เมื่อพูดถึงศิลปะที่สะท้อนตัวตนได้ดีที่สุดคงต้องยกให้ ‘ลายสัก’ หนึ่งในประเภทของงานศิลปะที่ไม่ได้วาดลงบนกระดาษสีขาว หรือผืนผ้าใบแผ่นกว้าง แต่เป็นการฝังหมึกสีสวยและลวดลายสะดุดตาลงบนผิวหนังของเราเอง ซึ่งลายสักนั้นมีประวัติความเป็นมาอย่างยาวนานมากกว่า 2,000 ปี ผ่านหลักฐานทางประวัติศาสตร์ต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นเครื่องเคลือบดินเผาของจีนที่มีร่องรอยของมนุษย์ที่มีลายสักจารึกไว้ รวมไปถึงร่างมัมมี่อายุกว่า 3,000 ปี ที่มีลายสักซึ่งถูกค้นพบในอียิปต์ จนต่อมาการสักนั้นเริ่มได้รับความนิยมในกลุ่มคนต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นศิลปิน เจ้าขุนมูลนายรวมไปถึงเหล่านักโทษ จนเมื่อเวลาผ่านมาความนิยมในรอยสักนั้นกว้างขวางมากยิ่งขึ้น มีการพัฒนาลวดลายให้มีความน่าสนใจและดุดันน้อยลง จนกลายมาเป็นลวดลายต่างๆ ที่เราเห็นในปัจจุบันนี้

 โดยหนึ่งในลายสักที่มีคนนิยมมากที่สุดคือ ‘ลายสักดอกไม้’ ลายสักสุดมินิมัล ที่เต็มไปด้วยสีสันของดอกไม้นานาพันธุ์รอให้เราเลือกสรร สำหรับหลายๆ คนลายสักประเภทนี้นับได้ว่าเป็นลายแรกที่เรามักจะเลือกขึ้นมาสัก โว้กบิวตี้เลยจะพาทุกคนไปรู้จักกับ 12 ไอเดียลายสักดอกไม้ที่มีความหมายดี เหมาะกับการเป็นลายสักแรกของทุกๆ คน

• ดอกกุหลาบ

‘ดอกกุหลาบ’ ถือเป็นดอกไม้สุดคลาสสิกที่ถูกนำมาสร้างสรรค์เป็นลายสักดอกไม้ที่ได้รับความนิยมเป็นอันดับต้นๆ ไม่ว่าจะเป็นการสักแบบดอกเดียว แบบช่อ หรือการนำเอาชิ้นส่วนของดอกกุหลาบไปผสมผสานเข้ากับความชื่นชอบอื่นๆ จนเกิดเป็นลายสักที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว ซึ่งดอกกุหลาบนั้นเป็นที่รู้กันดีว่าเป็นสัญลักษณ์แห่งความรักอันโรแมนติก ตัวแทนแห่งความรัก และในขณะเดียวกันดอกกุหลาบยังแสดงถึงความสง่างามด้วย ซึ่งความหมายแฝงของดอกกุกลาบนั้น มักถูกแบ่งไปตามเฉดสีที่เลือกใช้เช่น สีเหลือง ให้ความหมายถึงมิตรภาพ ความสัมพันธ์และการเริ่มต้นใหม่, สีขาว หมายถึง ความซื่อสัตย์, บริสุทธิ์และไร้เดียงสา, สีชมพู แสดงถึงความชื่นชม ความสง่างามและความอ่อนโยน, สีฟ้า สื่อถึงสิ่งที่ยากจะบรรลุและเป็นไปได้ ส่วนสีดำสีที่สะท้อนถึงความรักอันเป็นนิรันดร์ และในบางคติความเชื่อก็สื่อถึงบุคคลอันเป็นที่รักผู้จากไปแล้ว ทำให้การสักดอกกุหลาบนั้นมีอย่างแพร่หลายด้วยเฉดสีเเละอิสระในการดีไซน์

• ดอกทานตะวัน

‘ดอกทานตะวัน’ อีกหนึ่งดอกไม้คลาสสิกที่ถูกหยิบมาเติมแต่งลวดลายให้กลายเป็นลายสักดอกไม้เฉพาะตัวไม้แพ้ดอกกุหลาบ ด้วยพฤติกรรมของดอกไม้สีเหลืองสดใสที่คอยหันตามทิศทางของแสงอาทิตย์ จึงเป็นที่มาของความหมายสุดโรแมนติกที่สื่อถึงความรักว่า ‘ไม่ว่าเธอจะไปทิศทางใด ฉันก็เป็นดั่งดอกทานตะวันที่คอยมองหาเธอเสมอ’ ซึ่งนอกจากความหมายสุดโรแมนติกนี้แล้วนั้นดอกทานตะวันยังมีอีกหลากหลายความหมาย เช่น ความสุข ความสดใส ความเฉลียวฉลาด อายุที่ยืนยาว และความโชคดี ซึ่งความหมายเหล่านี้ก็เป็นความหมายที่มาจากพฤติกรรมและลักษณะอันโดดเด่นของดอกทานตะวันที่ผู้คนชื่นชอบเเละหยิบเอาดอกไม้ชนิดนี้มาเป็นลายสักนั่นเอง

• ดอกเดซี่

‘ดอกเดซี่’ นอกจากดอกกุหลาบและทานตะวันจะเป็นลายสักดอกไม้ที่ได้รับความนิยมแล้ว ดอกเดซี่เองก็ได้รับความนิยมไม่แพ้กัน ซึ่งเจ้าดอกไม้สีขาวเกสรสีเหลืองเล็กจิ๋วนี้มีชื่อมาจากพฤติกรรมที่มักจะบานเมื่อพระอาทิตย์ขึ้นและหุบเมื่อพระอาทิตย์ลง จนคนในยุคนั้นตั้งชื่อให้มันว่า ‘Day’s Eye’ ซึ่งแปลว่า 'ตาของวัน' จนเวลาผ่านไปก็ถูกปรับคำให้เข้ากับภาษาที่มีวิวัฒนาการจนกลายเป็นคำว่า ‘Daisy’ แทน ซึ่งความหมายของลายสักดอกเดซี่นั้นก็ต่างกันไปตามสีที่เลือกมาใช้ เช่น สีฟ้า สื่อถึงอารมณ์ที่อ่อนไหว, สีแดง สื่อถึงความกล้าหาญและพลังงานอันล้นเหลือ, สีขาว สื่อถึงความไร้เดียงสา และสีเหลือง สื่อถึงความฉลาดและกำลังใจ ซึ่งแต่ละความหมายก็เต็มไปด้วยตัวตนที่แตกต่างกันไปของลายสักดอกไม้ชนิดนี้

• ดอกลาเวนเดอร์

มาต่อกันที่ดอกลาเวนเดอร์ ดอกไม้สีม่วงที่มักเห็นหลายคนนำไปดีไซน์ขึ้นใหม่ในรูปแบบของลายสักดอกไม้ ที่แฝงความมินิมัลเอาไว้ได้อย่างลงตัว โดยสรรพคุณหลักของดอกลาเวนเดอร์ที่เรารู้กันดีคือการเป็นตัวช่วยสำคัญที่ช่วยให้เกิดความผ่อนคลายจากความเครียดด้วยกลิ่นที่หอมเฉพาะตัวทำให้ผู้ที่สูดดมรู้สึกผ่อนคลายมากขึ้น ด้วยสรรพคุณนี้ลาเวนเดอร์จึงกลายเป็นสัญลักษณ์ของความสงบและความสุข แต่นอกจากความหมายเหล่านี้อีกหนึ่งความหมายสุดโรแมนติกของดอกลาเวนเดอร์ที่เป็นแรงบันดาลใจให้หลายคนนำมาทำเป็นลายสักคือ ‘ความรัก ความทุ่มเท และความบริสุทธิ์’ นั่นเอง นอกจากลาเวนเดอร์จะเป็นลายสักที่สวยงามแล้วยังถือได้ว่าเป็นต้นไม้มงคลที่ช่วยเสริมในเรื่องของความรู้ สติปัญญาเเละความจำอีกด้วย

• ดอกบัว

ดอกไม้สุดคุ้นตาสำหรับคนไทยอย่าง ‘ดอกบัว’ ที่เรามักนำมาถวายพระหรือเป็นดอกไม้ประจำหิ้งพระนั่นเอง แต่เชื่อหรือไม่ว่าดอกบัวก็เป็นดอกไม้ที่มีคนหยิบไปเป็นลายสักดอกไม้กันอย่างมากมาย ด้วยลักษณะที่มีความสมดุลผสมผสานเข้ากับความคิดสร้างสรรค์ต่างๆ ที่ถูกเติมแต่งลงบนลายเส้นทำให้ดอกบัวนั้นกลายเป็นลายสักที่สะท้อนถึงความหลากหลายและสร้างสรรค์ พร้อมทั้งยังสื่อความหมายถึงความทุ่มเท ความสมบูรณ์แบบ การรับรู้ทางจิตวิญญาณและการพัฒนาทางจิตใจ รวมไปถึงเฉดสีที่ต่างกันของดอกบัวยังมีความหมายแฝงซึ่งสื่อถึงความสง่างามและความสงบสุขอีกด้วย ซึ่งโดยส่วนใหญ่ผู้ที่สักรูปดอกบัวนั้นมักเลือกบริเวณกลางลำตัว เนื่องจากลายสักรูปดอกบัวนั้นมักถูกดีไซน์มาให้เกิดความสมมาตร ทำให้การสักที่หนักไปเพียงข้างใดข้างหนึ่งจึงไม่ค่อยเป็นที่นิยม

• ดอกคามิลเลีย

'ดอกคามิลเลีย' ดอกไม้จากเมืองหนาวตัวแทนวัฒนธรรมจากฝั่งยุโรป ดอกไม้ที่มีกลีบอัดแน่นจนดูเหมือนกระโปรงอันสมบูรณ์แบบของเหล่าหญิงสาว เดิมทีเป็นดอกไม้ที่มาจากพืชตระกูลชา ตัวดอกมีหลากหลายสีสันสดใสไม่ว่าจะเป็นสีขาว สีชมพูและสีแดงสด ด้วยเสน่ห์เหล่านี้ของดอกคามิลเลียทำให้หลายคนที่ชื่นชอบต่างหยิบยกเอาจุดเด่นของดอกไม้ชนิดนี้มาดีไซน์ให้เป็นลายสักดอกไม้ซึ่งเต็มไปด้วยความหมายที่สื่อถึงความปรารถนา ความละเอียดอ่อนและความซื่อสัตย์ โดยแต่ละสีก็จะมีแฝงความหมายที่แตกต่างกันไปเช่น สีแดง สื่อถึงความรักและความปรารถนาอันแรงกล้า, สีชมพู สื่อถึงความคิดถึง คะนึงหา และสีขาว สื่อถึง ความรักอันบริสุทธิ์ดั่งแม่กับลูก

• ดอกไอริส

ดอกไม้สุดแปลกตาอย่าง ‘ดอกไอริส’ ดอกไม้ที่มีมาตั้งแต่สมัยกรีกโบราณ ดอกไม้สีม่วงสดใสมาพร้อมกับความเชื่อว่าเป็นเส้นทางการสื่อสารระหว่างโลกและสวรรค์ ระหว่างมนุษย์และเทพเจ้า ด้วยความเชื่อเหล่านี้ทำให้ดอกไอริสกลายมาเป็นลายสักดอกไม้ที่มีความหมายถึงการสื่อสาร ความหวัง  คำสัญญา มิตรภาพ ภูมิปัญญาและความศรัทธานั่นเอง โดยความหมายแฝงที่มักพบเจอในลายสักดอกไอริสนั้นก็มักถูกแบ่งแยกตามเฉดสีที่ถูกแต่งแต้มลงไปไม่ว่าจะเป็น สีม่วง สื่อถึงภูมิปัญญาและความสูงศักดิ์, สีขาว สื่อถึงความทุ่มเท ความไร้เดียงสาและการปกป้อง, สีฟ้า สื่อถึงความเชื่อ ความศรัทธาและความหวัง และสีเหลือง สื่อถึงแรงบันดาลใจอันแกร่งกล้า ซึ่งโทนสีเหล่านี้ยังสามารถนำมาผสมผสานกันให้เกิดเป็นดีไซน์ที่มีเอกลักษณ์ได้อีกด้วย

• ดอกซากุระ

อีกหนึ่งลายสักดอกไม้ที่ผู้หญิงมักเลือกสักคงต้องขอยกให้ ‘ดอกซากุระ’ ดอกไม้สีชมพูเอกลักษณ์อันโดดเด่นของประเทศญี่ปุ่น ซึ่งเป็นสัญลักษณ์ของฤดูใบไม้ผลิที่กำลังมาถึง การเบ่งบานของดอกซากุระนั้นเปรียบได้กับการเริ่มต้นความหวังครั้งใหม่ของบรรดาผู้คนที่กำลังใช้ชีวิตอยู่ เรื่องราวเหล่านี้สร้างแรงบันดาลใจให้ผู้คนในวงการสักนำมาดีไซน์ใหม่ไม่ว่าจะเป็นแบบดอกเดียว แบบพุ่ม หรือแม้กระทั่งแบบกิ่งก้านที่เต็มไปด้วยดอกซากุระ และแน่นอนว่าเมื่อดอกซากุระมาอยู่บนรอยสักแล้วนั้นเกิดความหมายแฝงใหม่ๆ เพิ่มเข้าไปไม่ว่าจะเป็นการสื่อถึงผู้หญิงที่สง่างาม สดใส และกล้าที่จะใช้ชีวิตนอกกรอบที่ถูกวางไว้ หรือแม้กระทั่งการสื่อถึงความสวยงามของชีวิตที่เต็มไปด้วย ความรัก ความหวังและแรงบันดาลใจ ด้วยสีสันและรูปร่างอันเป็นเอกลักษณ์ ทำให้ดอกซากุระติดท็อปลิสต์ลายสักดอกไม้ที่ผู้คนมักเลือกสักเช่นเดียวกับดอกไม้อื่นๆ

• ดอกอาซาเลีย

'ดอกอาซาเลีย' หรือ 'ดอกกุหลาบพันปี' ดอกไม้สีสันสดใสที่มีความหลากหลายทางสายพันธุ์ มักขึ้นในพื้นที่อากาศเย็นสูงกว่าน้ำทะเลอย่างน้อย 1,000 เมตร ดอกไม้ที่ได้รับการขนานนามว่า ‘ความงามแห่งเทือกเขาซอรัก’ เพราะเป็นดอกไม้ที่มักพบได้มากในประเทศเกาหลี โดยเฉพาะอย่างยิ่งบนพื้นที่เขาซอรัก ลักษณะไม้พุ่มเมื่อเบ่งบานจะปกคลุมทั่วผืนดินให้กลายเป็นพื้นที่สีสันสวยงาม ความงดงามเหล่านี้กลายมาเป็นแรงบันดาลใจสำคัญของลายสักดอกไม้ พร้อมกับความหมายที่ลึกซึ้งซึ่งสื่อถึง ‘ธรรมชาติของมนุษย์’ สิ่งที่เป็นนามธรรมไม่ว่าจะเป็นอารมณ์รัก โลภ โกรธ หลง หรือความริษยาต่างก็เป็นธรรมชาติของมนุษย์ที่ดอกอาซาเลียนั้นบ่งบอกออกมา รวมไปถึงอีกมุมมองอย่างการเชื่อว่าดอกอาซาเลียเป็นสิ่งที่สะท้อนถึงความนุ่มนวลและอ่อนไหว ทำให้ผู้คนที่มักเลือกสักดอกอาซาเลียนั้นเพื่อสื่อความหมายว่า ‘เรายังคงเป็นเพียงมนุษย์คนหนึ่งเท่านั้นเอง’

• ดอกแม็กโนเลีย

ลายสักดอกไม้ต่อมากับ ‘ดอกแม็กโนเลีย’ ดอกไม้ที่เป็นตัวแทนของความสวยงาม วัตถุดิบหลักในการนำมาทำเครื่องหอมต่างๆ ไม่่ว่าจะเป็นสบู่ ครีมทาตัวหรือแม้กระทั่งน้ำหอมที่ใช้ในชีวิตประจำวัน โดยในยุควิกตอเรียเชื่อว่าการปลูกดอกแม็กโนเลียไว้ในบ้านแสดงถึงศักดิ์ศรีและความสูงส่งของคนในบ้านและวงศ์ตระกูล ด้วยรูปร่างที่ดูสวยสะดุดตามาพร้อมกับโทนสีละมุนเสน่ห์ที่ใครได้มองต่างก็หลงใหล แต่เมื่อได้ลองสัมผัสกลับเป็นเป็นดอกไม้ที่มีความแข็งแรงและคงทน ซึ่งเสน่ห์ของดอกแม็กโนเลียนี้เองทำให้มีคนนำเอาดอกไม้สีสวยนี้มาดีไซน์เป็นลายสักสุดเฉพาะตัว พร้อมด้วยความหมายที่สื่อถึง ‘ความอดทน ความสูงส่ง ความแข็งแกร่งที่แสนสง่างาม’

• ดอกฝ้าย

ดอกไม้นุ่มฟูอย่าง 'ดอกฝ้าย' ซึ่งหลายคนคงคิดไม่ถึงว่าจะเป็นดอกไม้ที่มีการถูกนำมาดีไซน์เป็นลายสักดอกไม้เช่นเดียวกับดอกไม้อื่นๆ ด้วยเอกลักษณ์ของดอกสีขาว พร้อมสัมผัสบางเบาที่สามารถหลุดลอยไปตามสายลมได้อย่างอิสระ ตัดเข้ากับกิ่งก้านสีน้ำตาลอ่อนและใบสีเขียว ทำให้เกิดเป็นเสน่ห์อันน่าหลงใหลจนกลายมาเป็นแรงบันดาลใจในการสร้างสรรค์ลายสักในที่สุด ซึ่งลายสักดอกฝ้ายนั้นมีความหมายถึงความโชคดี การเยียวยารักษาและการได้รับการปกป้อง นอกจากนี้ยังมีความหมายถึงความอิสระ เช่นเดียวกับปุยฝ้ายที่สามารถล่องลอยตามลมได้อย่างไร้ข้อจำกัดเเละข้อผูกมัด

• ดอกพีโอนี

ปิดท้ายด้วยลายสักดอกไม้จาก 'ดอกพีโอนี' ดอกไม้ที่มีกลิ่นหอมเฉพาะตัว ซึ่งเรามักรู้จักกันในชื่อไทยว่า ‘ดอกโบตั๋น’ ดอกไม้ที่เป็นราชาแห่งผืนป่า ตามความเชื่อจีนที่ว่าหากใครได้ปลูกและครอบครองดอกพีโอนี มักจะพบเจอกับความมั่งคั่งในชีิวิต ทั้งยังเป็นดอกไม้ที่สื่อถึงความซื่อสัตย์อีกด้วย ซึ่งในแง่ของความรักแล้วนั้นดอกพีโอนีสื่อความหมายถึงความรักใคร่ของหนุ่มสาวที่คอยดึงดูดกันและกัน พร้อมกันนั้นยังมีความเชื่อที่ว่าดอกพีโอนีจะคอยดึงดูดเรื่องความรักเข้ามาหาเจ้าของด้วย เนื่องจากความหมายและความเชื่อสุดโรแมนติกทำให้สิ่งนี้กลายเป็นหัวใจหลักที่ผู้คนเริ่มสักลายดอกพีโอนีลงบนร่างกาย ซึ่งในมุมมองของผู้ชื่นชอบการสักเเล้ว 'ดอกพีโอนี' ถือเป็นสิ่งที่ช่วยเติมเต็มของลายสักได้อย่างลงตัว ด้วยลักษณะของดอกไม้ที่เมื่อดีไซน์มาเเล้วมีความอ่อนช้อยทำให้สามารถเติมลงไปบนพื้นที่ผิวที่ยังคงว่างอยู่ได้อย่างพอดี

นี่คือลายสักดอกไม้ทั้ง 12 ลายที่โว้กบิวตี้ขอนำเสนอ ซึ่งแต่ละลวดลายนั้นก็มาพร้อมความหมายดีๆ เหมาะกับการเป็นรอยสักลายแรกในชีวิตของทุกคน พร้อมทั้งยังช่วยเสริมเรื่องต่างๆ ตามความเชื่อได้ด้วย ถึงแม้การสักจะเป็นงานศิลปะชิ้นหนึ่งที่สามารถทำได้อย่างเสรีภาพเเล้วนั้น ก็อยากให้ทุกคนได้ตัดสินใจอย่างถี่ถ้วนอีกครั้ง เพราะเมื่อลายสักเหล่านี้มาอยู่บนเรือนร่างแล้วยากนักที่จะเอาออก