ในปัจจุบันส่วนผสมในสกินแคร์มีให้เลือกสรรมากมายตามความต้องการของปัญหาผิวแต่ละคน เช่น หากใครมีปัญหาหน้าหมองคล้ำ ดูไม่กระจ่างใสก็ควรเลือกสกินแคร์ที่มีส่วนผสมของ Alpha Hydroxy Acid (AHA), Glycolic Acid หรือ Salicylic Acid ที่จะช่วยผลัดเซลล์ผิวเก่า กระตุ้นการสร้างคอลลาเจนที่ใต้ชั้นผิวหนัง พร้อมปรับสีผิวให้ดูสม่ำเสมอ เป็นต้น เช่นเดียวกันกับสกินแคร์สายเกาหรือ K-Beauty ที่โด่งดังในเรื่องของการใช้ส่วนผสมจากธรรมชาติเป็นหลัก มาอัพเดตกันว่าตอนนี้สายเกาเขานิยมนำส่วนผสมอะไรมาใช้ในสกินแคร์บ้าง?

1. Water

สกินแคร์ที่ขึ้นชื่อว่ามีน้ำเป็นเบส แน่นอนว่าย่อมให้ความชุ่มชื้นกับผิวค่อนข้างสูง เป็นส่วนผสมที่เหมาะสำหรับอากาศเมืองไทย เพราะมีเนื้อสัมผัสเบา อ่อนโยน สามารถซึมซาบเข้าสู่ผิวได้รวดเร็ว และไม่เหนียวเหนอะอยู่บนผิวที่เป็นสาเหตุของการเกิดสิวอุดตัน ฝ้า กระ สามารถบำรุงได้อย่างล้ำลึกกว่าสกินแคร์ที่มีน้ำมันเป็นเบส แถมยังเหมาะสำหรับผู้ที่มีผิวบอบบางและแพ้ง่าย เพราะสกินแคร์ชนิดนี้จะมีน้ำเป็นส่วนประกอบหลักมากกว่าน้ำมัน จึงยากที่จะเกิดอาการแพ้

1 / 2

2 / 2

2. Floral

ในปัจจุบันส่วนประกอบจากดอกไม้นานาชนิดถูกดึงมาใช้เป็นส่วนผสมในสกินแคร์มากมาย ไม่ว่าจะเป็นส่วนของดอก ราก หรือแม้กระทั่งน้ำมันสกัดบริสุทธิ์ที่ได้จากดอกไม้ก็ล้วนให้ประโยชน์ต่อผิวโดยตรง เพราะเป็นสารสกัดที่ได้จากธรรมชาติ ไม่ใช่สารเคมี เช่น สารสกัดที่ได้จากดอกกุหลาบมีคุณสมบัติที่ช่วยเพิ่มความชุ่มชื้นให้รูขุมขนดูกระชับขึ้น สารสกัดที่ได้จากดอกมะลิมีคุณสมบัติปรับผิวให้ดูเรียบเนียน เปล่งปลั่งขึ้น เป็นต้น

1 / 2

2 / 2

3. Seeds

สกินแคร์ที่ได้สารสกัดจากเมล็ดพันธุ์พืชก็เป็นอีกหนึ่งส่วนผสมที่นิยมใช้ เพราะมีความเข้มข้นค่อนข้างสูง จึงเป็นอาหารผิวที่ให้ประโยชน์มากมาย เช่น สารสกัดที่ได้จากเมล็ดเกาลัด (Chestnut Seed Extract) มีคุณสมบัติช่วยผลัดเซลล์ผิวให้เรียบเนียน เผยผิวดูกระจ่างใส หรือ สารสกัดจากเมล็ดอัลมอนด์ที่ช่วยในเรื่องของความชุ่มชื้น ลดการระคายเคืองจากปัญหาผิวต่างๆ แถมช่วยลดรอยจุดด่างดำจากสิวด้วย

1 / 2

2 / 2