจากดอกกุหลาบเซนติโฟเลียเข้มข้นเป็นกลิ่นหอมที่มีเอกลักษณ์ผสานกับความซาบซ่าของกลิ่นพริกไทย ผสานดอกไอริสและไม้ซีดาร์ออกมาเป็นกลิ่นหอมที่มีความหรูหราและสง่างาม

6. Si Eau de Parfum Intense จาก Giorgio Armani ( ราคา 7,700 บาท )

อีกหนึ่งน้ำหอมแนวกลิ่นกุหลาบที่น่าหลงใหล โดดเด่นด้วยความหวานฉ่ำจากแบล็คเคอร์แรนต์ผสานกลิ่นฟลอรัลจากดอกกุหลาบดามัสก์ พร้อมเพิ่มความละมุนด้วยเบสโน็ตจากวานิลลา เบอร์เบิน, น้ำมันสกัดจากพิมเสน และชาดำ ซึ่งถือเป็นการผสมผสานกันออกมาได้อย่างลงตัว

5 พฤติกรรมที่ไม่ควรทำ ถ้าอยากให้น้ำหอมติดทนนานตลอดวัน

1. ฉีดน้ำหอมลงบนเสื้อผ้า จะทำให้เสี่ยงต่อการที่เสื้อผ้าเป็นคราบจากน้ำมันในน้ำหอม การฉีดลงบนผิวโดยตรงจะทำให้กลิ่นติดทนกว่า

2. ฉีดแล้วขยี้หรือถูน้ำหอม นอกจากจะทำให้กลิ่นหอมบางเบาลง ยังทำให้กลิ่นติดไม่ทนระหว่างวันอีกด้วย

3. ฉีดน้ำหอมในปริมาณที่มากเกินไป อาจจะทำให้กลิ่นเพี้ยนหรือฉุนมากจนเกินไป ปริมาณที่เหมาะสมคือ 1-3 สเปรย์ต่อการฉีด 1 ครั้ง

4. ฉีดน้ำหอมเพื่อกลบกลิ่นตัว อาจทำให้กลิ่นผิดเพี้ยนหรือแย่กว่าเดิม ควรเตรียมผิวให้สะอาดก่อนการฉีด

5. ฉีดน้ำหอมในตอนที่ผิวแห้ง อาจทำให้กลิ่นหอมจางเร็ว ควรฉีดขณะที่ผิวยังมีความชุ่มชื้นอยู่จะช่วยทำให้กลิ่นหอมติดทนนานยิ่งขึ้น

ภาพ : Courtesy of the brands