พบกับบันทึกผลงานเครื่องประดับแห่งศิลปะที่ยังคงทรงคุณค่าเหนือกาลเวลา เมื่อ Boucheron นำผลงานจากคลังมรดกของเมซง มาสู่เอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ผ่านการมาเยือนของ ‘Claire de Truchis-Lauriston’ ผู้อำนวยการมรดกระดับสากลของเมซงและนักอัญมณีวิทยาผู้คร่ำหวอดกว่า 20 ปี ครั้งนี้เธอได้เดินทางมายังสิงคโปร์และประเทศไทย เพื่อนำเสนอผลงานประวัติศาสตร์กว่า 40 ชิ้น ตั้งแต่ผลงานจากปี 1858 ที่เมซง Boucheron ก่อตั้ง เพื่อเล่าเรื่องราวแห่งแรงบันดาลใจหลัก 4 ด้านของเมซงที่ประกอบไปด้วย โอตกูตูร์, ธรรมชาติ, สถาปัตยกรรม และนวัตกรรม ผ่านผลงานตั้งแต่เครื่องประดับศีรษะ, สร้อยคอ, เข็มกลัด ไปจนถึงหัตถศิลป์ทองคำอันล้ำค่า

Velvet and Diamond Choker 1867
โช้กเกอร์กำมะหยี่ประดับเพชรชิ้นงดงามจากปี ค.ศ. 1867 คือหนึ่งในผลงานยุคแรกที่สะท้อนความสัมพันธ์อันแนบแน่นระหว่างโลกกูตูร์และเครื่องประดับของ Boucheron อย่างชัดเจน ตัวเรือนทองคำสีเหลืองและโลหะเงินฝังเพชรประดับบนริบบิ้นกำมะหยี่สีดำ ถ่ายทอดความอ่อนช้อยผ่านเถาดอกไม้และใบไม้ ซึ่งเป็นภาษาทางศิลปะยอดนิยมในช่วงปลายจักรวรรดิฝรั่งเศสที่ 2 เมื่อริบบิ้น ดอกไม้ และลูกไม้ คือหัวใจของแฟชั่นสมัยนั้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งภายใต้อิทธิพลของจักรพรรดินี Eugénie ผลงานประเภทนี้จึงได้รับความนิยมอย่างสูง และสวมใส่คู่กับเดรสคอวีกลึกได้อย่างสง่างาม ในฐานะบุตรชายของพ่อค้าผ้า Frédéric Boucheron จึงซึมซับความรู้สึกของวัสดุ สิ่งทอ และลวดลายเหล่านี้ตั้งแต่วัยเด็ก ก่อนจะหลอมรวมเป็นภาษาดีไซน์สำคัญของเมซงมาตั้งแต่ช่วงก่อตั้ง

Stag Beetle Brooch 1889
เข็มกลัดด้วงเขี้ยวกางจากช่วงราวปี ค.ศ. 1889 เป็นตัวอย่างทรงคุณค่าของงานออกแบบธรรมชาตินิยมในศตวรรษที่ 19 ซึ่งแม้เครื่องประดับรูปสัตว์จะไม่ได้เป็นกระแสหลักเท่าลวดลายดอกไม้ แต่เหล่าแมลงหลากหลายสายพันธุ์กลับมีบทบาทสำคัญอย่างยิ่งต่อการสร้างแรงบันดาลใจให้ Boucheron โดยเฉพาะช่วงที่ศาสตร์กีฏวิทยาเริ่มพัฒนาอย่างจริงจัง ผลงานของเมซงจึงเต็มไปด้วยแมลงนานาชนิด ตั้งแต่แมลงวัน, ผึ้ง, แมลงปอ จนถึงด้วงปีกแข็งต่างๆ ก่อนยุคอาร์ตนูโวจะเข้ามามีบทบาทอย่างเต็มตัว เข็มกลัดด้วงเขี้ยวกางชิ้นนี้ได้รับแรงบันดาลใจจากด้วงก้ามปูตระกูล Lucanus โดดเด่นด้วยการจำลองรายละเอียดเชิงกายวิภาคอย่างเสมือนจริงบนตัวเรือนทองคำ ฝังทับทิมและเพชร ความประณีตนี้ทำให้มันเป็นหนึ่งในผลงานสำคัญที่สะท้อนความหลงใหลของเมซงต่อธรรมชาติและพลังชีวิตอันงดงามของโลกแมลง

Art Deco Jade Brooch 1924
ผลงานเข็มกลัดหยกปี 1924 ชิ้นนี้ถือเป็นงานต้นแบบอันสมบูรณ์ของสไตล์ Art Deco ซึ่งกำลังก่อตัวขึ้นก่อนการจัดนิทรรศการศิลปะอุตสาหกรรมสมัยใหม่ระดับโลก ณ กรุงปารีสในปี 1925 ตัวเรือนทองคำประกอบแพลทินัม ผสานงานลงยาดำเนื้อเงา ออนิกซ์ หยก และเพชร ถ่ายทอดจังหวะเรขาคณิตอันคมชัด พร้อมคอนทราสต์ของสีที่ทรงพลัง ส่วนบนของเข็มกลัดออกแบบเป็นทรงเกือกม้า ขณะที่ส่วนล่างร้อยหยกแกะสลักลายต้นไม้ ทำให้เกิดสมดุลระหว่างวัสดุต่างวัฒนธรรมงานแกะหินแบบอินเดียและความสง่างามของหยกจีนอย่างน่าทึ่ง เป็นผลงานที่สะท้อนความสามารถของ Boucheron ในการผสมผสานความคิดศิลป์ล้ำยุคกับรัตนชาติที่มีความหมายลึกซึ้งทางวัฒนธรรม และยังเป็นไฮไลต์สำคัญของเมซงในนิทรรศการปี 1925 ซึ่งลูอิส บุตรชายของเฟรเดริก ได้นำผลงานกว่า 232 ชิ้นไปร่วมจัดแสดงจนได้รับเสียงชื่นชมอย่างล้นหลาม

Flexible Bracelet 1947
กำไลขดปล้องปี 1947 เป็นตัวแทนความงามแห่งยุคหลังสงครามโลกครั้งที่สอง ซึ่งรสนิยมของผู้คนเริ่มโอนเอียงจากแพลทินัมในยุค Art Deco มาสู่ทองคำสีเหลืองที่มีรูปทรงแข็งแรงและโดดเด่นมากขึ้น โครงสร้างของกำไลชิ้นนี้รังสรรค์จากทองคำสีเหลืองและแพลทินัม ฝังไพลินทรงสอบและเพชรลูก สร้างจังหวะจากโมทีฟลายไขว้เกลียวทแยงที่เว้นช่องไฟอย่างมีศิลปะ จุดเด่นที่สุดคือความยืดหยุ่นและความลื่นไหลของตัวเรือน ซึ่งเลียนแบบสัมผัสของสิ่งทอจากโลกกูตูร์, งานถัก, งานทอ และริบบิ้น ที่เฟรเดริก บูเชอรงใส่ใจมาตั้งแต่ยุคเริ่มต้นของเมซง ด้วยโครงสร้างแบบตาข่ายร้อยแผ่นทองเชื่อมต่อกันดั่งลายก่ออิฐ กำไลชิ้นนี้จึงมอบทั้งความงามทางประติมากรรมและความสวมใส่สบายได้อย่างเหนือชั้น

แมวผู้เป็นมิวซ์! ทำความรู้จัก 'Wladimir' แมวที่เป็นแรงบันดาลใจให้ Boucheron รังสรรค์จิวเวลรีชั้นสูง

Boucheron นำเสนอแคมเปญ ‘Winter Wonderland’ ต้อนรับเทศกาลฤดูหนาวไปพร้อมกับเหล่าแอมบาสเดอร์ของเมซง

เผยโฉมนาฬิกาตูร์บิญงจาก Boucheron ความเลอค่าที่มาในแบบฉบับของเมซงจิวเวลรีชั้นสูง

จิวเวลรีเนื้อทราย ‘Quatre Sand Cuff’ ผลงานจาก Boucheron ที่เปลี่ยนมุมมองต่อคำว่า ‘ล้ำค่า’

