Piaget แบรนด์จิวเวลรีที่ยึดมั่นคือ 'ความกล้าคิดและกล้าทำ' มาตั้งแต่ปี 1874 ในคอลเล็กชั่นจิวเวลรีชั้นสูงประจำปี 2025 นี้ Piaget เปิดตัวคอลเล็กชั่นล่าสุดในชื่อว่า “Shapes of Extraleganza” ซึ่งถ่ายทอดจิตวิญญาณแห่งความกล้า เล่นกับรูปทรงอย่างอิสระ และสืบทอดความหรูหราในแบบฉบับเมซงได้อย่างถึงแก่น นี่คือบทที่สองในไตรภาคของคอลเล็กชั่น Extraleganza ซึ่งเริ่มต้นด้วย “Essence of Extraleganza” เมื่อปีที่แล้ว โดยในครั้งนี้ Piaget ย้อนกลับไปสำรวจรากเหง้าความคิดสร้างสรรค์ของแบรนด์ในยุค 60s–70s แล้วต่อยอดด้วยมุมมองใหม่ ทั้งในด้านดีไซน์ งานฝีมือ และพลังแห่งจินตนาการ
Shapes of Extraleganza ยังสะท้อนถึงความสัมพันธ์อันแน่นแฟ้นของ Piaget กับวงการศิลปะ ผ่านการอุทิศให้กับการร่วมงานในอดีตกับศิลปินระดับตำนานอย่าง Salvador Dalí, Arman รวมถึงนักสะสมงานศิลป์ชื่อดังอย่าง Andy Warhol ที่ต่างเคยอยู่ในแวดวง “Piaget Society” กลุ่มคนรักศิลปะซึ่งเกิดขึ้นจากมิตรภาพของ Yves Piaget เอง และในวันนี้ เมซงยังคงจุดไฟความคิดสร้างสรรค์นั้นผ่านผลงานที่ร่วมสมัย สดใหม่ และกล้าท้าทายกรอบเดิมของวงการ
Kaleidoscope Lights
ชุดเครื่องประดับ Kaleidoscope Lights ประกอบด้วย สร้อยคอลายเส้นขนาดใหญ่ ต่างหูระย้ายาว แหวน ไปจนถึงนาฬิกาพร้อมหน้าปัดแต่งลายรัศมีดวงอาทิตย์ โดยความพิเศษของเครื่องประดับชุดนี้ คือ การเลือกใช้หินแร่อันล้ำค่าต่างชนิด รวมถึงหินหายาก อย่าง โรโดโครไซต์ ซูจิไลต์ และเวอร์ไดต์ โดยนำมาผ่านการเจียระไนอย่างพิถีพิถันให้เป็นแผ่นโค้งที่มีความหนาต่างกัน จากนั้นจึงนำมาจัดวางเรียงกันจนเกิดเป็นลวดลายที่สวยงามน่าอัศจรรย์
Flowing Curves
ขณะที่กระแส “หวนคืนสู่ธรรมชาติ” จากยุค 1970 ได้รับการถ่ายทอดผ่านเครื่องประดับชุด Flowing Curves อันมีการออกแบบรูปทรงอิสระที่เป็นธรรมชาติ ซึ่งประกอบด้วยโอปอลสีดำหายาก ประดับฝังลงบนตัวเรือนไวต์โกลด์ที่ตีขึ้นรูปด้วยมืออย่างประณีต เป็นเทคนิคเฉพาะจาก House of Gold เกิดเป็นลวดลาย Decor Palace อันโด่งดัง ยิ่งไปกว่านั้นเครื่องประดับชุดนี้ยังเป็นผลงานที่แสดงความเคารพต่อความหลงใหลในโอปอลของ Yves Piaget อีกด้วย
Wave Illusion
เครื่องประดับชุด Wave Illusion ที่งดงามโดดเด่นด้วยสปิเนลสีแดงและสีชมพูอมส้มอันหายาก ซึ่งได้รับแรงบันดาลใจจากสีสันสดใส เส้นเรขาคณิตอันบริสุทธิ์ และความเบิกบานอย่างไร้เดียงสาแบบเด็กน้อย จากกระแส Memphis ในปี 1980
Curved Artistry
ขณะที่แซปไฟร์สีเหลืองอร่ามราวกับประกายแสงแดด เป็นหัวใจของเครื่องประดับชุด Curved Artistry อันเต็มไปด้วยโทนสีลูกกวาด ประกอบด้วยชิ้นงานไฮไลต์ อย่าง แหวนซ่อนนาฬิกา (Secret Ring Watch) อันเป็นผลงานเอกลักษณ์จากการสร้างสรรค์ของ Piaget ในยุค 1940s โดยหน้าปัดนาฬิกาฝังเพชรจะถูกซ่อนไว้ภายใต้อความารีนทรงหลังเบี้ยใสที่ส่องประกาย
Endless Motion
ปิดท้ายด้วยผลงานชิ้นเอกของคอลเล็กชั่นนี้ที่สร้างความตื่นตะลึงนั่นคือ Endless Motion นาฬิกาตั้งโต๊ะที่ออกแบบและประดิษฐ์ขึ้นให้เสมือนเป็นงานประติมากรรมที่เคลื่อนไหวได้ (Mobile Sculpture) ผลงานชิ้นนี้เป็นตัวแทนแห่งสายสัมพันธ์ของ Piaget ที่มีให้กับโลกศิลปะและศิลปินทั้งหลาย อีกทั้งยังเป็นผลงานที่รังสรรค์เพื่อยกย่องอัจฉริยภาพของ Alexander Calder และผลงานศิลปะแนวจลศาสตร์จากยุค 1970 กล่าวได้ว่าเป็นการเฉลิมฉลองให้กับการสร้างสรรค์บนแนวทาง “Play of Shape” หรือการเล่นกับรูปทรงที่เมซงยึดมั่นมาอย่างยาวนาน