“Hidden Watch” นาฬิกาแบบซ่อนเกิดจากความไม่เท่าเทียมที่ผู้หญิงไม่สามารถดูเวลาอย่างโจ่งแจ้ง
ย้อนกลับไปยุค 1920s ดูเหมือนว่าเหล่าสุภาพสตรีจะถูกกฎระเบียบของสังคมจำกัดการกระทำอย่างไร้เหตุผล
เมื่อพูดถึงความรุ่งเรืองขั้นสูงสุดกับเทคโนโลยีบอกเวลาแบบพกพายุคแรกๆ คงต้องย้อนกลับสู่ยุค 1920s ที่เหล่าสุภาพบุรุษต่างพกนาฬิกาพกพาเพื่อเป็นทั้งเครื่องมือบอกเวลาและแอ็กเซสเซอรี่ประดับความน่าสนใจของลุค เรียกว่านี่คือจุดเปลี่ยนที่ทำให้กลไกการบอกเวลาอยู่คู่กับมนุษย์ยุคใหม่อย่างเหมาะเจาะพอดี ทว่าย้อนกลับไปกว่าร้อยปีที่แล้ว ดูเหมือนว่าความเท่าเทียมทางเพศจะไม่ใช่เรื่องใกล้ตัว บทบาทของหญิงและชายถูกแยกออกจากกัน อีกทั้งยังมีข้อกำหนดบางอย่างที่เก็บซ่อนความต่างชั้นกันไว้แบบไม่มีใครตระหนักรู้ ซึ่งเรื่องราวของ “เวลา” ก็เป็นส่วนหนึ่งที่แสดงให้เห็นถึงข้อบังคับที่มีเพศกำหนดอย่างชัดเจน
นาฬิกาที่มาในรูปแบบเครื่องประดับเพชรชั้นสูงจาก Piaget / ภาพ: Courtesy of Brand
ความหยาบคายที่ถูกกำหนดด้วยเพศ ความคาดหวังในตัวสุภาพสตรีเมื่อออกงานสังคมคือการอวดโฉมความหรูหราและเป็นดั่งคู่ประดับบารมีของสุภาพบุรุษ ดังนั้นการที่ผู้หญิงจะเหลือบมองเวลาถูกนิยามว่าเป็นความหยาบคายเสียอย่างนั้น รูปแบบการสื่อสารทางวัฒนธรรมสร้างให้เรื่องเวลาเป็นเรื่องของเพศตรงข้าม ความไม่เท่าเทียมนี้จึงหมายถึงจุดแห่งความเจ็บปวดที่สร้างนวัตกรรมเพื่อตอบโจทย์การใช้ช่องว่างของขนบธรรมเนียมดั้งเดิมอันไม่เท่าเทียม และสรรสร้างมิติใหม่ของเรือนบอกเวลาไปตลอดกาล สิ่งที่กล่าวถึงคือ “Hidden Watch” หรือ “Secret Watch” นั่นเอง
รูปแบบนาฬิกาพกพาของเหล่าสุภาพบุรุษในยุค 1920s จากแบรนด์ Zenith / ภาพ: Lepage
นาฬิกาแบบซ่อนได้รับการพูดถึงในช่วงยุค 1920s เนื่องด้วยเหตุผลข้อจำกัดที่ปิดกั้นเพศหญิงมิให้ดูเวลาแบบโจ่งแจ้งเหมือนกับเวลาสุภาพบุรุษสวมชุดสูทเปิดนาฬิกาพกพามาดูเวลาที่ถูกมองว่ามีสไตล์เหนือระดับ สุภาพสตรียุคนั้นต้องหลบซ่อน แต่การหลบซ่อนนั้นต้องแนบเนียนและมีระดับเช่นกัน โดยยุคนั้นเมซงจิวเวลรีชื่อดังจึงคิดค้นออกแบบนาฬิกาแบบซ่อนขึ้นมา โดยมีลักษณะรูปลักษณ์เหมือนกับเครื่องประดับชิ้นต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นกำไลข้อมือเรื่อยไปจนถึงสร้อยคอ โดยเครื่องประดับเหล่านี้มีการตกแต่งด้วยอัญมณีหลากชนิด วัสดุขึ้นเรือนก็มักเป็นทองสะท้อนความหรูหรา เรียกว่ารูปทรงกลไกทั้งหมดเมื่อมองเผินๆ จะดูเหมือนเครื่องทองเครื่องเพชรที่เหล่าสุภาพสตรีต้องสวมใส่เมื่อออกงานสังคมตามปกติ
WATCH
นาฬิการุ่น Luda จากแบรนด์ Van Cleef & Arpels ที่ได้รับแรงบันดาลใจจากนาฬิกาต้นแบบช่วงยุค 1920s / ภาพ: Courtesy of Brand
Van Cleef & Arpels ถือเป็นเมซงที่ขึ้นชื่อเรื่องการตอบสนองความต้องการของสุภาพสตรีผู้หลงใหลในความสวยงามของเครื่องประดับชั้นสูงอยู่แล้ว แน่นอนว่าเมื่อกลุ่มเป้าหมายเผชิญกับปัญหาในการออกงานสังคมเหล่านี้ แบรนด์ก็ไม่พลาดที่จะนำเสนอ Ludo ไลน์นาฬิกาแบบซ่อนที่มาในรูปแบบของกำไลข้อมือประดับอัญมณีสุดหรู กลไกการบีบเพื่อเปิดหน้าปัดทำให้สุภาพสตรีสามารถเหลือบมองเวลาได้แบบไม่หยาบคายหากอ้างอิงตามธรรมเนียมยุคสมัยนั้น เมื่อสวมใส่แทบจะไม่มีใครสังเกตรู้ว่านี่คือนาฬิกา เพราะรูปลักษณ์ของเรือนบอกเวลานี้เหมือนเครื่องประดับชั้นสูงที่สุภาพสตรีคนหนึ่งจะสวมออกงานได้อย่างโดดเด่น หรือนิยามได้ว่า “เก็บซ่อนภายใต้ความโดดเด่น”
Bulgari Serpenti Secret Watch นาฬิกาแบบซ่อนยุคใหม่ที่ถูกออกแบบภายใต้แนวคิดการถ่ายทอดลักษณะเครื่องประดับชั้นสูงของแบรนด์ / ภาพ: Courtesy of Brand
แบรนด์ที่รังสรรค์เครื่องประดับชั้นสูงก็หยิบจับข้อจำกัดตรงนี้มาสรรสร้างนาฬิกาในรูปแบบเครื่องประดับให้ซับซ้อนและสวยงามขึ้นเรื่อยๆ ไม่ว่าจะเป็น Piaget, Chopard, Bulgari หรือ Cartier ก็ล้วนนำเสนอนาฬิกาแบบซ่อนนี้ในแบบฉบับของตัวเอง นอกจากนี้ Jaeger LeCoultre แบรนด์นาฬิกาผู้ช่ำชองในการทำกลไกการสลับหน้าปัดก็สามารถสรรสร้างนาฬิกาซ่อนได้อย่างงดงามเช่นกัน ปัจจุบันนาฬิกาเหล่านี้ไม่ได้ถูกออกแบบเพื่อประโยชน์ในการเหลือบมองเวลาเฉกเช่นในอดีต เพราะข้อจำกัดทางสังคมเปลี่ยนแปลงไปมาก เครื่องประดับชั้นสูงดังกล่าวจึงเปรียบดั่งไอเท็มเสริมความงดงามของสุภาพสตรีอันเป็นมรดกตกทอดที่ส่งผ่านมากว่าศตวรรษ และนี่คือเรื่องราวที่จากโลกนาฬิกาที่บอกเล่าประวัติศาสตร์การพัฒนาของสังคมได้อย่างชัดเจนที่สุด
WATCH