เปิดประวัติตำนานเข็มกลัด 6 สไตล์ที่กลับมาทวงบัลลังก์ความนิยมโลกจิวเวลรี (Part 1)

เปิดตำนานเข็มกลัดหลายสไตล์ที่กลับมาทวงบัลลังก์ความนิยมในอุตสาหกรรมจิวเวลรีและแฟชั่น กับผลงานที่สร้างความโดดเด่นและยกระดับความอลังการให้กับลุคสุดไอคอนิกมากมายในตลอดช่วงปีที่ผ่านมา ไม่ว่าจะเป็นลุคพรมแดงตามงานประกาศรางวัล หรืองานฉายภาพยนตร์รอบปฐมทัศน์ของเหล่านักแสดง ไปจนถึงลุคสวมแสดงคอนเสิร์ตบนเวทีระดับโลกของศิลปินทั้งหญิงและชาย ก็สามารถบ่งบอกถึงรสนิยมการแต่งตัวและความเป็นตัวตนอันเด่นชัดได้อย่างมีชั้นเชิง ซึ่งเข็มกลัดนั้นถูกนำมาประดับชุดกันตั้งแต่เมื่อร้อยปีก่อน และดีไซน์ผลงานแต่ละชิ้นนั้นแฝงความหมายและเรื่องราวไว้มากกว่าแค่สร้างอัตลักษณ์ โว้กชวนมาเจาะลึกและถอดรหัสของเข็มกลัดแต่ละสไตล์กับซีรี่ส์ #TheRebirthofBrooches

Ode to Nature

จุดประสงค์แรกของเข็มกลัดในยุคสัมฤทธิ์หรือ ‘The Bronze Age’ คือการนำมากลัดเสื้อคลุมให้อยู่บนตัวในช่วงฤดูหนาว เริ่มจากดีไซน์เรียบง่ายอย่างลายเส้นวงกลมที่รังสรรค์โดยฝีมือช่างทำทองแดงในยุคโบราณ และเมื่อเวลาผ่านไปความงดงามของธรรมชาติก็ได้มาเป็นแรงบันดาลใจในการสร้างสรรค์เข็มกลัดรูปพรรณไม้และสัตว์หลายสายพันธุ์ รวมถึงเข็มกลัดดีไซน์ดาวและดาวเคราะห์ที่เป็นจินตนาการจากการมองท้องฟ้าก่อนจะมีนวัตกรรมวิทยาศาสตร์ โดยเน้นความสวยงามคู่ไปกับการใช้งาน ซึ่งในปัจจุบันผลงานเหล่านี้ยังคงเป็นที่นิยมในหมู่แบรนด์ต่างๆ พร้อมออกมาให้สะสมกันทุกปี เช่นผลงานคอลเล็กชั่น Lucky Animal จาก Van Cleef & Arpels หรือผลงานโมทีฟดาวต่างๆ ของ CHANEL

Royal Roots

ถ้าให้กล่าวถึงเข็มกลัดชิ้นตระการตา เป็นไปไม่ได้ที่จะไม่กล่าวถึงสมบัติของเหล่าราชวงศ์ เริ่มจากเหล่าสังคมชั้นสูงที่ใช้เข็มกลัดเป็นเครื่องบอกสถานะทางชนชั้น ด้วยดีไซน์รูปทรงลายเส้นจากงานศิลปะจากยุคนั้นๆ ที่สื่อถึงความหรูหรามั่งคั่ง ซึ่งเป็นคนกลุ่มแรกที่นำทองคำและอัญมณีเลอค่าระดับตำนานที่หาดูได้ยากมาสร้างสรรค์ แน่นอนว่ามรกดตกทอดจากราชวงศ์สามารถเห็นได้ประจำในลุคของสมเด็จพระราชินีนาถเอลิซาเบธที่ 2 แห่งสหราชอาณาจักร เช่นเข็มกลัดเพชรอันโด่งดังที่ประกอบด้วยเพชรคัลลินันลำดับที่ 3 และ 4 น้ำหนักรวมกว่า 150 กะรัต และ Albert Brooch เข็มแซปไฟร์ซีลอนสีน้ำเงิน 12 กะรัต ล้อมด้วยเพชรอีก 14 เม็ด หรือว่า The Crown Ruby Brooch จากช่วงปี 1920 ที่แมตช์เข้ากับสร้อยคอและต่างหูในโมทีฟเดียวกัน ซึ่งผลงานเหล่านี้กลายเป็นบ่อเกิดแห่งแรงบันดาลใจให้กับคอลเล็กชั่นจิวเวลรีชั้นสูงอีกมากมายจนถึงทุกวันนี้

Classical Composure

เนื่องจากกระแสความนิยมของเข็มกลัดประดับอัญมณีเม็ดโตระดับตำนานของเหล่าราชวงศ์ กลุ่มขุนนางชั้นสูงไปจนถึงเหล่าสามัญชนทั่วไปที่ชื่นชอบจิวเวลรีจึงได้นำอัญมณีและวัสดุทนทานต่างๆ มาสร้างสรรค์เป็นเข็มกลัดดีไซน์เรียบง่ายสไตล์ Naturalism ที่ช่วยยกระดับความสวยงามในการแต่งกายสำหรับวาระพิเศษ ไม่ว่าจะเป็น เข็มกลัดรูปทรงช่อดอกไม้ ขนนก แมลง หรือริบบิ้น ก็สามารถนำมาสไตลิ่งเข้ากับการแต่งตัวในช่วงสมัยปลายศตวรรษที่ 18-19 ได้อย่างสง่างาม ซึ่งเข็มกลัดสไตล์นี้ยังคงได้รับความนิยมอย่างต่อเนื่องจนถึงปัจจุบัน ทั้งสำหรับงานเลี้ยงสังสรรค์หรือเป็นลุคสวมทำงานก็เหมาะ นับว่าเป็นไอเท็มที่ต้องมีอยู่ในคลังจิวเวลรีแฟชั่นนิสต้าทุกคน