เบื้องหลังการพลิกโฉมครั้งสำคัญของ Swarovski และแนวความคิดสร้างสรรค์ผ่านบทสัมภาษณ์กับ Lars Schmidt
'Lars Schmidt' กรรมการผู้จัดการฝั่งเอเชียตะวันออกเฉียงใต้และประเทศอินเดียของ Swarovski เล่าถึงเรื่องราวแรงบันดาลใจและมุมมองใหม่ของแบรนด์คริสตัลระดับโลกกับเส้นทางการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ในช่วงหลายปีที่ผ่านมา รวมถึงแชร์ความนิยมของจิวเวลรีสไตล์ที่ต่างกันออกไปของแฟนๆ ในแต่ละประเทศตามแถบทวีปเอเชีย
ในตลอดช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมา ความนิยมของผลงานจิวเวลรีจากแบรนด์คริสตัลระดับตำนาน Swarovski นั้นได้กลับมาทวงบัลลังก์ครั้งยิ่งใหญ่ในทั้งอุตสาหกรรมแฟชั่น อุตสาหกรรมบันเทิง ไปจนถึงอุตสาหกรรมดนตรี ด้วยการได้ปรากฏอยู่บนพรมแดงและเวทีการแสดงระดับโลกมากมายผ่านลุคแฟชั่นของเหล่านักแสดงและศิลปินมากมาย ไม่ว่าจะเป็นลุคสร้อยคอคริสตัลที่ Jennifer Lawrence สวมเข้ากับชุดเดรสโอตกูตูร์จาก Dior เพื่อไปร่วมงานประกาศรางวัลออสการ์ที่ผ่านมา และลุคสร้อยคอโชกเกอร์สีชมพูที่ Olivia Rodigo สวมขณะขึ้นรับรางวัลจากเวที Grammy Awards เมื่อปี 2020 หรือจะเป็นงานปักคริสตัลสวารอฟกี้สุดตระการตาบนชุดของ Usher บนเวทีการแสดง Halftime Show Super Bowl ประจำปี 2024 ไปจนถึงการร่วมคอแลบอเรชั่นสร้างสรรค์คอลเล็กชั่นจิวเวลรีและชุดเชปแวร์กับแบรนด์ของ Kim Kardashian อย่าง Swarovski X Skims ซึ่งความสำเร็จเหล่านี้เกิดขึ้นจากการพลิกโฉมแบรนด์และการปรับแนวความคิดสร้างสรรค์ภายใต้การดูแลของครีเอทีฟไดเร็กเตอร์คนล่าสุด 'Giovanni Engelbert' ที่หลายคนอาจจะเริ่มสัมผัสถึงความเปลี่ยนแปลงจากแคมเปญส่งท้ายปี 2022 ที่ได้นางแบบ Bella Hadid มาร่วมนำเสนอไดเร็กชั่นใหม่ด้วยลุคจิวเวลรีคริสตัลหลากสีสันที่ต่างออกไปจากเดิม
โดยครั้งนี้โว้กประเทศไทยได้มีโอกาสนั่งคุยกับกรรมการผู้จัดการคนสำคัญของสวารอฟกี้ในฝั่งเอเชียตะวันออกเฉียงใต้และประเทศอินเดียอย่าง Lars Schmidt แบบเอ็กซ์คลูซีฟถึงมุมมองการตลาดและความคิดสร้างสรรค์บทใหม่ของแบรนด์ภายใต้คอนเซปต์ Wonder Luxe กับการมอบประสบการณ์ความมหัศจรรย์ให้กับแฟนๆ ของสวารอฟกี้ด้วยการปรับรูปโฉมบูติกที่ตั้งอยู่ทั่วแถบเอเชียตะวันออกเฉียงใต้และอินเดียมากกว่า 160 สาขา พร้อมขยายอาณาเขตเพื่อเผยเสน่ห์ผลงานจากแบรนด์คริสตัลที่มีมานานกว่า 120 ปีได้อย่างทั่วถึง ทั้งยังเผยเทรนด์จิวเวลรียอดนิยมที่แตกต่างกันออกไปตามเมืองต่างๆ อีกด้วย มาฟังเรื่องราวน่าสนใจครั้งนี้จากปากบทสัมภาษณ์ของลารส์กัน
1 / 3
2 / 3
3 / 3
เป้าหมายสำคัญในการพลิกโฉมแบรนด์และปรัชญาของ Swarovski
"สวารอฟกี้เริ่มเห็นการเปลี่ยนแปลงในด้านวัฒนธรรมทั่วโลกในช่วงหลายปีที่ผ่านมา จึงเป็นการเปิดไอเดียในการแต่่งเติมแบรนด์และบูติกด้วยสีสัน เราจึงเริ่มต้นด้วยโปรเจกต์ Instant Wonders กับการปรับโฉมบูติกตามหัวเมืองหลักในประเทศต่างๆ ทั่วโลกด้วยเป้าหมายที่อยากจะมอบประสบการณ์แบบ 'Joyful Extravagant Experience' หรือประสบการณ์ที่เต็มไปด้วยความสุขใจและความอลังการ...โดยรวมแล้วเราอยากจะวางตำแหน่งให้สวารอฟสกี้เป็นหนึ่งในผู้นำด้านแฟชั่นจิวเวลรีในอุตสาหกรรม และวิวัฒนาการที่เห็นกันนั้นมาจากกลยุทธ์ Lux Ignite กับการจุดกระแสความลักชัวรีด้วยบูติก ดีไซน์ของผลงานให้มีสีสันเด่นชัดเพื่อสร้างสเตตเมนต์ให้กับผู้สวมจิวเวลรีรุ่นใหม่ แบรนด์นี้มีมานานกว่า 128 ปี ดังนั้นเราเล็งเห็นว่ามันถึงเวลาแล้วสำหรับการเปลี่ยนแปลงครั้งใหม่ภายใต้การดูแลของครีเอทีฟไดเร็กเตอร์ 'Giovanni Engelbert' กับการให้ความต้องการของลูกค้านั้นเป็นแรงบันดาลใจในการสร้างสรรค์ผลงาน ทว่ายังคงผลงานดั้งเดิมที่เป็นเสมือนมรดกของแบรนด์เช่น คริสตัลประดับบ้านดีไซน์ต่างๆ ที่หมั่นจับมือทำการคอแลบอเรชั่นร่วมกับแบรนด์และแฟรนไชส์ต่างๆ อยู่เสมอ"
WATCH
เบื้องหลังวิธีการรังสรรค์ผลงานทุกคอลเล็กชั่นที่ส่งให้ Swarovski เป็นผู้นำในโลกแห่งคริสตัล
"เรามองตัวเองว่าเป็นมาสเตอร์ในโลกแห่งคริสตัล ถ้าคุณลองถามผู้คนทั่วไปบนถนนว่านึกถึงอะไรเมื่อเอ่ยคำว่าคริสตัล ผมมั่นใจว่ามากกว่า 90 ถึง 95 เปอร์เซ็นต์ต้องตอบว่านึกถึงสวารอฟสกี้ เพราะเราเป็นผู้นำและผู้เชี่ยวชาญด้านนี้มานานกว่า 128 ปี ทั้งประสบการณ์และมรดกที่แบรนด์สั่งสมมาทำให้เราสามารถมอบผลงานคุณภาพสูงที่มาคู่กับความคิดสร้างสรรค์ แน่นอนว่าหัวใจของผลงานทุกชิ้นมาจากแหล่งต้นกำเนิด โดยเรารังสรรค์และเจียระไนคริสตัลในประเทศออสเตรีย ก่อนจะส่งไปยังหลายเมืองทั่วโลกเพื่อขั้นตอนการรังสรรค์ต่อไป เช่นการฝังคริสตัลหรือการขึ้นตัวเรือน และประเทศไทยก็เป็นประเทศที่มีประวัติและความสัมพันธ์ยาวนานกับแบรนด์ นับว่าเป็นแหล่งสร้างสรรค์ผลงานท่ี่สำคัญให้กับสวารอฟสกี้เลยก็ว่าได้ ก่อนจะส่งผลงานที่เสร็จสมบูรณ์ไปยังประเทศอื่นๆ "
ตลาดและเทรนด์จิวเวลรีของ Swarovski ที่ได้รับความนิยมแตกต่างกันออกไปในแต่ละประเทศในแถบทวีปเอเชีย
"ผลงานแต่ละดีไซน์ก็จะได้รับความสนใจที่แตกต่างกันออกไปในแต่ละเมืองอย่างแน่นอน เนื่องจากรากฐานวัฒนธรรมที่มีเอกลักษณ์อย่างเด่นชัด เริ่มด้วยประเทศไทยที่ชื่นชอบผลงานคอลเล็กชั่นไอคอนิกของแบรนด์กับดีไซน์รูปทรงสัตว์ประจำแบรนด์อย่างหงส์ รวมถึงนาฬิกาข้อมือในโทนสีทองคำกุหลาบ ในขณะที่จิวเวลรีในโทนสีเงินจะได้รับความนิยมเป็นพิเศษในประเทศสิงคโปร์ และจิวเวลรีชิ้นใหญ่ สีสันจัดจ้าน ที่พร้อมสร้างสเตตเมนต์จะเป็นที่ชื่นชอบในหมู่สาวกจิวเวลรีในประเทศอินเดีย ซึ่งเราเรียนรู้จากเสียงตอบรับจากลูกค้าแต่ละสถานที่ เพื่อนำมาประกอบการสร้างสรรค์ผลงานคอลเล็กชั่นใหม่ และการปล่อยผลงานตามเทศกาลและอีเวนต์ต่างๆ ในแต่ละเมืองอีกด้วย"
ความประทับใจเมื่อเห็นผู้คนสวมจิวเวลรีของ Swarovski ตามท้องถนนทั่วไปในชีวิตประจำวัน
"ผมรู้สึกภูมิใจทุกครั้งเมื่อเห็นผู้คนสวมใส่จิวเวลรีจากสวารอฟสกี้ โดยเฉพาะเมื่อคนนำมาสไตลิ่งให้มีลุคที่โดดเด่นไม่เหมือนใคร เราอยากให้คนแสดงถึงตัวตนที่ชัดเจนและความมีเอกลักษณ์ของตัวเอง ผลงานของเรานั้นมีความส่องแสงระยิบระยับและสีสันที่เห็นได้ตั้งแต่ระยะไกล ดังนั้นมันจึงสามารถเสริมสร้างความมั่นใจให้กับลุคต่างๆ ได้ ทำให้เกิดการวางตัวและบุคลิกที่มั่นใจขึ้น"
นิยามของคำว่า "ลักชัวรี" ในมุมมองของ Swarovski
"คำว่าผลงานลักชัวรีอาจจะไม่จำเป็นต้องถูกแบ่งด้วยเรื่องของราคาเสมอไป ทว่ามันคือการมอบประสบการณ์และคุณภาพยอดเยี่ยม รวมถึงการเติมเต็มความฝันแฟนตาซีและมอบความรู้สึกขณะที่กำลังสวมใส่หรือประดับไว้ในบ้าน ถ้าเราสามารถสร้างความมั่นใจและความภาคภูมิใจให้กับแฟนๆ ที่ชื่นชอบสวารอฟสกี้ได้ นั่นหมายความว่าเราได้เป็นส่วนหนึ่งในการทำให้ฝันเป็นจริงได้ และด้วยมรดกด้านดีไซน์และฝีมือการรังสรรค์ผลงานคริสตัลที่สั่งสมมานาน จึงทำให้เราเป็นแบรนด์เดียวในโลกที่จะสามารถมอบคุณภาพ รายละเอียด และเซ็ตติ้งที่มาพร้อมกับดีไซน์ต้องอาศัยความชำนาญของช่างฝีมือในการทำ ในเรนจ์ราคาระดับที่เราตั้งไว้ และองค์ประกอบเหล่านี้ล่ะจึงเราทำให้สวารอฟสกี้ไม่เหมือนใคร "
1 / 2
2 / 2
ภาพ : Courtesy of Swarovski
WATCH