WATCHES & JEWELLERY
เปิดเบื้องหลังและความหมายของวัสดุแต่ละผลงานจากคอลเล็กชั่น ‘Alhambra’ ของ Van Cleef & Arpelsชมเบื้องหลังการสร้างสรรค์ผลงานจิวเวลรีทรงดอกไม้สี่กลีบสุดไอคอนิกของ ‘แวน คลีฟ แอนด์ อาร์เปลส์’ พร้อมเผยความหมายและที่มาของวัสดุหายากจากธรรมชาติกว่า 10 ชนิด |
เผยเบื้องหลังการสร้างสรรค์คอลเล็กชั่น ‘Alhambra’ จาก Van Cleef & Arpels กับดีไซน์ทรงดอกไม้สี่กลีบอันเป็นเอกลักษณ์ของแบรนด์จิวเวลรีสัญชาติฝรั่งเศสที่มีความงามของธรรมชาติเป็นบ่อเกิดแห่งแรงบันดาลใจมาตลอด รวมถึงการนำของขวัญจากธรรมชาติอย่าง เปลือกหอยมุก เทอร์คอยซ์ โอนิกซ์ คาร์นีเลียน คาลซีโดนี มาลาไคต์ เลตเตอร์วูด และเพชร มารังสรรค์เป็นผลงานสุดประณีต
1 / 2
2 / 2
นอกจากความหายากและสีสันอันสวยงาม วัสดุแต่ละชนิดยังมีเรื่องราวและความหมายที่แตกต่างกันเป็นการเพิ่มความสนุกสนานในการเลือกสะสมรวมถึงการบ่งบอกความเป็นเอกลักษณ์ของผู้สวมใส่ ซึ่งแต่ละชิ้นต้องอาศัยความเชี่ยวชาญในด้านหัตถศิลป์แบบเฉพาะตัวของแวน คลีฟ แอนด์ อาเปลส์ ตั้งแต่การวางแบบ การตัดวัสดุ การขัดเงา และการฝังเซ็ตติ้ง ออกมาเป็นจิวเวลรีหลายรูปแบบ
WATCH
ภาพเบื้องหลังการรังสรรค์ผลงานคอลเล็กชั่น 'Alhambra' จาก Van Cleef & Arpels
1 / 10
Letterwood
เนื้อไม้จากลายงูจากต้นไม้ตระกูลหม่อนจากทวีปอเมริกาใต้ เป็นไม้เนื้อแข็งหายากกับสีและลายที่แปลกตา เป็นเครื่องรางแห่งไม้ศักดิ์สิทธิ์ในเครื่องรางความแห่งความโชคดีของชาวอเมริกันอันเดียน และยังมาจากสำนวนคำว่า 'Touch Wood' กับการเคาะไม้เพื่อแก้สิ่งอัปมงคลของชาวไอริชอีกด้วย
2 / 10
Chalcedony
หินตระกูลควอตซ์สีฟ้าอมเทาจากนามิเบีย ที่ได้ชื่อมาจากภาษากรีก 'Khalkedon' เป็นชื่อเมืองฝั่งตรงข้ามอาณาจักรบาเซนไทน์ เป็นเครื่องรางในเรื่องความสามัคคีและความสงบสุข ซึ่งในสมัยศตวรรษที่ 17 ทนายความและนักพูดได้พกหินชนิดนี้เพื่อเสริมในด้านการพูดให้วาจาคล่องปาก
3 / 10
Carnelian
หินชนิดแรกที่นำมาสร้างสรรค์เป็นอัญมณีตั้งแต่ก่อนสมัยกรีกโบราณ โดดเด่นด้วยสีแดงอมส้ม เป็นเครื่องรางที่ช่วยนำวิญญาณไปสู่ที่ปลอดภัยในโลกหลังความตายของชาวอียิปต์ และยังเป็นสีแห่งความรื่นเริงและความสุข โดยแวน คลีฟ แอนด์ อาเปลส์เลือกใช้คาร์เนเลียนสีเข้มจากบราซิลเท่านั้น
4 / 10
Diamond
เพชรเป็นอัญมณียอดนิยม กับความหมายของการเป็นอมตะ มีความแข็งแกร่ง บริสุทธิ์ เป็นสัญลักษณ์ที่ป้องกันอันตรายและตัวแทนของความรักอันยั่งยืน ซึ่งแวน คลีฟ แอนด์ อาร์เปลส์ เลือกคัดสรรเพชรสีใสเกรด D, E และ F ในระดับความใส IF, VVSI และ VVS2 ในการรังสรรค์จิวเวลรีเท่านั้น
5 / 10
Lapis Lazuli
หินสีน้ำเงินเข้ม ด้วยสีที่เหมือนท้องฟ้ายามค่ำคืนที่ประดับด้วยดาว ชาวอียิปต์จึงนำมาสลักเป็นรูปสัตว์เพื่อบรรจุของมีค่าไปสู่โลกหน้า และเหล่าราชวงศ์อียิปต์นิยมนำลาปิซ ลาซูลีนำมาประดับของใช้สำหรับราชวงศ์เท่านั้น ซึ่งถูกคัดสรรมาจากเหมืองแร่ในอัฟกานิสถานเท่านั้นด้วยมิติและลายสีที่ลึกและมีความวาวแววกว่าแหล่งอื่นๆ
6 / 10
Malachite
หินทึบกับลวดลายริ้วในเฉดสีเขียวเป็นหนึ่งในหินหายากที่สามารถพบได้ในออสเตรเลีย เป็นหินที่นิยมนำมาประดับโบสถ์และพระราชวังเพื่อความหรูหรา และยังเป็นเครืื่องรางสำหรับการเดินทางและคุ้มครองเด็กอีกด้วย
7 / 10
Mother of Pearl
เปลือกหอยมุกหรือ Mother-of-pearl เป็นหนึ่งในวัสดุที่เมซงนิยมนำมาสร้างสรรค์เป็นผลงานให้กับแบรนด์ ด้วยสีขาวแวววาวที่เลื่อมเป็นสีรุ้ง และต้องอาศัยความชำนาญในการนำมาทำเป็นรูปทรงต่างๆ สำหรับจิวเวลรีชั้นสูง สื่อถึงความอ่อนโยนและเกราะป้องกัน ถึงแม้จะดูบอบบางแต่แท้จริงแล้วเต็มไปด้วยความแข็งแรง
8 / 10
Tiger's Eye
หินตาเสือหรือเรียกอีกชื่อว่า 'Chatoyant' สีน้ำตาลปนเหลืองแวววาวเหมือนเล่นไฟชวนให้นึกถึงตาเสือและตาแมว ซึ่งนักรบสมัยโรมันนิยมสวมเป็นเครื่องรางระหว่างการออกรบ และยังมีความเชื่อว่าผู้ที่พกหินตาเสือไว้จะสามารถล่วงรู้ได้ทุกสิ่ง ซึ่งทางแบรนด์จะคัดสรรมาจากออสเตรเลียและแอฟริกาใต้เท่านั้น
9 / 10
Onyx
ตามตำนานของเทพกรีก เทพอีรอสบังเอิญตัดปลายเล็บของเทพวีนัสด้วยลูกศรในขณะที่เธอหลับ ด้วยความเป็นอมตะของเทพวีนัสเล็บของเธอจึงกลายเป็นหินโอนิกซ์ ทำให้เป็นหินที่มีค่ามาตั้งแต่สมัยโบราณ เนื่องจากเป็นหินสีดำที่มีความแวววาว จึงถูกนำมาเพิ่มมิติและความโดดเด่นให้กับจิวเวลรี
10 / 10
Turquoise
หินเทอร์คอยซ์หรือหินนกการเวกได้รับการยกย่องให้เป็นอัญมณีมานานหลายพันปี ด้วยสีฟ้าสดที่สื่อถึงท้องฟ้าและทะเลในแสงอาทิตย์ แสดงถึงความเจริญรุ่งเรืองของชาวอียิปต์และยังนำมาเป็นเครื่องรางป้องกันสิ่งชั่วร้าย และชาวยุโรปยังยกให้เป็นเครื่องรางแห่งรักและมิตรภาพเนื่องจากมีสีที่คล้ายเคียงกันกับดอก Forget Me Not หรือ 'อย่าลืมฉัน'
WATCH