Vogue Scoop | รวมที่สุดของธีม Met Gala อีเวนต์แฟชั่นระดับโลกที่ทั้งโลกต้องพูดถึง!

     Met Gala คือหนึ่งในปรากฏการณ์ที่คนแฟชั่นทั่วโลกต่างเฝ้าจับตามองในทุกปี โดยงานจะจัดขึ้นในวันจันทร์แรกของเดือนพฤษภาคมที่พิพิธภัณฑ์ศิลปะ The Metropolitan Museum of Art แห่งนิวยอร์ก Met Gala ไม่ได้เป็นเพียงอีเวนต์พรมแดง หากคือการเปิดตัวนิทรรศการประจำปีของ Costume Institute ที่นำเสนอเรื่องราวของแฟชั่นในมุมมองลึกซึ้งและสร้างสรรค์ที่สุด โดยมีธีมหลักในแต่ละปีเป็นแกนกลางที่ชวนให้เหล่าดีไซเนอร์และแขกคนดังตีความออกมาเป็นแฟชั่นโชว์ผ่าน ในแต่ละปีธีมจึงถูกเลือกอย่างพิถีพิถัน โดยทีมภัณฑารักษ์ร่วมกับ Anna Wintour และคณะกรรมการของงานในแต่ละปี ซึ่งหังข้อธีมมักอิงจากประวัติศาสตร์ ศิลปวัฒนธรรม หรือแนวคิดประเด็นทางสังคมและอุตสาหกรรมแฟชั่นในแต่ละช่วงยุคสมัย และในปีีนี้ที่ Met Gala กำลังจะมาถึงก็เช่นกัน โว้กประเทศไทยจึงขอพาย้อนชม 5 ธีมในรอบหลายปีหลังที่ยังคงสร้างแรงบันดาลใจและความทรงจำให้วงการแฟชั่นทั่วโลก ก่อนกลับมาอีกครั้งเร็วๆ นี้

 

 

2018

ธีม Heavenly Bodies: Fashion and the Catholic Imagination หรือแปลให้เข้าใจง่ายว่าธีมแฟชั่นและศาสนานั่นเอง ในปี 2018 เป็นหนึ่งในธีมที่เล่นใหญ่และได้รับการยกย่องมากที่สุดในประวัติศาสตร์ของ Met Gala โดยธีมนี้ชวนสำรวจอิทธิพลของศาสนาคริสต์นิกายโรมันคาทอลิกที่มีต่อโลกแฟชั่น ไม่ว่าจะเป็นการหยิบยืมสัญลักษณ์ศักดิ์สิทธิ์ เช่น รัศมีเทวดา ไม้กางเขน ชุดนักบวช หรือแม้แต่ภาพเขียนไบแซนไทน์มาตีความใหม่อย่างสร้างสรรค์ แต่หากมองลึกลงไป ธีมนี้เป็นการเล่าถึงแรงบันดาลใจที่ซุกซ่อนภายในของเหล่าดีไซเนอร์ชื่อดังที่มักมีความเชื่อและการปลูกฝังทางศาสนาที่อาจส่งผลต่องานสร้างสรรค์มากกว่าที่เราคิด สะท้อนให้เห็นว่าศาสนามีอิทธิพลเพียงใดในวงการแฟชั่น พร้อมให้ผู้คนได้ชมการตีความสุดอลังการ อาทิ Rihanna กับลุคการแต่งกายแบบนักบุญที่ออกแบบโดย Maison Margiela, Katy Perry กับชุดปีกขนนกที่สูงตระหง่านจาก Versace

 

 

2019
ปีที่ Met Gala สร้างสีสันให้เป็นที่จดจำกับธีม Camp: Notes on Fashion ในปี 2019 เปิดพื้นที่ให้แฟชั่นได้เปิดเผยตัวตนที่สนุก ขบถ และความเกินจริง โดยได้รับแรงบันดาลใจจากบทความ 'Notes on Camp' ของ Susan Sontag ในปี 1964 ที่อธิบายคำว่า 'Camp' ว่าเป็นสุนทรียะของความอลังการแบบเกินพอดีโดยความตั้งใจ จึงเกิดเป็นลุคที่เปี่ยมสีสัน สร้างความขำขันแบบประชดประชันและการเล่นกับความงามในรูปแบบใหม่ โดยบนพรมแดงในคืนนั้น Kim Kardashian ปรากฏในลุคชุดน้ำหยดแนบเนื้อจาก Thierry Mugler ขณะที่ Kendall และ Kylie Jenner มาในลุคขนนกสีสันฉูดฉาดดั่งโชว์เกิร์ลจากลาสเวกัส เป็นปีที่แฟชั่นกล้าท้าทายขอบเขตเดิมๆ ได้อย่างสร้างสรรค์

 

 

2021
หลังจากหยุดพักไปหนึ่งปีเพราะการระบาดของโควิด-19 Met Gala กลับมาในปี 2021 พร้อมธีม In America: A Lexicon of Fashion ที่เกิดขึ้นจากคนดังรุ่นใหม่มาเป็นโฮสต์ในงานนี้อย่าง Billie Eilish, Naomi Osaka, Timothée Chalamet และ Amanda Gorman นักรณรงค์ชาวอเมริกัน ทำให้เกิดเป็นธีม 'American Independence' ให้ทุกคนได้ลองมองและตีความอัตลักษณ์ของชาวอเมริกันยุคใหม่ เปิดพื้นที่ให้สำรวจอัตลักษณ์ของแฟชั่นอเมริกันในแง่มุมที่ร่วมสมัยและหลากหลายมากขึ้น ที่ให้ความสำคัญกับ 'Diversity' ความแตกต่างทั้งเชื้อชาติ เพศ และแนวคิด โดยเน้นสื่อสารว่าแฟชั่นไม่ใช่แค่รูปลักษณ์ภายนอก แต่คือเครื่องมือสื่อสารทางวัฒนธรรมและอารมณ์ หนึ่งในลุคที่กลายเป็นภาพจำคือ Rihanna กับโค้ตดำทรงโอเวอร์ไซซ์จาก Balenciaga สะท้อนการตีความแฟชั่นอเมริกันของเธอในฐานะผู้อพยพ ขณะที่ A$AP Rocky สวมผ้าควิลต์ลายแพตช์เวิร์กจาก ERL ซึ่งมีที่มาจากงานฝีมือของครอบครัวอเมริกัน สะท้อนการเชื่อมโยงอดีตกับปัจจุบันอย่างนุ่มลึก

 

 

2022
ธีม In America: An Anthology of Fashion ในปี 2022 ถือเป็นบทต่อเนื่องจากปีก่อนหน้า แต่คราวนี้เปลี่ยนโฟกัสจากความร่วมสมัย มาสู่ภาพจำของแฟชั่นอเมริกันในยุค Gilded Age ที่อู้ฟู่ หรูหรา และฟุ้งฝันยิ่งขึ้น ถือเป็นยุคที่ฟื้นตัวจากโควิดแบบเต็มรูปแบบ ลุคพรมแดงปีนี้จึงเต็มไปด้วยความโอ่อ่าที่ตีความผ่านมุมมองใหม่ ซุปเปอร์โมเดล Gigi Hadid ปรากฏตัวในลุคสุดดราม่าจาก Thom Browne ประกอบด้วยคอร์เซ็ตแดงเบอร์กันดีและโอเวอร์โค้ตพองลมขนาดใหญ่ ขณะที่ Billie Eilish สวมชุดคอร์เซ็ตครีมสไตล์วิกตอเรียนจาก Gucci ที่ใช้วัสดุเหลือใช้เพื่อสะท้อนความย้อนแย้งระหว่างความหรูหราและความยั่งยืน Blake Lively มาในชุดสีทองแดงเมทัลลิกของ Versace พร้อมเปลี่ยนชายกระโปรงเป็นเฉดสีฟ้ากลางพรมแดง เผยชุดที่ได้แรงบันดาลใจมาจากตึก Empire State และเทพีเสรีภาพ ถือเป็นการนำสถาปัตยกรรมมารังสรรค์เป็นชุดได้อย่างสง่างาม เต็มไปด้วยลูกเล่นอันน่าตื่นตา และเป็นกระจกสะท้อนรูปแบบสังคมและค่านิยมที่ดูงดงาม เติมเต็มภาพในจินตนาการ

 

 

2024

แฟชั่นและผลงานอันล้ำค่าคืนชีพอีกครั้ง กับธีม Sleeping Beauties: Reawakening Fashion ธีมแห่งปี 2024 คือการสำรวจความสัมพันธ์ระหว่างแฟชั่นกับกาลเวลา โดยเน้นการปลุกชีวิตให้กับผลงานชั้นสูงที่เปราะบางหรือเสื่อมสภาพเกินกว่าจะสวมใส่ได้อีกครั้ง ชื่อธีม “Sleeping Beauties” เปรียบเสื้อผ้าโบราณเหล่านี้กับเจ้าหญิงนิทรา ที่แม้จะหลับใหลอยู่ในความทรงจำ แต่ยังคงงดงามและเปี่ยมไปด้วยเรื่องราวที่รอการปลุกขึ้นมาใหม่ บนพรมแดง Jennifer Lopez มาในลุคจาก Schiaparelli โอตกูตูร์ เดรสสีเงินเมทัลลิกประดับดอกไม้ระยิบระยับ ราวกับหยดน้ำค้างที่เกาะอยู่บนผ้าไหม ขณะที่ Zendaya สวมชุดจาก Maison Margiela ชุดโครงสร้างซ้อนชั้นโทนฟ้าอมเทา ประดับด้วยเลเยอร์โปร่งเบาราวกับหมอก สื่อถึงความดราม่าและความงามเหนือกาลเวลาที่ธีมปีนี้ต้องการถ่ายทอด ทั้งสองลุคจึงไม่เพียงแค่สวยงาม แต่ยังแฝงด้วยความงามและเรื่องราวที่สะท้อนอยู่ในเสื้อผ้าเหล่านี้

 

 

2025

และสุดท้ายที่กำลังจะมาถึงกับ Met Gala ในธีม Superfine: Tailoring Black Style มุ่งเน้นไปที่ศิลปะการตัดเย็บและวัฒนธรรมการแต่งกายของชุมชนคนผิวดำ โดยเฉพาะแนวคิด 'Black Dandyism' ที่ใช้แฟชั่นเป็นเครื่องมือประกาศตัวตนและท้าทายมายาคติทางเชื้อชาติและชนชั้น คาดว่าจะได้เห็นการตีความเสื้อผ้าชุดสูทและการตัดเย็บแบบ Fine Tailoring ที่เป็นมากกว่าเรื่องของสไตล์ แต่คือการเมืองของร่างกายและความสง่างามที่มีเจตจำนง Met Gala ปีนี้จึงไม่ใช่แค่การแสดงความหรูหรา แต่คือเวทีที่แฟชั่นและวัฒนธรรมมาบรรจบกันอย่างทรงพลัง

 

     ไม่ว่าจะเป็นการร้อยเรียงประวัติศาสตร์ ศิลปวัฒนธรรม หรือการผลักดันบทสนทนาใหม่ผ่านร่างกายและเสื้อผ้า Met Gala ยังคงเป็นพื้นที่ที่แฟชั่นได้พูดเสียงดังที่สุด ทั้งในแง่ความงาม จินตนาการ และการตั้งคำถามกับโลกอย่างเฉียบแหลม หกธีมในช่วงหลังนี้แสดงให้เห็นว่าแฟชั่นไม่เคยหยุดนิ่งและในทุกๆ เดือนพฤษภาคม พรมแดงของพิพิธภัณฑ์ศิลปะแห่งนิวยอร์กยังคงเป็นสนามทดลองอันเปล่งประกาย ที่ทั้งคนแฟชั่นและคนดูทั่วโลกต่างรอชมอย่างไม่มีวันเบื่อ

 

(สามารถอ่านเรื่อง VOGUE SCOOP | คนแฟชั่นคาดหวังอะไร เมื่อดีไซเนอร์เริ่มงานที่แบรนด์ใหม่แล้วในยุคเปลี่ยนผ่าน ได้ที่นี่)