bulgari-serpenti-secret-watches-octo-finissimo-collection-black-laquered-carbon
WATCHES & JEWELLERY

เปิดไอเดียของขวัญส่งท้ายปีจาก Bulgari กับสองนาฬิกาข้อมือโทนสีดำและทองคำชมพูที่เหมาะกับการสวมคู่กัน

ถึงแม้จะไม่ได้ถูกปล่อยมาเป็นคอลเล็กชั่นเดียวกันแต่ก็ปฏิเสธไม่ได้ว่าเรือนเวลา 'Serpenti Secret Watch' และ 'Octo Finissimo’ สองดีไซน์นี้เหมาะที่จะนำมาสวมคู่กับคนพิเศษ

การสวมไอเท็มคู่กับคนรักหรือคนสำคัญในชีวิตเป็นหนึ่งในกิมมิกแสนหวานที่ไร้ขอบเขตแห่งกาลเวลา เพราะไม่ว่าเทรนด์จะผันเปลี่ยนไปในทิศทางใดสิ่งของที่เราเลือกสรรและไตร่ตรองเพื่อมาเป็นสิ่งของแทนใจให้พกไปได้ทุกที่ยังสามารถคงคุณค่าไว้ได้ตลอดกาล และในช่วงเทศกาลส่งท้ายปีนี้คู่รักหลายคนอาจจะกำลังมองหาของขวัญสุดพิเศษชิ้นใหม่ที่สามารถสะท้อนถึงความแน่นแฟ้นในฐานะคู่รักที่บ่งบอกได้ว่าเป็นไอเท็มคู่กัน โดยไม่จำเป็นต้องแมตช์ดีไซน์ในทุกดีเทลหรือแค่เปลี่ยนโทนสี ดังนั้นไอเดียการสวมนาฬิกาจากต่างคอลเล็กชั่นทว่ากลับมีดีไซน์หรือโทนสีเข้ากันได้อย่างแยบยลคือทิปส์ที่น่าสนใจ เช่นนาฬิกาข้อมือสองเรือนนี้จากแบรนด์จิวเวลรีเก่าแก่สัญชาติอิตาเลียน Bulgari อย่างผลงานรุ่น Serpenti Secret Watch และ Octo Finissimo ที่ใช้วัสดุต่างกันในโทนสีดำและลิงก์ด้วยดีเทลทองคำชมพู มาดูกันว่าเรือนเวลาทั้งสองนี้มีความล้ำลึกสมแก่การลงทุนอย่างไร

เริิ่มด้วยผลงานที่เป็นขวัญใจในหมู่สุภาพสตรีมาตั้งแต่ช่วงปี 1950s อย่างเรือนเวลาสไตล์ Secret Watch หรือนาฬิกาข้อมือซ่อนรูปจากคอลเล็กชั่น Bulgari Serpenti ในรูปแบบจิวเวลรีชั้นสูงที่มีชื่อว่า Serpenti Misteriosi Secret Watch กับการคงดีไซน์สายกำไลข้อมือจิวเวลรีที่ใช้เทคนิคการรังสรรค์ตัวเรือนแบบ Tubogus หรือแบบปล่องที่สามารถยืดหยุ่นได้ ทว่าเพิ่มความตระการตาด้วยการประดับเพชรทรงมาคีส์และชิ้นส่วนแลกเกอร์ในโทนสีดำลายสไตรป์ที่แลดูต่างออกไปจากคอลเล็กชั่นอื่นๆ พร้อมเสริมความเฟมินีนให้กับนาฬิกาแสนน่าเกรงขามด้วยหน้าปัดเปลือกหอยมุกที่ใช้เพชรทรงกลมเป็นหน่วยบอกเวลาแทนเลขทั้ง 12 และสะกดทุกสายตาด้วยนัยน์ตาฝังมรกตทรงลูกแพร์ตามฉบับบุลการี

โดยผลงานที่เหมาะจะสวมคู่กันคือนาฬิกาข้อมือของฝั่งสุภาพบุรุษจากคอลเล็กชั่น Octo Finissimo ที่เคยถูกจารึกบนหน้าประวัติศาสตร์โลกว่าเป็นนาฬิกาข้อมือที่ตัวเรือนบางที่สุดด้วยความบางเพียง 6.90 มิลลิเมตร ในรุ่น CarbonGold Automatic Watch กับเรือนเวลาที่ขับเคลื่อนด้วยกลไกแบบออโตเมติกคาลิเบอร์ BVL 138 ที่สามารถสวมดำน้ำลึกได้ถึง 100 เมตร ซึ่งตัวเรือน สาย และหน้าปัดรูปทรงแปดเหลี่ยมอันเป็นเอกลักษณ์นั้นรังสรรค์ด้วยคาร์บอนสีดำลวดลายแลดูคล้ายหินอ่อนแบบพรีเมียม พร้อมเพิ่มความโดดเด่นด้วยดีเทลหน่วยบอกเวลาและเข็มรูปทรงดาบในวัสดุทองคำชมพู ซึ่งด้วยดีไซน์ที่แลดูมีความละเอียดอ่อนทว่ายังคงความน่าเกรงขามอันสง่างามไว้ได้ จึงทำให้นาฬิกาสองเรือนที่แตกต่างกันนี้เหมาะที่จะนำมาสวมคู่กันได้อย่างลงตัว



WATCH




ภาพ : Courtesy of Bulgari

WATCH