Vogue Thailand

WATCHES & JEWELLERY

Ulysse Nardin เผยเรือนเวลาจิวเวลรีชั้นสูงที่ได้รับการขนานนามว่าเป็นมาสเตอร์พีซ

Ulysse Nardin BLAST [SPARKLING RAINBOW] คืิอสุดยอดการผสมผสานระหว่างงานฝีมือและนวัตกรรมนาฬิกาชั้นสูง สะท้อนภาพความยอดเยี่ยมของเมซงในหลากมิติยิ่งขึ้น

โดย Nattanam Waiyahong
26 มิถุนายน 2568

     Ulysse Nardin คือแบรนด์นาฬิกาที่โดดเด่นเรื่องการรังสรรค์นวัตกรรมระดับโลก ล่าสุดในงาน Watches & Wonders 2025 ก็เผยโฉมนาฬิการุ่น DIVER [AIR] สร้างความฮือฮากับการเป็นนาฬิกาดำน้ำกลไก Mechanical ที่มีน้ำหนักเบาที่สุดในโลก ทุบสถิติโลกด้วยตัวเลข 52 กรัมเท่านั้น เรียกเสียงฮือฮาได้สมกับเป็นหนึ่งในผู้นำทางนวัตกรรมแห่งวงการโดยแท้จริง นอกจากนี้ตลอดระยะเวลาหลายปีแบรนด์ยังรังสรรค์นาฬิการุ่น FREAK ในเวอร์ชั่นต่างๆ ที่ถือเป็นตัวชูโรงเสมอมาและตลอดไป วันนี้แบรนด์ก้าวไปอีกขั้นกับการเนรมิตนาฬิกาจิวเวลรีที่ถือว่าน่าสนใจมากที่สุดเรือนหนึ่งประจำปีนี้
 

     BLAST [SPARKLING RAINBOW] ชื่อบ่งบอกถึงความระยิบระยับของสีรุ้งเช่นนี้หมายถึงการนำเสนอเรือนเวลาที่ไม่เพียงโดดเด่นเรื่องกลไกหรือนวัตกรรมของตัวเรือน แต่หมายถึงการเสริมสร้างมิติด้านงานฝีมือเข้าไว้อย่างจริงจัง เพียบพร้อมด้วยความสวยงามของผลงานจิวเวลรี โดยนาฬิกาเรือนนี้มีไฮไลต์คือการตกแต่งด้วยแซปไฟร์ 7 สีไล่ระดับกันอย่างงดงามตามโทนสีสายรุ้ง ประดับตั้งแต่ตัวเรือน เบเซล เม็ดมะยม หน้าปัด ไปจนถึงตัวล็อคสาย สิริรวมมีแซปไฟร์มากถึง 211ชิ้น น้ำหนักรวมกว่า 13.33 กะรัต

Article

     ความน่าสนใจคือปกตินาฬิกาจิวเวลรีอาจโดดเด่นเรื่องความสวยงาม แต่สำหรับเมซงนาฬิกาแห่งนี้ ความยอดเยี่ยมเชิงกลไกเป็นสิ่งที่ละเลยไปไม่ได้ ซึ่งสะท้อนภาพออกมาผ่านนาฬิกาที่มีกลไกชั้นสูงแบบ Flying Tourbillon ที่ถูกสอดแทรกเข้ามาในดีไซน์ตัวเรือนและหน้าปัดแบบอวองต์-การ์ด ทั้งนี้ทั้งนั้นแซปไฟร์ทุกชิ้นเจียระไนในรูปทรงที่แตกต่างกันถึง 85 รูปแบบ และจัดเรียงด้วยมือภายใต้เซ็ตติ้งแบบ ‘Mystery Setting’ ประดับด้วยโครงสร้างแบบซ่อนทำให้อัญมณีทุกชิ้นเหมือนลอยล่องในอากาศและไม่เปิดเผยเนื้อวัสดุตัวเรือนไวต์โกลด์ภายใต้แซปไฟร์แต่ละชิ้นเลยแม้แต่นิดเดียว

     นาฬิกาเรือนนี้ผลิตจำกัดเพียง 8 เรือนเท่านั้น มีศักยภาพในการสำรองพลังงานมากถึง 72 ชั่วโมง ขนาดตัวเรือนอยู่ที่ 45 มิลลิเมตร หนา 13.35 มิลลิเมตร ตัวสายเป็นวัสดุยางคุณภาพสูงสีเขียว ขับความโดดเด่นของไวต์โกลด์และแซปไฟร์หลากสีเป็นอย่างดี นอกจากนี้ยังสามารถกันน้ำได้มากถึง 50 เมตร นับว่าเป็นสุดยอดเรือนเวลาที่เน้นย้ำทั้งความยอดเยี่ยมเรื่องงานฝีมือและนวัตกรรมขั้นสูงตามแบบฉบับเมซง ซึ่งนาฬิกาเรือนนี้นับเป็นนาฬิกาจิวเวลรีชั้นสูง และถูกขนานนามว่าเป็น ‘มาสเตอร์พีซ’

(สามารถอ่านเรื่องราวเพิ่มเติมเกี่ยวกับโลกนาฬิกาได้กับบทความ ครั้งแรกในรอบเกือบ 30 ปี! Cartier เผยนิทรรศการเครื่องประดับและเรือนเวลา ณ กรุงลอนดอน)

ภาพ : Courtesy of Ulysse Nardin
Ulysse Nardin เผยเรือนเวลาจิวเวลรีชั้นสูงที่ได้รับการขนานนามว่าเป็นมาสเตอร์พีซ