rolex-day-date-36-collection-2023-watches-precious-stone-3-design-diamond-gold
WATCHES & JEWELLERY

Rolex ยกระดับความตระการตาของนาฬิกาข้อมือ 'Oyster Perpetual Day-Date 36' ด้วยหน้าปัดหินสีเลอค่า

การเลือกแมตช์เฉดสีของตัวเรือนและสายทองคำเข้ากับหน้าปัดหินสีเลอค่าทั้ง 3 ดีไซน์ของ Rolex สะท้อนถึงความปราดเปรื่องในการนำเสนอเรือนเวลารุ่นคลาสสิกที่คอยผลักขอบเขตด้านความคิดสร้างสรรค์

เมื่อปี 1956 แบรนด์นาฬิกาจากประเทศสวิตเซอร์แลนด์ Rolex ได้ปล่อยผลงานที่เปลี่ยนหน้าประวัติศาสตร์ของอุตสาหกรรมเครื่องบอกเวลาไปตลอดกาล กับนาฬิกาข้อมือเรือนแรกที่สามารถบอกเวลาในหน่วยชั่วโมง นาที วินาที จนถึงวันที่ และที่สำคัญคือการแสดงชื่อวันรายสัปดาห์แบบสะกดเต็มในช่องหน้าต่างโค้งบนหน้าปัดที่สามารถตั้งค่าเปลี่ยนได้ถึง 26 ภาษา โดยตั้งชื่อเรือนเวลาตระกูลนี้ว่า 'Oyster Perpetual Day-Date' ทั้งยังมาพร้อมกับสายนาฬิกา President กับดีไซน์อันเป็นเอกลักษณ์เสมือนเครื่องประดับที่สาวกเรือนเวลาไม่ต้องมองหน้าปัดก็ทราบว่าเป็นรุ่นใด ซึ่งนาฬิกาคอลเล็กชั่นนี้เป็นที่นิยมในหมู่สาวกโรเล็กซ์ทั้งสุภาพบุรุษและสุภาพสตรีมาอย่างต่อเนื่องยาวนานเกือบ 70 ปี ล่าสุดโรเล็กซ์ได้ยกระดับความน่าตื่นตาตื่นใจให้กับคอลเล็กเตอร์ด้วยการนำหินสีเลอค่า 3 ชนิดมาสร้างความโดดเด่นให้กับหน้าปัด

1 / 3

นาฬิกาข้อมือรุ่น Oyster Perpetual Day-Date 36 ตัวเรือนทองคำสีเอเวอร์โรสโกลด์ หน้าปัดหินอะเวนจูรีนล้อมเพชร จากคอลเล็กชั่นประจำปี 2023


2 / 3

นาฬิกาข้อมือรุ่น Oyster Perpetual Day-Date 36 ตัวเรือนทองคำขาว หน้าปัดเทอคอยส์ล้อมเพชร จากคอลเล็กชั่นประจำปี 2023


3 / 3

นาฬิกาข้อมือรุ่น Oyster Perpetual Day-Date 36 ตัวเรือนทองคำเหลือง หน้าปัดคาร์เนเลียนล้อมเพชร จากคอลเล็กชั่นประจำปี 2023


โดยนาฬิกาข้อมือรุ่น Oyster Perpetual Day-Date 36 รูปโฉมใหม่นี้มาในขนาดหน้าปัด 36 มิลลิเมตรที่รับเข้ากับขนาดข้อมือและใหญ่พอให้ได้อวดความงดงามของหน้าปัดสุดตระการตาที่มาใน 3 ดีไซน์ ได้แก่ รุ่นตัวเรือนและสายทองคำเหลืองประดับด้วยหน้าปัดคาร์เนเลียนสีสดทั่วทุกบริเวณ รุ่นตัวเรือนทองคำขาวประดับด้วยเทอคอยส์ลวดลายแลดูคล้ายหินอ่อนสุดประณีต และรุ่นตัวเรือนทองคำสีพิเศษของแบรนด์อย่างสีเอเวอร์โรสโกลด์ประดับด้วยหน้าปัดหินอะเวนจูรีนสีเขียว ซึ่งหน้าปัดทุกเรือนประดับด้วยเพชรทรงกลมบริลเลียนต์คัต 32 เม็ด พร้อมบอกเวลาอย่างแม่นยำด้วยกลไกเซลฟ์ไวดิ้งจากการขับเคลื่อนของคาร์ลิเบอร์ 3255 ภายในตัวเรือนบาง 12 มิลลิเมตร สามารถดำน้ำได้ลึก 100 เมตรและสำรองพลังงานได้ถึง 70 ชั่วโมง พร้อมให้สวมไปลุยได้ในทุกสถานการณ์ได้อย่างไร้กังวล ทั้งยังแลดูงดงามในทุกท่วงท่าด้วยหน้าปัดสีสันที่แต่ละเรือนจะมีลวดลายไม่ซ้ำกัน นับได้ว่าเป็นหน้าปัดที่ีมีเสน่ห์อันเป็นเอกลักษณ์



WATCH




ภาพ : Courtesy of Rolex

WATCH

คีย์เวิร์ด: #Rolex #DayDate36