TREATMENTS

ทำความรู้จักกับการ ‘ดริปวิตามินผิว’ ว่ามีประโยชน์อย่างไร และช่วยให้ขาวใสได้จริงหรือไม่

แชร์ข้อมูลที่ควรรู้ก่อนการตัดสินใจ ‘ดริปวิตามิน’ หรือ ‘ฉีดวิตามินเข้าผิว’ หนึ่งในเทคนิคเสริมความงามที่กำลังได้รับความนิยมขั้นสุดในขณะนี้

     เรียกได้ว่าเป็นอีกหนึ่งเทคนิคเสริมความงามที่ได้รับความนิยมเป็นอย่างมากในขณะนี้ไม่แพ้การฉีดโบท็อกซ์ หรือการเลเซอร์ผิว กับเทคนิค ‘ดริปวิตามิน’ หรือ ‘ฉีดวิตามินเข้าสู่ผิว’ ที่ทางคลินิกได้เคลมไว้ว่าเป็นวิธีการดูแลผิวจากภายใน ตอบโจทย์สำหรับคนที่ขี้เกียจรับประทานวิตามินแบบเม็ดและเห็นผลมากกว่า สำหรับใครที่กำลังมีความสนใจในการดริปวิตามินผิวแต่ยังไม่ทราบข้อมูลที่แน่ชัด วันนี้โว้กบิวตี้ได้รวบรวมข้อมูลที่เกี่ยวกับการดริปวิตามินผิวเพื่อเป็นตัวช่วยในการตัดสินใจก่อนลงมือทำจริงมาฝากกัน 

 

 

 

ดริปวิตามินคืออะไร

     ฉีดวิตามินผิว (Intravenous Vitamin therapy หรือ IV Drip) หรือ ‘ดริปวิตามิน’ เป็นวิธีการให้วิตามินหรืออาหารเสริมผ่านทางสายน้ำเกลือที่เข้าสู่ทางหลอดเลือดดำไปยังเซลล์โดยตรงแบบไม่ผ่านตับ ซึ่งร่างกายจะได้รับวิตามิน 100% ตามที่ได้รับผ่านสายน้ำเกลือ โดยจะแตกต่างจากการรับประทานที่ร่างกายจะดูดซึมได้เพียงส่วนหนึ่งเท่านั้น

 

ดริปวิตามินมีประโยชน์อย่างไร

     ประโยชน์ที่จะได้จากการดริปวิตามินนั้นขึ้นอยู่กับสูตรของวิตามินหรืออาหารเสริมที่ดริปเข้าผิวด้วย โดยหลักๆ สูตรที่นิยมใช้จะเป็นสูตรที่ช่วยให้ผิวกระจ่างใส ซึ่งจะมีส่วนช่วยปรับสภาพผิวให้ดูเปล่งปลั่ง สดใสขึ้น นอกจากนี้ยังช่วยเพิ่มระดับการต้านสารอนุมูลอิสระ และเสริมคอลลาเจนเพื่อให้ผิวสุขภาพแข็งแรงขึ้น หรือจะเป็นสูตรอื่นๆ เช่น การช่วยดีท็อกซ์ผิวจะเหมาะกับผิวที่เผชิญมลภาวะ หมองคล้ำ ช่วยเสริมภูมิคุ้มกันให้ผิวดูแข็งแรง และนอกจากเรื่องของการดูแลปัญหาผิวแล้ว ยังมีสูตรที่ช่วยเพิ่มระดับวิตามินในร่างกายด้วย เช่น วิตามินบี วิตามินซี เป็นต้น

 

 

ดริปวิตามินเหมาะหรือไม่เหมาะกับใคร

เหมาะกับใครบ้าง

  • ผู้ที่ต้องการเปลี่ยนแปลงสภาพผิวให้ดูกระจ่างใสและแข็งแรงขึ้น (ผลลัพธ์ขึ้นอยู่กับแต่ละบุคคล)
  • ผู้ที่ไม่มีเวลาดูแลตัวเองด้วยการรับประทานวิตามินหรืออาหารเสริม
  • ผู้ที่อยากดูแลผิวควบคู่ไปกับการรับประทานวิตามิน หรืออาหารเสริมตัวอื่นๆ เพื่ออยากให้เห็นประสิทธิภาพมากขึ้น
  • ผู้ที่ร่างกายขาดวิตามิน
  • ผู้ที่ต้องการเสริมภูมิคุ้มกันให้ร่างกายทำงานได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ

 

ไม่เหมาะกับใครบ้าง

     การดริปวิตามินเป็นวิธีการเพิ่มวิตามินเข้าสู่ร่างกายโดยตรง ดังนั้นแม้ว่าจะเต็มไปด้วยข้อดี แต่ก็มีข้อเสียด้วยเช่นเดียวกัน โดยผู้ที่ได้รับวิตามินแล้วกลายเป็นข้อเสีย ส่วนใหญ่แล้วจะเป็นผู้ที่มีโรคประจำตัว รวมถึงมีข้อจำกัดบางอย่างในการรับวิตามิน จึงแนะนำให้ปรึกษาแพทย์ก่อนเข้ารับบริการ โดยผู้ที่ไม่เหมาะกับการดริปวิตามิน เช่น

  • หญิงตั้งครรภ์หรือกำลังให้นมบุตร
  • ผู้ป่วยโรคเกี่ยวกับภูมิคุ้มกัน
  • โรคความดันโลหิตสูง
  • ผู้ป่วยโรคหัวใจ
  • ผู้ป่วยโรคตับ
  • ผู้ป่วยโรคไต
  • ผู้ป่วยที่มีภาวะวิตามินหรือแร่ธาตุเกิน

 

ดริปวิตามินกี่ครั้งถึงเห็นผล

     การดริปวิตามินส่วนใหญ่จะเริ่มเห็นผลชัดเจนตั้งแต่ครั้งที่ 3-5 ขึ้นไป โดยผลลัพธ์ขึ้นอยู่แต่ละบุคคล แนะนำให้ทำเป็นประจำอย่างต่อเนื่องเพื่อผลลัพธ์ที่ชัดเจน 

 

ดริปวิตามินอันตรายไหม

     หากเข้ารับบริการกับทางคลินิกที่ได้มาตรฐานและปรึกษากับแพทย์ผู้เชี่ยวชาญก่อนรับการบริการ อันตรายที่เกิดจากการดริปวิตามินเกิดขึ้นได้น้อยมาก แต่กรณีที่การดริปวิตามินจะเป็นอันตรายต่อร่างกาย สามารถเกิดได้จากหลายสาเหตุ ไม่ว่าจะเป็นการเลือกใช้บริการสถานพยาบาลที่ไม่ได้มาตรฐาน ใช้วิตามินที่ไม่ถูกหลักอนามัย รวมถึงการฉีดวิตามินที่เกินขนาด และติดต่อกันเป็นระยะเวลานาน ซึ่งจะทำให้ร่างกายได้รับวิตามินที่มากเกินความจำเป็น ซึ่งส่งผลเสียและอันตรายต่อร่างกายได้มากทีเดียว 

 



WATCH



 

ถ้าหากหยุดดริปวิตามิน ผิวจะกลับมาคล้ำไหม

     ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับวิธีการดูแลผิวหลังเลิกดริปวิตามิน หากดูแลผิวด้วยการใช้ครีมบำรุง ครีมกันแดด และบำรุงผิวด้วยวิตามินหรืออาหารเสริมเป็นประจำผิวจะไม่กลับมาคล้ำเสีย แต่ถ้าหากไม่มีการดูแลผิวหลังการเลิกดริปก็มีส่วนทำให้ผิวกลับมาหมองคล้ำได้

 

ขั้นตอนการดูแลก่อนและหลังดริปวิตามิน

ก่อนรับบริการ

  • ชั่งน้ำหนัก วัดส่วนสูงและวัดความดันก่อนเข้ารับบริการ 
  • เข้ารับการปรึกษา ซักประวัติกับแพทย์เพื่อแจ้งโรคประจำตัว อาหารเสริม วิตามินที่รับประทานอยู่ และเลือกสูตรวิตามินที่ตอบโจทย์กับสภาพผิว

 

หลังรับบริการ

  • หลีกเลี่ยงการเผชิญแสงแดดจัด หากมีความจำเป็นต้องสัมผัสกับแสงแดดโดยตรง แนะนำให้ทาครีมกันแดดที่มีค่าการป้องกันผิวด้วย SPF 50+ PA++++ ขึ้นไป
  • บำรุงผิวด้วยครีมบำรุงผิวและหมั่นทาครีมกันแดดเป็นประจำ
  • รับประทานอาหารให้ครบ 5 หมู่ พร้อมเสริมด้วยวิตามินหรืออาเสริมที่ช่วยบำรุงผิว
  • ดื่มน้ำให้เพียงพอในแต่ละวัน
  • ออกกำลังกายเพื่อให้ร่างกายเผาผลาญและช่วยให้เลือดสูบฉีดเลือดได้ดี จะช่วยให้ร่างกายทำงานได้ดีและมีส่วนช่วยให้ ผิวพรรณจะเปล่งประกายยิ่งขึ้น

 

     สำหรับใครที่กำลังมีความสนใจในการฉีดวิตามินผิว แนะนำให้ศึกษาข้อมูลเพิ่มเติม รวมถึงเข้ารับการปรึกษาจากแพทย์ผู้เชี่ยวชาญและสถานพยาบาลที่ได้มาตรฐาน มีความน่าเชื่อถือเพื่อปรึกษาถึงปัญหาผิว รวมถึงเช็กก่อนว่าสามารถรับบริการได้หรือไม่ เพื่อไม่ให้เกิดอันตรายขึ้นกับร่างกายและได้ผลลัพธ์ที่ตรงความต้องการมากที่สุด 

 

ภาพ : Canva

WATCH

TAGS : VitaminDrip