SKINCARE
7 เหตุผลที่ทำไมเราถึงควรเพิ่มสกินแคร์ที่มีส่วนผสมของ Ceramides เข้าไปในรูทีนพารู้จักสรรพคุณและประโยชน์ของ เซราไมด์ หนึ่งในส่วนผสมให้ความชุ่มชื้นยอดฮิต |
ถ้าถามว่าอยากเสริมความแข็งแรงให้กับผิวหน้า ควรเริ่มอย่างไรดี? ก็ต้องแนะนำว่าเริ่มที่การเติมความชุ่มชื้นเป็นลำดับแรก เพราะเป็นไปได้ว่าผิวหน้าที่ดูอิดโรยและอ่อนแอแพ้ง่ายของสาวๆ ในช่วงนี้อาจเผชิญกับอาการขาดน้ำอยู่ก็เป็นได้ โดยตามหลักแล้วผิวหนังของคนเรามีความชุ่มชื้นตามธรรมชาติอยู่แล้ว ซึ่งก็ต้องขอขอบคุณสารจำพวกไขมันอย่าง เซราไมด์ (Ceramide) ซึ่งพบได้ในชั้นหนังกำพร้านอก โดยมีบทบาทสำคัญในการปกป้องเซลล์ของเราจากสิ่งสกปรกภายนอกและช่วยลดการสูญเสียน้ำในผิว
ภายใต้ผิวหนังของเรามีเซราไมด์อยู่แล้วตามธรรมชาติ อย่างไรก็ตามเมื่อเวลาผ่านไป ปัจจัยอย่างอายุที่เพิ่มก็มีส่วนทำให้ปริมาณของเซราไมด์ในผิวลดลง เป็นต้นเหตุของหลากหลายปัญหาผิว อย่างเช่น ความหย่อนคล้อยและริ้วรอยก่อนวัยเป็นต้น ซึ่งหากอยากมีผิวหน้าที่สุขภาพดีเฟิร์มกระชับล่ะก็ เรื่องแรกที่สาวๆ ควรให้ความสำคัญก็คือเรื่องของการเติมความชุ่มชื้น ซึ่งผิวที่อิ่มน้ำสามารถมาจากการมั่นดื่มน้ำระหว่างวันและทำควบคู่ไปกับการทานผักผลไม้ และการใช้สกินแคร์ที่เหมาะกับสภาพผิว โดยเมื่อพูดถึงส่วนผสมในสกินแคร์ที่ขึ้นชื่อเรื่องการเติมความชุ่มชื้นให้กับผิว เซราไมด์ (Ceramides) ก็เป็นอีกหนึ่งส่วนผสมที่กำลังได้รับความนิยม วันนี้ทีมบิวตี้เลยนำความรู้เล็กๆ น้อยๆ และประโยชน์ของ เซราไมด์ มาฝากกัน
เซราไมด์คืออะไร?
เซราไมด์จะพบได้ในบริเวณผิวหนังชั้นนอกสุดที่เรียกว่า Stratum Corneum ซึ่งเป็นผิวหนังชั้นบนสุดของหนังกำพร้า โดยให้นึกภาพตามว่า เซลล์ต่างๆ ในร่างกายของเราจะเปรียบเสมือนก้อนอิฐที่เรียงทับกับเป็นกำแพงอิฐ และเซราไมด์ ซึ่งเป็นสารจำพวกไขมันหรือที่เรียกว่าไลปิด (lipid) จะทำหน้าที่เป็นเหมือนตัวเชื่อมอิฐเหล่านั้นให้แข็งแรง เพราะถ้าไม่มีเซราไมด์อยู่กำแพงอิฐนี้ก็จะมีช่องว่างและไม่แข็งแรง นี่จึงเป็นที่มาของการให้ความสำคัญในการใช้่สกินแคร์ที่มีส่วนผสมของเซราไมด์ในการช่วยเติมความชุ่มชื้นให้แก่ผิวของเรา
7 เหตุผลที่ทำไมเราถึงควรเริ่มมองหาสกินแคร์ที่มีส่วนผสมของเซราไมด์
- ช่วยคืนความแข็งแรงให้เกราะป้องกันผิว
เซราไมด์ภายในผิวหนังของเรามีบทบาทสำคัญ ที่ทำหน้าที่เป็นเกราะป้องกันของร่างกายและเซลล์ต่างๆ ของเราจากสิ่่งแปลกปลอมภายนอก โดยเมื่อเวลาผ่านไปเซราไมด์ที่เกิดขึ้นตามธรรมชาติในตัวเราสามารถลดลงได้ อันเนื่องจากปัจจัยต่างๆ อย่างเช่นอายุที่เพิ่มขึ้น หรือการเผชิญแสงแดดและมลภาวะในแต่ละวัน ซึ่งเมื่อผิวของเราขาดเซราไมด์ก็ก่อให้เกิดอาการผิวแห้ง อ่อนแอ และตามมาด้วยริ้วรอยและจุดด่างดำต่างๆ การใช้สกินแคร์ที่มีส่วนผสมของเซราไมด์จะเข้าไปช่วยซ่อมแซมและเติมเต็มความชุ่มชื้นให้แก่ผิวของเรา ทำให้เกราะป้องกันผิวของเราแข็งแรงขึ้น
- ช่วยล็อคความชุ่มชื้น
การใช้เซราไมด์จะช่วยให้ผิวแข็งแรงขึ้น โดยเมื่อผิวมีสุขภาพที่ดีก็จะกักเก็บความชุ่มชื้นไว้ได้ดีขึ้น
- ช่วยปกป้องผิวให้แข็งแรง
นอกจากในเรื่องการให้ความชุ่มชื้นแล้ว เซราไมด์ยังช่วยปกป้องผิวให้แข็งแรง โดยจะช่วยปกป้องผิวจากฝุ่นควัน มลภาวะ และสิ่งสกปรกที่เราพบเจอในแต่ละวัน
- ช่วยให้ผิวทนต่อสารออกฤทธิ์ (active ingerdient) จากสกินแคร์ทีใช้ได้ดีขึ้น
สกินแคร์บางตัวที่เราใช้อาจจะมีสารเคมีหรือสารออกฤทธิ์ที่ค่อนข้างแรง เซราไมด์จะช่วยปกป้องผิวของเราไม่ให้แพ้ง่ายจากสารเคมีที่อาจจะระคายเคืองง่าย
Cosrx Honey Ceramide Full Moisture Cream
- ช่วยชะลอริ้วรอยแห่งวัย
นอกการสูญเสียคอลลาเจนในชั้นผิวจะเป็นต้นเหตุของผิวหย่อนคล้อยแล้ว ริ้วรอยก่อนวัยสามารถเกิดได้จากการที่ชั้นผิวของเราอ่อนแออีกด้วย ซึ่งเซราไมด์ก็จะเป็นส่วนผสมที่สามารถช่วยเสริมความแข็งแรงให้แก่ผิว
- ช่วยลดอาการอักเสบ (inflammatory)
เมื่อผิวหนังกำพร้าชั้นนอก (Stratum Corneum) อ่อนแอ ผิวของเราก็จะไม่สามารถทำหน้าที่ในการฟื้นฟูตัวเองได้อย่างเต็มที่ ซึ่งเป็นที่มาของผิวแห้งและขาดน้ำ โดยอาการเหล่านี้ก็มักจะนำไปสู่การอักเสบของผิวต่างๆ อย่างเช่นรอยแดงและสิว เป็นต้น
- ช่วยให้ผิวนุ่ม ชุ่มชื้น
ริ้วรอย สิว และผิวที่ลอกเป็นขุ่ยเกิดจากการที่ผิวของเราขาดน้ำ การช่วยผิวเติมเซราไมด์หรือไลปิดในชั้นผิวที่หายไป จะช่วยเพิ่มความชุ่มชื้นให้แก่ผิว ซึ่งจะส่งผลให้สุขภาพผิวโดยรวมดูดีขึ้นและแน่นอนว่านุ่มชุ่มชื้น
WATCH
Dr. Jart+ Ceramides Liquid
Skininc Ceramides Serum
WATCH