พาย้อนเวลาไปเจาะลึกประวัติและที่มาของเทรนด์จิวเวลรีแต่ละยุคในช่วงกว่าหนึ่งศตวรรษที่ผ่านมาจนถึงปัจจุบันกับ Bijoux Over The Century เพราะหลักฐานสำคัญที่ทำให้เราสามารถค้นพบร่องรอยทางประวัติศาสตร์ไม่ได้มีเพียงแค่ในรูปแบบศิลาจารึก ภาพเขียนสีตามฝาผนัง ประติมากรรมรูปปั้น จิตรกรรมภาพวาด คัมภีร์ สมุดบันทึก หรือภาพถ่ายเพียงเท่านั้น เครื่องประดับอัญมณีหรือจิวเวลรีก็สามารถสะท้อนเรื่องราวในอดีตได้อย่างแจ่มชัดโดยไม่ต้องอาศัยตัวอักษรหรือภาพเขียน นอกจากนี้จิวเวลรียังเป็นเหมือนดัชนีบ่งชี้สถานการณ์ทางเศรษฐกิจในช่วงเวลาร่วมสมัยอีกด้วย รวมถึงดีไซน์อันงดงามที่บ่งบอกถึงวัฒนธรรม บรรทัดฐานความงาม และกระแสนิยมในสังคมแต่ละยุค ซึ่งรูปแบบและสไตล์ของจิวเวลรีมักจะเติบโตและเปลี่ยนแปลงแทบจะทุกๆ สิบปี มาดูกันว่าผลงานจากอดีตจะมีอิทธิพลต่อจิวเวลรีในปัจจุบันและทิศทางในอนาคตอย่างไร

1 / 2

2 / 2

Big Dream on Display (1950s-1960s): หลังจากช่วงสงครามผ่านไป โลกบันเทิงและแฟชั่นก็กลับมามีชีวิตชีวาอีกครั้ง เหล่าศิลปินในช่วงยุค 1950s ต่างกอบโกยรายได้กันไปอย่างมหาศาล โดยเฉพาะนักแสดงฮอลลีวู้ดระดับตำนานล้วนวัดความสำเร็จด้วยความอลังการของอัญมณีที่สวมใส่ ไม่ว่าจะบนจอภาพยนตร์หรือภาพถ่ายในชีวิตประจำวัน ทำให้แบรนด์จิวเวลรีต่างสร้างสรรค์ผลงานชิ้นใหญ่สะดุดตา เช่น Bulgari อันเป็นที่นิยมในหมู่ดาราเช่น Elizabeth Taylor และ JoanCollins กับผลงานมรกตเม็ดโตของเอลิซาเบธที่เป็นของหมั้นหมายในวันแต่งงานกับ Richard Burton ไปจนถึงผลงานอันโด่งดังจากยุค 1960s อย่างเข็มกลัดเพชนสีเหลืองจาก Tiffany & Co. ที่ Audrey Hepburn สวมในงานรอบปฐมทัศน์ภาพยนตร์เรื่อง Breakfast at Tiffany’s ทำให้ดีไซน์จิวเวลรีของ Jean Schlumberger อันโดดเด่นด้วยสีสันกลายเป็นเทรนด์แห่งยุค

สามารถติดตามอ่านประวัติเทรนด์จิวเวลรีในยุคอื่นๆ ตั้งแต่ช่วงยุค 1910s จนถึงถึง 2010s และปัจุบันได้ต่อที่ Vogue.co.th โดยค้นหาคำว่า Bijoux Over The Century

กราฟิก: จินาภา ฟองกษีร

เรื่องและเรียบเรียง: คอลิน ณ ตะกั่วทุ่ง