Audermars Piguet เผยโฉมไฮไลต์นาฬิกาข้อมือจากตระกูล Royal Oak คอลเล็กชั่นประจำปี 2023
นาฬิกาข้อมือรุ่น Royal Oak ที่โดดเด่นด้วยหน้าปัดรูปทรงแปดเหลี่ยม เป็นหนึ่งในเรือนเวลารุ่นไอคอนิกที่สุดในประวัติศาสตร์ ซึ่ง Audemars Piguet ได้ทำการเผยโฉมผลงานดีไซน์ใหม่จากคอลเล็กชั่นประจำปี 2023 เป็นที่เรียบร้อย จะน่าตื่นตาตื่นใจขนาดไหนมาดูกัน
แบรนด์นาฬิกาจากประเทศสวิตเซอร์แลนด์ Audemars Piguet เผยโฉมเหล่าผลงานใหม่ล่าสุดจากคอลเล็กชั่นประจำปี 2023 เป็นที่เรียบร้อย และแน่นอนว่านาฬิกาข้อมือสุดไอคอนิกจากตระกูล Royal Oak ได้รับความสนใจอย่างล้นหลาม ด้วยหน้าปัดรูปทรงแปดเหลี่ยมได้รับสมญานามว่าเป็นหนึ่งดีไซน์ที่ดีที่สุดในประวัติศาสตร์ โดยฝีมือการออกแบบของดีไซเนอร์ระดับตำนาน Gerald Genta ที่ได้รับแรงบันดาลใจมาจากหมวกดำน้ำในสมัยนั้นที่มีน็อตขันรอบกระจกทั้งแปดด้าน ซึ่งใช้ระยะเวลาการออกแบบภายใน 24 ชั่วโมงเท่านั้น เพื่อนำมาเปิดตัวภายในงาน Basel World ในปี 1972 ซึ่งทุกปีโอเดอมาร์ ปิเกต์จะนำวัสดุและเทคนิคต่างๆ มาสร้างสรรค์เป็นผลงานใหม่เพื่อเอาใจเหล่าแฟนๆ โรยัล โอ๊ค ซึ่งโว้กได้เลือกผลงานชิ้นไฮไลต์ของปีนี้ทั้งหมด 3 เรือน จะมีเรือนไหนบ้างมาชมกัน
1 / 3
เริ่มต้นด้วยเรือนแรกอย่างรุ่น Royal Oak Selfwinding กับการนำเทอร์ควอยส์มารังสรรค์เป็นหน้าปัดนาฬิกาขนาด 37 มิลลิเมตรอีกครั้ง หลังจากเคยได้นำเทอร์คอยส์และหินสีอื่นๆ มารังสรรค์เป็นหน้าปัดในช่วงยุค 1960s ถึงยุค 1990s เป็นสีสดใสที่ไม่ค่อยได้เห็นบ่อยนัก ตัดกับโทนสีของตัวเรือนตัวทองเหลืองอร่าม ทำให้นึกถึงสีของน้ำทะเลที่ตัดกับทรายสีทอง หรือจะเป็นโทนสียอดนิยมของจิวเวลรีจากยุคอียิปต์โบราณก็ว่าได้
2 / 3
Royal Oak "Jumbo" Extra-Thin เรือนนี้คือหนึ่งผลงานที่นำสียอดนิยมของแบรนด์อย่างสีน้ำเงินมาสร้างสรรค์เป็นหน้าปัดขนาด 39 มิลลิเมตร แตกต่างไปจากเดิมด้วยหน้าปัดที่ใช้เทคนิคการเคลือบสี PVD ลายเกรนที่มีความระยิบระยับมารังสรรค์ ให้เอฟเฟกต์เหมือนเหล่ากลุ่มดาวกำลังส่องแสงอยู่บนท้องฟ้าในยามราตรี เข้ากับตัวเรือนทองคำขาวสุดหรูหรา เป็นคอมบิเนชั่นการจับคู่สีที่มีความเรียบโก้ และยังเป็นรุ่นลิมิเต็ด เอดิชั่นที่มีวางจำหน่ายที่บูติกของแบรนด์เท่านั้น
3 / 3
โอเดอมาร์ ปิเกต์นำเรือนเวลารุ่นโรยัล โอ๊คไปถึงความหรูหราระดับสูงสุดด้วยผลงานรุ่นนี้ Royal Oak Selfwinding Chronograph หน้าปัดขนาด 38 มิลลิเมตรที่รังสรรค์ด้วยโอนิกซ์สีดำขัดแวว ซึ่งเป็นดีไซน์อันเฉลียวฉลาด ทำให้เพชรทรงบาเก็ตต์น้ำหนักประมาณ 1.66 กะรัต ที่ประดับรอบขอบตัวเรือนทองคำขาวหรือทองคำกุหลาบ 18K ขับเคลื่อนด้วยกลไกคาลิเบอร์ 2385 พร้อมหน้าปัดย่อยสำหรับฟังก์ชั่นโครโนกราฟ ถึงแม้จะไม่ใช่ครั้งแรกที่แบรนด์นำโอนิกซ์และเพชรมาดีไซน์นาฬิการุ่นโรยัล โอ๊คด้วยกัน แต่การกลับมาครั้งนี้ของทั้งสองวัสดุเลอค่า ก็ทำให้เหล่าสาวกนาฬิกาตื่นเต้นที่จะครอบครองเป็นเจ้าของอย่างแน่นอน
WATCH
