เปิดตำรา ‘Grillz’ เครื่องประดับฟันกับประวัติยาวนานกว่า 2,500 ปี
เครื่องประดับฟันที่ถูกชุบชีวิตจากยุคโบราณจนกลายมาเป็นที่นิยมในหมู่เซเลบริตี้ในปัจจุบัน อย่างเช่น Nelly, Beyoncé, Lil Wayne, Rihanna จนถึง Katy Perry แต่ใครกันแน่ที่เป็นผู้ริเริ่มกริลซ์ และใครคือเจ้าของกริลซ์ราคาแพงที่สุดในโลก
เป็นกระแสฮือฮาอย่างมากในช่วงนี้ กับการขอแต่งงานด้วย ‘Grillz’ ของนักร้องสาว Rihanna และแฟนหนุ่ม A$AP Rocky ผ่านมิวสิกวิดีโอเพลง ‘D.M.B’ (อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่) ซึ่งเป็นการสร้างธรรมเนียมใหม่และเพิ่มบทบาทสำคัญให้กับกริลซ์ หรือเครื่องประดับฟันอันเป็นที่นิยมอย่างมากในหมู่เซเลบริตี้ในปัจจุบัน โดยเฉพาะศิลปินสาย Hip-Hop และ R&B หลายคนอาจคิดว่ามันเป็นนวัตกรรมทางแฟชั่นที่เพิ่งเกิดขึ้นมาไม่นาน บางเสียงอ้างว่ามันเริ่มต้นโดยการคิดค้นของชาวแอฟริกัน-อเมริกันในยุค 80s แต่ในความเป็นจริงแล้วเครื่องประดับฟันนั้นมีประวัติมายาวนานกว่า 2,500 ปีเลยทีเดียว
ย้อนกลับไป 800 ปีก่อนเริ่มยุคคริสต์ศักราชในช่วงยุคของ Etruscan กับการถูกยึดอาณานิคมของประเทศอิตาลีโดยจักรวรรดิโรมัน เครื่องประดับฟันถูกขุดพบเป็นครั้งแรกในกรุงโรมในช่วงปี 1800s ในรูปแบบแผ่นทองชิ้นหนาที่ถูกเจาะติดเอาไว้กับฟันจำนวนกว่า 20 ชิ้น ซึ่งนักโบราณคดีได้วิจัยว่ามันคือเครื่องประดับฟันของเหล่าผู้หญิงชั้นสูงชาว Etruscan เพื่ออวดความมั่งคั่งของพวกเธอโดยการถอนฟันหน้าเพื่อใส่แผ่นทองเข้าไประหว่างฟันซี่อื่น ให้เหนือไปกว่าการประดับด้วยสร้อยคอ กำไล ต่างหูและแหวน และยังเป็นการเฉลิมฉลองความสำเร็จของเพศหญิง ซึ่งก่อนหน้านี้มีบทบาทที่ด้อยกว่ามนุษย์โดยการปกครองของผู้ชายในยุคกรีกและโรมัน
WATCH
1 / 2
เครื่องประดับฟันจากยุค Etruscan ในช่วง 800 ปีก่อนยุคคริสต์ศักราช
2 / 2
เครื่องประดับฟันจากยุค Etruscan ในช่วง 800 ปีก่อนยุคคริสต์ศักราช
นอกจากนี้ยังมีร่องรอยทางประวัติศาสตร์ของเครื่องประดับจากฝั่งเมืองมายันในช่วงยุคเดียวกัน แต่เป็นการฝังหยกรูปวงกลมขนาดรอบวง 3 มิลลิเมตรไว้บนฟัน เพื่อเป็นการเพิ่มความน่าดึงดูดและแบ่งแยกชนชั้นอีกด้วย ในอดีตชาวมายันมีความเชื่อว่าหยกนั้นสื่อถึงความเขียวชอุ่มของป่ารวมถึงความอุดมสมบูรณ์ในด้านการเกษตรซึ่งเป็นอาชีพหลักของเมือง และการนำหยกมาประดับในช่องปากจะนำความโชคดีและผลผลิตมาให้กับพวกเขา แต่วัฒนธรรมนี้ได้สูญหายไปเนื่องจากถูกล่าอาณานิคมของชาวสเปนในยุค 1500s
1 / 2
2 / 2
ก้าวกระโดดมาในยุค 1970s กับการปรากฏตัวอีกครั้งของเครื่องประดับฟันในแหล่งที่อยู่ของชาวผิวสีในเมืองนิวยอร์ก ที่ได้รับแรงบันดาลใจมาจากผู้อพยพชาวจาไมกันและอินเดียนตะวันตก (จากแถบทะเล West Indies ไม่ใช่อินเดียหรืออินเดียแดง) กับการนำทองคำมาอุดฟันผุและปิดช่องฟันเนื่องจากขาดความรู้ทางด้านทันตกรรมและความยากไร้ในถิ่นของพวกเขา ชาวสีผิวเห็นถึงความสวยงามจึงหยิบมาเป็นแฟชั่นที่แปลกใหม่
Slick Rick กับเครื่องประดับฟันที่ทำจากทองคำ
หลังจากนั้นไม่นาน Slick Rick ศิลปินชาวอเมริกันได้นำเทรนด์นี้มาเผยแพร่ในการแสดงเพลง ‘La Di Da di’ รวมถึงศิลปินคนอื่นๆ เช่น Big Daddy Kane และ Kool G Rap ซึ่งเป็นที่นิยมอย่างมากในเหล่าศิลปินและสาวกเพลงแนว Hip-Hop ล้วนแล้วเป็นผลงานของหนึ่งในผู้สร้างสรรค์เครื่องประดับฟันรุ่นบุกเบิกอย่าง Eddie Plein กับไอเดียการนำทองมาสร้างเป็นที่ครอบฟันจนเป็นที่นิยมในเมืองควีนส์และเมืองบรูคลิน
Eddie Plein ผู้สร้างสรรค์เครื่องประดับรุ่นบุกเบิก
ปี 2005 คืออีกหนึ่งจุดเปลี่ยนครั้งสำคัญของ “Grillz’ ซึ่งเป็นชื่อบทเพลงยอดฮิตของศิลปินระดับตำนานอย่าง Nelly ผู้บัญญัติชื่อเรียกนี้ให้กับเครื่องประดับฟันอย่างเป็นทางการร่วมกับหนุ่มแร็ปเปอร์ Paul Wall กับการชักชวนผู้ชำนาญด้านการรังสรรค์จิวเวลรีชาวเวียดนามอย่าง Johnny Dang มาเปิดธุรกิจร้านรับทำกริลซ์ชื่อดังในเมืองควีนส์อีกแห่ง ส่งผลให้กริลซ์มาอยู่ในระดับเมนสตรีมของวัฒนธรรมมากขึ้น
มิวสิกวิดีโอเพลง 'Grillz' ของ Nelly ร่วมกับ Paul Wall, Ali และ Gipp
ในปี 2011 แร็ปเปอร์ชื่อดังอย่าง Lil Wayne ได้ใส่กริลซ์ประดับเพชรราคากว่า 150,000 ดอลลาร์สหรัฐฯ มาอวดในรายการทอร์กโชว์ของ Jimmy Kimmel ซึ่งได้เรียกเสียงฮือฮาอย่างมากในโลกของจิวเวลรีเนื่องจากไม่มีใครเคยลงทุนกับเครื่องประดับฟันขนาดนี้มาก่อน นอกจากนี้ Kanye West หนึ่งในแฟชั่นไอคอนและแร็ปเปอร์ผู้มีอิทธิพลระดับโลกได้กระโดดเข้ามาร่วมเทรนด์การใส่กริลซ์พร้อมอวดโฉมในรายการ The Ellen Show
Grillz ประดับเพชรของ Lil Wayne
Kanye West พูดถึงกริลซ์ของเขาในรายการ The Ellen Show
อย่างไรก็ตามกริลซ์ราคาแพงที่สุดในโลกcและได้ถูกบันทึกลงบน Guiness World Records นั้นตกเป็นของนักร้องสาว Katy Perry ที่เธอสวมในมิวสิกวิดีโอเพลงฮิตอย่าง Dark Horse ในปี 2013 ด้วยราคากว่า 1 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ซึ่งประดับด้วยเพชรเม็ดโต แซฟไฟร์สีน้ำเงินและสีม่วงในรูปดอกไม้ ด้วยฝีมือการออกแบบของ Dr.Dorfman และรังสรรค์โดยการร่วมมือของสองบ้านจิวเวลรีอย่าง DaVinichi Lab และ XVI Karat Jewelers
Katy Perry และกริลซ์ราคากว่า 1 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ของเธอในมิวสิกวิดีโอเพลง Dark Horse
หลังจากนั้นกระแสของกริลซ์ก็ไม่เคยแผ่วลงเลย และยังเป็นที่นิยมในหมู่เซเลบริตี้อีกหลายคนเช่น Beyoncé, Madonna, Miley Cyrus, Kim Kardashian, Kylie Jenner, Travis Scott, Justin Bieber, Cara Delevingne, J Balvin และอีกมากมาย
1 / 9
2 / 9
3 / 9
4 / 9
5 / 9
6 / 9
7 / 9
8 / 9
9 / 9
ข้อมูล : VICE และ HIGHSNOBIETY
ข้อมูลและภาพ : Guinness World Records
ภาพ : Next Smile, NY times และ National Museum Liverpool
WATCH