Vogue Thailand

WATCHES & JEWELLERY

ASTROBOY การ์ตูนสุดคลาสสิกทะยานกลับมาบนหน้าปัดนาฬิกาที่ทำให้นักสะสมต้องตื่นเต้น

LOUIS ERARD x ASTROBOY โปรเจกต์พิเศษบนนาฬิกาสายสปอร์ตที่สร้างประวัติศาสตร์ให้เมซงถึง 2 มิติ

โดย Nattanam Waiyahong
04 พฤศจิกายน 2568

     ‘Astroboy’ หรือ ‘เจ้าหนูปรมาณู’ คือการ์ตูนญี่ปุ่นสุดคลาสสิกสมัยหลังสงครามโลกครั้งที่ 2 นี่คือหนึ่งในจุดตั้งต้นของอุตสาหกรรมการ์ตูนญี่ปุ่น ซึ่งต่อมากลายเป็น ‘Soft Power’ แผ่ขยายอิทธิพลจนมีผู้ติดตามไปทั่วโลกจวบจนปัจจุบัน ทว่าต้นกำเนิดของการ์ตูนอย่างเจ้าหนูปรมาณูค่อยๆ เลือนหายไปกระแสความนิยม เหลือเพียงเรื่องราวเล่าขานและตำนานความคลาสสิกเพียงเท่านั้น วันนี้ความโดดเด่นของตัวละครระดับตำนานจะกลับมาอีกครั้ง ไม่ใช่กับวงการบันเทิงหรือแม้แต่แฟชั่น แต่เป็นวงการนาฬิกาที่ชุบชีวิตให้เจ้าหนูรองเท้าแดงมาโลดแล่นบนหน้าปัดได้อย่างน่าสนใจ

     Louis Erard แบรนด์นาฬิกาอิสระที่มีต้นกำเนิดมาตั้งแต่ปี 1929 เผยโฉมนาฬิกาคอลเล็กชั่น 2340 โฉมใหม่ โดยสร้างเซอร์ไพรส์ด้วยกาพา ‘Astroboy’ กลับในรูปแบบของงานศิลปะบนหน้าปัดนาฬิกา โดยได้แรงบันดาลใจจากชีวิตวัยเด็กของ Manuel Emch ประธานกรรมบริหารของแบรนด์ รวมถึงแฟนๆ เจ้าหนูปรมาณูหลากหลายช่วงอายุที่มีอยู่ทั่วโลก ดังนั้นนาฬิกาเรือนนี้จึงเป็นดั่งสัญลักษณ์ของความเยาว์วัยที่สามารถสอดผสานเข้ากับนวัตกรรมและการพัฒนากลไกร่วมกับศิลปะอย่างลงตัว

     มานูเอลเปรียบเปรยนาฬิกา 2340 ของแบรนด์เปรียบดั่งผืนผ้าใบที่ ‘Astroboy’ สามารถโลดแล่นไปได้อย่างอิสระ และยังหมายถึงเป็นดั่งเสาสัญญาณดูดรับความทรงจำกลับมาสู่มวลแฟนคลับอีกครั้ง ซึ่งหมายถึงการท่องไปในโลกแห่งความทรงจำร่วมของคนจำนวนมหาศาล ในขณะเดียวกันการจับมือกับ Tezuka Productions เพื่อดึงเอาลิขสิทธิ์ของ ‘Astroboy’ มาใช้วาดลวดลายบนหน้าปัดยังถือเป็นโปรเจกต์คอแลบอเรชั่นเชิงวัฒนธรรมป๊อปครั้งแรกของแบรนด์ด้วยเช่นกัน

     ความโดดเด่นของผลงาน ‘Louis Erard x Astroboy’ คืองานศิลปะเจ้าหนูปรมาณูที่มีรากฐานแรงบันดาลใจจากตัวละครต้นแบบ ซึ่งแบรนด์ไม่เลือกวิธีการพิมพ์หน้าปัดหรือวาดลงไป แต่ใช้การวางเลเยอร์เพื่อสร้างมิติความซับซ้อนขึ้นอีกระดับ ให้ความรู้สึกเหมือนตัวละครกำลังเคลื่อนไหวอย่างไรอย่างนั้น เช่นเดียวกับท่าทางบินทะยานที่สร้างควันและกลุ่มเมฆคละคลุ้งเสริมโมชั่นการเคลื่อนไหว ฉากหลังยังเป็นตัวร้ายในเรื่องและฉากบรรยากาศในเมือง ‘Metro City’ ที่รังสรรค์ขึ้นจากเทคนิคการแกะสลักอย่างละเอียด เช่นเดียวกับเคสด้านหลังที่มี ‘Astroboy’ กับท่าทางอันเป็นเอกลักษณ์ด้วยเช่นกัน
 

     นาฬิกาเรือนนี้ไม่เพียงแต่โดดเด่นด้วยลวดลายศิลปะต้นกำเนิดฝีมือ Osamu Tezuka เพียงเท่านั้น เพราะเรือนเวลา 2340 โฉมใหม่มีองค์ประกอบที่น่าสนใจมากมาย ตั้งแต่การอ้างอิงวิถีการออกแบบผ่านงานสถาปัตยกรรมให้ออกมาในรูปแบบของนาฬิกาสปอร์ต และถือเป็นนาฬิกาสาย ‘integrated’ รุ่นแรกในประวัติศาสตร์ ตัวเรือนทำจากวัสดุไทเทเนียมและเม็ดมะยมสตีล สร้างสัมผัสที่เป็นมิตรต่อการสวมใส่ ความสวยงาม และน้ำหนักที่เบาเหมาะสำหรับการใช้ในชีวิตประจำวัน ตัวเรือนมีความหนาเพียง 8.95 มิลลิเมตร ซึ่งแบรนด์ระบุว่านาฬิกาเรือนนี้เป็นดั่งรากฐานในการค้นคว้าหาสิ่งใหม่ๆ สำหรับแบรนด์โดยแท้จริงเลยทีเดียว

     จุดสำคัญของเรือนเวลานี้คือการผสมผสานระหว่างนวัตกรรม ศิลปะ เรื่อยไปจนถึงการถ่ายทอดประสบการณ์ร่วมให้กับคนทั่วโลกได้สัมผัสในรูปแบบที่แปลกใหม่ เพราะ ‘Astroboy’ เปรียบเหมือนสัญลักษณ์ของความหวัง มนุษยชาติ และการอยู่ร่วมกัน นอกจากนี้ยังมีนัยแฝงอย่างความเห็นอกเห็นใจ และการต่อต้านการแบ่งแยกและเลือกปฏิบัติทั้งปวง ดังนั้นนาฬิกาเรือนนี้จึงสื่อความหมายได้ทุกมิติ ถือเป็นโปรเจกต์คอแลบอเรชั่นที่มีเรื่องราวให้เจาะลึกได้อย่างหลากหลาย หรือถ้าต้องการชมความสวยงามเพิ่มอีกมิติก็ลองเหลือบมองเวลายามมืดมิด จะพบกับการส่องสว่างจากการเคลือบ Super-LumiNova®SLN-C1 แสงสะท้อนสีฟ้า ที่จะเปลี่ยนความรู้สึกและเผยถึงความงดงามอีกรูปแบบหนึ่งทันที นาฬิกาเรือนนี้ผลิตจำกัดเพียง 178 ทั่วโลกเท่านั้น รับรองว่าสาวกนาฬิกาหรือแฟนคลับเจ้าหนูปรมาณูจะต้องไม่ผิดหวังหากจับจองมาครอบครองอย่างแน่นอน


(อ่านเรื่องราวเพิ่มเติมเรื่องนาฬิกาได้กับบทความ VOGUE WATCH | โว้กแนะนำนาฬิกาที่เหมาะสำหรับแต่ละราศีที่สมบูรณ์แบบและตรงคาแร็กเตอร์มากที่สุด)

ภาพ : Courtesy of Louis Erard / Tezuka Productions