Vogue Thailand

WATCHES & JEWELLERY

PIAGET เผยจิวเวลรีชั้นสูงคอลเล็กชั่นแห่งปี 'Shapes of Extraleganza' สืบทอดจิตวิญญาณความหรูหรา!

เมื่อศิลปะ ดีไซน์ และเครื่องประดับมาบรรจบกันอย่างกล้าหาญและงดงามในจิวเวลรีคอลเล็กชั่นล่่าสุดของ PIAGET

โดย Amanda Ampornmaha
19 มิถุนายน 2568

     Piaget แบรนด์จิวเวลรีที่ยึดมั่นคือ 'ความกล้าคิดและกล้าทำ' มาตั้งแต่ปี 1874 ในคอลเล็กชั่นจิวเวลรีชั้นสูงประจำปี 2025 นี้ Piaget เปิดตัวคอลเล็กชั่นล่าสุดในชื่อว่า “Shapes of Extraleganza” ซึ่งถ่ายทอดจิตวิญญาณแห่งความกล้า เล่นกับรูปทรงอย่างอิสระ และสืบทอดความหรูหราในแบบฉบับเมซงได้อย่างถึงแก่น นี่คือบทที่สองในไตรภาคของคอลเล็กชั่น Extraleganza ซึ่งเริ่มต้นด้วย “Essence of Extraleganza” เมื่อปีที่แล้ว โดยในครั้งนี้ Piaget ย้อนกลับไปสำรวจรากเหง้าความคิดสร้างสรรค์ของแบรนด์ในยุค 60s–70s แล้วต่อยอดด้วยมุมมองใหม่ ทั้งในด้านดีไซน์ งานฝีมือ และพลังแห่งจินตนาการ

     Shapes of Extraleganza ยังสะท้อนถึงความสัมพันธ์อันแน่นแฟ้นของ Piaget กับวงการศิลปะ ผ่านการอุทิศให้กับการร่วมงานในอดีตกับศิลปินระดับตำนานอย่าง Salvador Dalí, Arman รวมถึงนักสะสมงานศิลป์ชื่อดังอย่าง Andy Warhol ที่ต่างเคยอยู่ในแวดวง “Piaget Society” กลุ่มคนรักศิลปะซึ่งเกิดขึ้นจากมิตรภาพของ Yves Piaget เอง และในวันนี้ เมซงยังคงจุดไฟความคิดสร้างสรรค์นั้นผ่านผลงานที่ร่วมสมัย สดใหม่ และกล้าท้าทายกรอบเดิมของวงการ

 

 

Kaleidoscope Lights

ชุดเครื่องประดับ Kaleidoscope Lights ประกอบด้วย สร้อยคอลายเส้นขนาดใหญ่ ต่างหูระย้ายาว แหวน ไปจนถึงนาฬิกาพร้อมหน้าปัดแต่งลายรัศมีดวงอาทิตย์ โดยความพิเศษของเครื่องประดับชุดนี้ คือ การเลือกใช้หินแร่อันล้ำค่าต่างชนิด รวมถึงหินหายาก อย่าง โรโดโครไซต์ ซูจิไลต์ และเวอร์ไดต์ โดยนำมาผ่านการเจียระไนอย่างพิถีพิถันให้เป็นแผ่นโค้งที่มีความหนาต่างกัน จากนั้นจึงนำมาจัดวางเรียงกันจนเกิดเป็นลวดลายที่สวยงามน่าอัศจรรย์

 

 

 

Flowing Curves

ขณะที่กระแส “หวนคืนสู่ธรรมชาติ” จากยุค 1970 ได้รับการถ่ายทอดผ่านเครื่องประดับชุด Flowing Curves อันมีการออกแบบรูปทรงอิสระที่เป็นธรรมชาติ ซึ่งประกอบด้วยโอปอลสีดำหายาก ประดับฝังลงบนตัวเรือนไวต์โกลด์ที่ตีขึ้นรูปด้วยมืออย่างประณีต เป็นเทคนิคเฉพาะจาก House of Gold เกิดเป็นลวดลาย Decor Palace อันโด่งดัง ยิ่งไปกว่านั้นเครื่องประดับชุดนี้ยังเป็นผลงานที่แสดงความเคารพต่อความหลงใหลในโอปอลของ Yves Piaget อีกด้วย

 
 
 

Wave Illusion

เครื่องประดับชุด Wave Illusion ที่งดงามโดดเด่นด้วยสปิเนลสีแดงและสีชมพูอมส้มอันหายาก ซึ่งได้รับแรงบันดาลใจจากสีสันสดใส เส้นเรขาคณิตอันบริสุทธิ์ และความเบิกบานอย่างไร้เดียงสาแบบเด็กน้อย จากกระแส Memphis ในปี 1980

 
 
 

Curved Artistry

ขณะที่แซปไฟร์สีเหลืองอร่ามราวกับประกายแสงแดด เป็นหัวใจของเครื่องประดับชุด Curved Artistry อันเต็มไปด้วยโทนสีลูกกวาด ประกอบด้วยชิ้นงานไฮไลต์ อย่าง แหวนซ่อนนาฬิกา (Secret Ring Watch) อันเป็นผลงานเอกลักษณ์จากการสร้างสรรค์ของ Piaget ในยุค 1940s โดยหน้าปัดนาฬิกาฝังเพชรจะถูกซ่อนไว้ภายใต้อความารีนทรงหลังเบี้ยใสที่ส่องประกาย

 

 

Endless Motion

ปิดท้ายด้วยผลงานชิ้นเอกของคอลเล็กชั่นนี้ที่สร้างความตื่นตะลึงนั่นคือ Endless Motion นาฬิกาตั้งโต๊ะที่ออกแบบและประดิษฐ์ขึ้นให้เสมือนเป็นงานประติมากรรมที่เคลื่อนไหวได้ (Mobile Sculpture) ผลงานชิ้นนี้เป็นตัวแทนแห่งสายสัมพันธ์ของ Piaget ที่มีให้กับโลกศิลปะและศิลปินทั้งหลาย อีกทั้งยังเป็นผลงานที่รังสรรค์เพื่อยกย่องอัจฉริยภาพของ Alexander Calder และผลงานศิลปะแนวจลศาสตร์จากยุค 1970 กล่าวได้ว่าเป็นการเฉลิมฉลองให้กับการสร้างสรรค์บนแนวทาง “Play of Shape” หรือการเล่นกับรูปทรงที่เมซงยึดมั่นมาอย่างยาวนาน

 

(สามารถอ่านเรื่อง โว้กสัมภาษณ์ความรู้สึกของ ‘อาโป-ณัฐวิญญ์’ ในวันแรกของทริปเปิดตัว Piaget จิวเวลรีชั้นสูง! ได้ที่นี่)

รูปภาพ และ ข้อมูล : Courtesy of Piaget
PIAGET เผยจิวเวลรีชั้นสูงคอลเล็กชั่นแห่งปี 'Shapes of Extraleganza' สืบทอดจิตวิญญาณความหรูหรา!