Vacheron Constantin พาล่องเรือสำราญไปค้นพบดินแดนมหัศจรรย์ผ่านดีไซน์นาฬิกางานหัถตศิลป์ 4 เรือน
ผลงานจากคอลเล็กชั่น Métiers d'Art Tribute เปรียบเสมือนงานศิลปะสุดประณีตที่รังสรรค์ด้วยทองคำในรูปแบบนาฬิกาข้อมือที่มีเพียงไม่กี่เรือนในโลก พร้อมสดุดีให้กับความมหัศจรรย์อันน่าค้นหาของธรรมชาติ
เมื่อปี 1994 แบรนด์เก่าแก่สัญชาติฝรั่งเศส Vacheron Constantin ได้สร้างความฮือฮาให้กับอุตสาหกรรมเรือนเวลาด้วยการปล่อยนาฬิกาข้อมือที่มีหน้าปัดเปรียบเสมือนงานศิลปะสุดประณีต พร้อมเล่าเรื่องราวน่าสนใจที่เต็มไปด้วยความซับซ้อน กับการนำเส้นทางความสำเร็จของนักภูมิศาสตร์ผู้ชาญฉลาดและนักเขียนแผนที่รุ่นบุกเบิก Gerardus Mercator มาสร้างสรรค์เป็นผลงานเรือนเวลารุ่น Mercator ซึ่งได้รับเสียงตอบรับที่ดีอย่างล้นหลาม แบรนด์จึงนำไอเดียนี้มาสานต่อทุกๆ หลายปี เป็นผลงานนาฬิกาคอลเล็กชั่นพิเศษ 'Métiers d'Art Tribute' ที่จะสดุดีให้กับการค้นพบครั้งสำคัญบนหน้าประวัติศาสตร์โลกอันน่าค้นหาเช่น คอลเล็กชั่นที่นำเสนอเรื่องราวการพิชิตท้องฟ้าของนักบินอวกาศเมื่อปี 2019 อย่าง 'Métiers d'Art Tribute to Aérostiers' หรือ 'Métiers d'Art Tribute to Great Explorers' กับหน้าปัดรูปแผนที่โลกที่ประดับไอคอนขนาดจิ๋วที่สะท้อนถึงวัฒนธรรมอันโดดเด่นของแต่ละภูมิภาค รวมถึงปีนี้ที่วาเชอรอง คองสตองแตงนำเรื่องราวการเดินทางข้ามมหาสมุทรไปค้นพบความมหัศจรรย์ของป่าเขตร้อนของเหล่านักชีววิทยาอันโด่งดังในศตวรรษที่ 19 บนเรือหลวงบีเกิลในตำนานมาเล่าผ่านดีไซน์นาฬิกาข้อมือคอลเล็กชั่นล่าสุด โดยใช้ชื่อบทนี้ว่า 'Métiers d'Art Tribute to Explorer Naturalist'
เบื้องหลังการสร้างสรรค์ผลงานเรือนเวลาหัตถศิลป์สุดประณีตคอลเล็กชั่น Métiers d'Art Tribute to Explorer Naturalist จากแบรนด์นาฬิกาสัญชาติสวิส Vacheron Constantin
ผลงานคอลเล็กชั่น Métiers d'Art Tribute to Explorer Naturalist ประกอบไปด้วยนาฬิกาข้อมือทั้งหมด 4 เรือน ซึ่งสาวกนาฬิกาสามารถแบ่งออกได้เป็น 2 กลุ่ม กลุ่มแรกคือนาฬิกาข้อมือที่ประดับด้วยสายหนังจระเข้สีน้ำเงินที่เล่าเรื่องราวบทแรกในการเดินทางเพื่อไปค้นหาแผ่นดินใหม่อันน่าตื่นเต้น กับความโดดเด่นของโมทีฟเรือหลวงบีเกิลบนผืนมหาสมุทรสีน้ำเงินที่รังสรรค์ด้วยทองคำขาวลงยาสีบนหน้าปัดบริเวณด้านซ้าย ในขณะที่หน้าปัดบริเวณด้านขวาที่ประดับเลขบอกเวลาบนพื้นหลังลวดลายป่าไม้เขตร้อนที่เป็นงานอีนาเมล ซึ่งรุ่น Straits of Magellan ในตัวเรือนสีทองจะประดับด้วยลวดลายป่าไม้สีเขียว และรุ่น Cape Verde ในตัวเรือนทองคำชมพูจะประดับด้วยลวดลายดอกไม้ทรอปิคัลสีสันสดใส เป็นการมอบบรรยากาศการเดินทางและพบเห็นแผ่นดินใหม่ที่กำลังรอนักผจญภัยได้อย่่างมีเสน่ห์
WATCH
1 / 2
2 / 2
เมื่อกลุ่มนักชีววิทยาได้ก้าวลงจากเรือบีเกิลสู่แผ่นดินใหม่อย่างทวีปอเมริกาใต้และพบกับสิ่งมีชีวิตที่เต็มไปด้วยความมีชีวิตชีวา การจดบันทึกเรื่องราวความน่าประทับใจเหล่านี้จึงเริ่มขึ้นและปรากฏอยู่บนหน้าปัดเรือนเวลาอีกกลุ่มที่ประดับด้วยสายหนังจระเข้สีเขียว โดยผลงานรุ่น Tierra del Fuego ในตัวเรือนทองคำขาวนั้นประดับด้วยโมทีฟนกและผีเสื้อทองคำแกะสลักบนพื้นอีนาเมลเพนต์ลายป่าไม้ตรงบริเวณฝั่งซ้ายของหน้าปัด ในขณะที่หน้าปัดฝั่งขวายังคงมีไว้บอกเวลาเช่นเคย ทว่าพื้นหลังเป็นแผนที่โบราณสีขาว และรุ่น Cape of Good May ในตัวเรือนทองคำชมพูจะประดับด้วยโมทีฟนกหลายชนิดและกิ้งก่าอิกัวนา กับการวางคอมโพซิชั่นให้แลดูตระการตาเหมือนภาพแห่งสวนอีเดน ซึ่งนาฬิกาทุกเรือนจากคอลเล็กชั่นนี้ขับเคลื่อนแบบกลไกอัตโนมัติด้วยคาร์ลิเบอร์ 1120 AT/1 ที่มีความบางเพียง 5.45 มิลลิเมตร ทำให้นาฬิกาเรือนนี้มีความบางเพียง 11.68 มิลลิเมตร และมีจำนวนรุ่นละ 10 เรือนเท่านั้น สาวกเรือนเวลาที่หลงใหลงานศิลปะหัตถศิลป์ทว่ายังคงความสามารถในการบอกเวลาอย่างมีประสิทธิภาพสูง ห้ามพลาดจะหามาครอบครองในคลังสะสม
1 / 2
2 / 2
ภาพ : Courtesy of Vacheron Constantin
WATCH