WATCHES & JEWELLERY

Franck Muller เผยโฉมเรือนเวลาที่เชื่อมโยงระหว่างโลกอัญมณีและนาฬิกาชั้นสูง

Franck Muller Round Skeleton Baguette 31 คือผลงานนาฬิกาเรือนพิเศษสำหรับโซนเอเชียแปซิฟิกที่เพียบพร้อมในทุกรายละเอียดของทั้ง 2 มิติ

     ส่วนผสมระหว่างโลกแห่งอัญมณีกับโลกแห่งนาฬิกานำมาสู่มิติความหรูหราที่ทรงพลังทั้งในเรื่องของความงดงามและกลไกอันสลับซับซ้อน ชั้นเชิงในการร้อยเรียงเรื่องราวอันเป็นเอกลักษณ์นำเสนอผ่านเรือนเวลาที่เปี่ยมด้วยเสน่ห์ของทั้งความยอดเยี่ยมของประกอบสร้างเครื่องมือบอกเวลาอันเที่ยงตรง พร้อมการประดับตกแต่งเลอค่าที่พร้อมสะกดทุกสายตา ครั้งนี้ Franck Muller พาทะยานสู่โลกแห่งความยอดเยี่ยมทั้ง 2 มิติกับเรือนเวลาใหม่ Round Skeleton Baguette 31 ชิ้นงานล้ำค่าที่สร้างความสวยหรูและอัดแน่นด้วยงานฝีมือในหลายรูปแบบ

     เรือนเวลาสุดพิเศษนี้เป็นการโคจรมาพบกันของโลกแห่งอัญมณีชั้นสูงอันสะท้อนภาพผ่านอัญมณีเลอค่าและเพชร โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับเพชรเจียระไนทรงบาเกตต์ ซึ่งถือเป็นหัวใจหลักจนถูกตั้งเป็นชื่อเรือนเวลา ในขณะที่สายตากำลังกวาดตามองและเจาะลึกความละเอียดประณีตในการจัดเรียงอัญมณีแต่ละชิ้นอย่างเนี้ยบประณีต เรือนเวลาเรือนนี้ก็ยังสอดแทรกมิติของกลไกอันซับซ้อนและเชิดชูความสวยงามในการจัดวางกลไกเอาไว้อย่างเต็มเปี่ยม ยิ่งมองผ่านหน้าปัดเปลือยเปล่าในแบบ “Skeleton” ยิ่งเห็นชัดไปถึงโครงสร้างภายในที่มีความงดงามเลียนล้อไปกับอัญมณีแสนระยับระยิบรอบตัวเรือน

     นาฬิกาเรือนดังกล่าวมีขนาดหน้าปัด 31 มิลลิเมตร เป็นคอลเล็กชั่นสำหรับสะสมที่มีเฉพาะโซนเอเชียแปซิฟิกเท่านั้น นอกจากนี้จุดเด่นสำคัญอีกอย่างหนึ่งคือรูปทรงวงกลมโค้งมนไร้รอยต่อ ซึ่งเป็นดั่งสัญลักษณ์ของงานฝีมือชั้นยอดของเมซงในการสร้างสรรค์งานศิลปะเรือนเวลามาอย่างยาวนาน สอดประสานไปกับการประดับเพชรชนิดไร้รอยต่อที่เชื่อมโยงกับความเรียบเนียนที่แม้จะมีการตกแต่งประดับประดาตัวเรือนอย่างครบถ้วน ทว่ากลับไม่มีจุดไหนที่สกัดสายตาการมองความสวยงามอย่างเพลิดเพลินไปได้

     “ฝังลงไปในตัวเรือน” เพชรแต่ละเม็ดถูกฝังลงไปในตัวเรือนแบบไร้รอยต่อ ไม่ใช่เพียงการสร้างโครงและติดประดับ เสมือนว่าเพชรเป็นชิ้นส่วนเดียวกับตัวเรือนไปเรียบร้อย บริเวณเม็ดมะยมก็ถูกออกแบบรอยหยักและรูปทรงสอดคล้องกับการจัดเรียงกลไกด้านในที่เผยให้เห็นผ่านแซปไฟร์คริสตัล ทุกรายละเอียดเป็นการขัดด้วยมือ เสริมสร้างรายละเอียดพื้นผิวที่ละเอียดลออ และเข้ากับวัสดุโรสโกลด์ 18k รวมถึง แซปไฟร์สี ทับทิบ และซาโวไรท์ เจียระไนทรงบาเกตต์จำนวน 60 เม็ด น้ำหนักรวม 4.61 กะรัต และเพชรเจียระไนทรงเดียวกันจำนวน 156 เม็ด น้ำหนักรวม 0.88 กะรัต

     ด้านกลไกนาฬิกาชั้นสูงก็อัดแน่นด้วยรายละเอียดที่ลึกซึ้ง หน้าปัดบอกเวลาหลักชั่วโมงและนาที รวมถึงมีจุดแสดงวินาทีบริเวณตำแหน่งเลข 6 มีส่วนประกอบภายในกลไกมากถึง 137 ชิ้น สำรองพลังงานได้มากถึง 4 วัน มาพร้อมกลไกวงล้อสมดุลที่ช่วยให้การบอกเวลาเที่ยงตรงแม่นยำมากขึ้นอีกระดับ นอกจากนี้ยังวัดระดับกันน้ำได้ลึก 30 เมตร ปิดท้ายด้วยรายละเอียดของสายหนังจระเข้สีขาวนวล ตัวล็อกวัสดุโรสโกลด์ 18k ประดับด้วย แซปไฟร์สี ทับทิบ และซาโวไรท์ เจียระไนทรงบาเกตต์ เข้ากับตัวเรือน ด้วยขนาดหน้าปัด 31 มิลลิเมตรและมิติความงดงามเลิศหรูทั้งหมดนี้ จึงทำให้นาฬิกาเรือนพิเศษจากแฟรงก์ มูลเลอร์เรือนนี้เหมาะสำหรับผู้หญิงที่หลงใหลในความงามของทั้ง 2 โลกอย่างแท้จริง

1 / 9



2 / 9



3 / 9



4 / 9



5 / 9



6 / 9



7 / 9



8 / 9



9 / 9



 

ภาพ: Courtesy of Franck Muller



WATCH




WATCH

TAGS : FranckMuller