TREATMENTS

รวม 5 ทรีตเมนต์รักษาสิวแต่ละประเภท ลดปัญหาการเกิดสิว ปรับสภาพผิวให้เรียบเนียนขึ้น

หนึ่งทางเลือกที่จะช่วยบอกลาปัญหาสิวต่างๆ ผลัดเซลล์ผิวอย่างอ่อนโยน และเพิ่มความกระจ่างใสให้ใบหน้าดูไบรต์ขึ้น

     “สิว” คือปัญหาผิวที่กวนใจ ซึ่งเกิดขึ้นเนื่องจากหลายปัจจัยทั้งภายนอกและภายใน ไม่ว่าจะเป็นฮอร์โมน อาหารการกิน สภาพอากาศ หรือมลภาวะ นอกจากการบำรุงรักษาด้วยสกินแคร์ที่ถูกต้องและการรับประทานอาหารที่เป็นประโยชน์แล้ว ยังมีอีกหนึ่งทางเลือกที่ช่วยเสริมให้การรักษาสิวหายไวและมีประสิทธิภาพมากขึ้นคือ นวัตกรรมการทำทรีตเมนต์หน้า ซึ่งแต่ละชนิดก็ตอบโจทย์กับสิวแต่ละประเภทไม่เหมือนกัน โว้กบิวตี้พามาทำความรู้จัก 5 ทรีตเมนต์รักษาสิวที่หลายคนไม่ควรพลาด

 

 

สิวผดเล็กๆ

นวัตกรรมที่แนะนำ : Homeopathy (The Face Aesthetic)

รายละเอียดของนวัตกรรม : การฉีดวิตามินหรือสารสกัดไปตามจุดฝังเข็ม 16 จุด หลายๆ ที่มักจะใช้ MADE Collagen หรือ  C-Cell ซึ่งเป็นสารสกัดจากพืชมากกว่า 50 ชนิด (บางที่เรียกว่าคอลลาเจนจากพืช) เพื่อลดสิวผดและปัญหาผิวแห้งไปในตัว ช่วยขจัดของเสียที่ตกค้าง กระตุ้นการไหลเวียน และปรับสมดุลของผิว มีสูตรแบบผสมพลาเซนตาช่วยให้ผิวชุ่มชื้นและฟื้นการบำรุงผิวด้วย

ผลลัพธ์ที่ได้ : เริ่มเห็นผลลัพธ์หลังจากทำไปสัก 2-3 วัน

 



WATCH



 

สิวอักเสบ

นวัตกรรมที่แนะนำ : I-Clear (Apex Profound Beauty Center)

รายละเอียดของนวัตกรรม : การรักษาสิวโดยใช้พลังงานแสงสีน้ำเงินที่ปลอดภัยต่อผิว ลดการอักเสบของสิวได้มากกว่า 70% มีพลังงานในการลดแบคทีเรีย P.acnes จะเข้าไปทำลายวงจรการเกิดสิวและช่วยลดการขับน้ำมันของต่อมไขมัน ใช้เวลาเพียงครึ่งชั่วโมงต่อครั้ง โดยต้องให้แพทย์วิเคราะห์จำนวนครั้งในการรักษาต่อไปขึ้นอยู่กับปริมาณของสิว

ผลลัพธ์ที่ได้ : สิวหายเร็วขึ้น ลดอาการอักเสบ ไม่มีแผลเป็นตามมา สำหรับคนไข้ที่มีสิวหนักมากควรทำสัปดาห์ละ 3 ครั้งจะเห็นผลเร็วขึ้น

 

 

สิวเรื้อรัง ปัญหาหลุมสิวลึก

นวัตกรรมที่แนะนำ : Arctic Peel (Dermaster)

รายละเอียดของนวัตกรรม : เป็นการรักษาหลุมสิวด้วยการใช้ MicroLaserPeel หรือเลเซอร์ลำแสงขนาดเล็ก ซึ่งมีความแม่นยำสูง สามารถปรับระดับความลึกตื้นได้ตามความต้องการของแต่ละสภาพผิว หลักการทำงานคือการลอกผิวหน้าชั้นบนโดยทำให้ผิวระคายเคืองในระดับต่ำที่สุด เพื่อกระตุ้นให้มีการสร้างคอลลาเจนและการผลัดเซลล์ผิวเก่าอย่างล้ำลึกแต่อ่อนโยน จัดการกับปัญหาสีผิวไม่สม่ำเสมอ รอยแดง รอยดำจากสิว และหลุมสิว

ผลลัพธ์ที่ได้ : หลังทำเสร็จผิวอาจแดง ขึ้นอยู่กับระดับการใช้พลังงานของแพทย์ อาจมีเลือดออกตามหลุมสิวลึกๆ เล็กน้อย ควรหลีกเลี่ยงแดดประมาณ 1 สัปดาห์ และอาจมีอาการผิวลอก แต่หลังจากนั้นจะเห็นได้ว่าผิวดูตื้นและเรียบเนียนขึ้น ทั้งยังช่วยให้รูขุมขนเล็กลง ผิวจึงดูละเอียดกระจ่างใส ผลลัพธ์นี้จะคงอยู่ต่อเนื่องถึง 6 เดือน

 

 

สิวดื้อยา สิวที่เกิดจากการแพ้เครื่องสำอาง

นวัตกรรมที่แนะนำ : Acne Light Therapy (Bangkok Skin & Laser Clinic)

รายละเอียดของนวัตกรรม : การรักษาสิวด้วยแสงสีแดงความยาวคลื่นที่ 633 นาโนเมตร ซึ่งเป็นคลื่นที่สามารถต้านเชื้อแบคทีเรีย P.acnes ลดการอักเสบของสิวและความมันของผิวหน้าได้เป็นอย่างดี อีกทั้งยังช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจน ช่วยให้เซลล์ผิวรักษาตัวเอง แสงสีแดงจึงเหมาะกับการรักษาสิวที่มีแผลเป็น หรือสิวที่เป็นมานานเรื้อรัง สิวดื้อยาเมื่อรักษาอย่างสม่ำเสมอ นอกจากปัญหาสิวดีขึ้นแล้วยังช่วยฟื้นฟูให้ผิวแข็งแรงอีกด้วย

ผลลัพธ์ที่ได้ : สิวอุดตันจะลดลง แต่อาจหลงเหลือรอยแดงอยู่บ้าง ความมันของผิวลดลงจึงทำให้ผิวแข็งแรงขึ้น ทั้งนี้อาจต้องกินยารักษาสิวควบคู่กันไปด้วย

 

     

     วิธีรักษาสิวอาจไม่ใช่แค่เรื่องการใช้ยาหรือสกินแคร์แต่เพียงอย่างเดียว หากยังต้องเสริมด้วยนวัตกรรมใหม่ๆ ที่แนะนำไปข้างต้นก็จะช่วยให้การรักษาสิวเกิดประสิทธิภาพและเห็นผลได้เร็วยิ่งขึ้น

 

 

WATCH

คีย์เวิร์ด: #TreatmentForAcne