REVIEW

ครีเอทกลิ่นหอมในงานแต่งงานไปกับ Beauty Project Associate Editor ของเรา #VOGUEvoices

Beauty Project Associate Editor ของเราพาคุณไปรู้จักการครีเอทกลิ่นหอมในงานแต่งงานไปกับ Jo Malone ที่คุณอาจไม่เคยรู้มาก่อน #ScentYourWedding

แต่งงานทั้งทีสาวๆ ก็คงอยากให้วันแต่งงานของตัวเองเป็นวันที่พิเศษที่สุด ตั้งแต่สถานที่จัดงาน สีของดอกไม้ ธีมงาน ไปจนถึงชุดแต่งงานที่เจ้าสาวทุกคนใฝ่ฝันถึง ในวันที่ตัวเองรู้ว่าต้องแต่งงานนั้น มีหลากหลายความคิดที่ถาโถมเข้ามาอย่างไม่หยุดหย่อน ยิ่งคิดก็ยิ่งเยอะ รายละเอียดในงานต่างๆ ช่างมากเหลือเกิน แต่หนึ่งสิ่งที่เราใฝ่ฝันและอยากได้มาตลอดคืออยากได้งานแต่งงานที่อยู่ในสวน อยากให้บรรยากาศในงานค่อนข้างอบอุ่นและสบายๆ เหมือนไม่ได้อยู่เมืองไทย และต้องการงานแต่งงานที่เล็กและเป็นกันเอง 

 

ด้วยความที่ตัวเองทำงานอยู่ในวงการบิวตี้และค่อนข้างคลั่งน้ำหอมอยู่มาก อีกหนึ่งโจทย์สำคัญคือเรื่องของ ‘กลิ่น’ ในงาน เพราะรู้สึกว่า สถานที่จะสวยมากแค่ไหน ดอกไม้จะดูดีอย่างไร แต่อารมณ์ของแขกที่มาร่วมงานและตัวเราเองคงสุข ‘ไม่สุด’ กลิ่นที่หอมนอกจากจะช่วยให้บรรยากาศในงานโรแมนติกสมกับเป็นงานแต่งงานในสวนแล้ว กลิ่นที่เราเลือกยังช่วยแสดงตัวตนและคาแรคเตอร์ของงานและคู่บ่าวสาวได้เป็นอย่างดีอีกด้วย

เนื่องจากตัวเองเป็นแฟนของน้ำหอม Jo Malone มายาวนาน เรียกได้ว่าน้ำหอม 80% ที่ใช้และมีนั้น ล้วนแต่เป็น Jo Malone ทั้งนั้น นี่จึงเป็นแบรนด์แรกที่เราคิดถึงตอนอยากหาเทียนหอมมาใช้ในงาน พอได้หาข้อมูลซักพักก็ได้รู้ว่าทางแบรนด์มีบริการ Scent Your Wedding ซึ่งตอบโจทย์เจ้าสาวอย่างเรามากๆ

 พอเราไปถึงเคาน์เตอร์ ทางแบรนด์ก็จะเริ่มต้นถามจากความชอบและคาแรคเตอร์ของเรา ว่าชอบน้ำหอมกลิ่นประมาณไหน อยากได้กลิ่นสไตล์ใด และแน่นอนว่า Jo Malone จะต้องเริ่มต้นจากการหาการผสมกันของกลิ่นให้เข้ากับคู่บ่าวสาวที่สุด โดยการเลเยอร์หรือผสมกลิ่นนั้น ควรเริ่มต้นตั้งแต่การบำรุงผิวเลยทีเดียว ไล่มาตั้งแต่การสครับผิวด้วยสครับ นวดผิวด้วยครีม ปิดท้ายด้วยการฉีดน้ำหอม Cologne การทำแบบนี้จะทำให้ได้กลิ่นที่ติดทนนาน เหมาะกับเจ้าสาวและเจ้าบ่าวที่อยากตัวหอมตลอดทั้งงาน 



WATCH



ส่วนตัวแล้ว ในวันงานเลือกที่จะทา English Pear & Freesia Body Creme กลิ่นประจำตัวที่ใช้ทุกวันเพื่อบำรุงผิวก่อน จากนั้นฉีดน้ำหอม English Pear & Freesia Cologne ทับและเลเยอร์เข้ากับ Wood Sage & Sea Salt Cologne เป็นการปิดท้าย เพิ่มความสดชื่น และช่วยตัดให้กลิ่นไม่หวานจนเกินไป รู้สึกเป็นตัวเองที่สุด 

นอกจากนี้ยังเลือกใช้เทียนหอมของ Jo Malone ในกลิ่น English Pear & Freesia อีกเช่นกัน จุดพร้อมกับเทียนหอมกลิ่น Orange Blossom เพิ่มความสดชื่นให้การงานที่ค่อนข้างจะร้อนอบอ้าวในเมืองไทยได้ดี และเนื่องจากตัวเทียนหอมของทางแบรนด์นั้นมาในแพคเกจจิ้งเรียบหรู จึงถือเป็นอีกหนึ่งสิ่งตกแต่งในงานที่ทำให้บรรยากาศรวมในงานดูเต็มขึ้นอีกด้วย เป็นอีกหนึ่งความประทับใจที่คงจำไปอีกนาน

WATCH