สำหรับโลกของนาฬิกาจิวเวลรี ความโดดเด่นสำคัญคือการเลือกใช้เพชรและอัญมณีหลากสีเพื่อสรรสร้างมิติความหรูหราเหนือระดับ แต่มากไปกว่านั้นคือเรื่องการออกแบบที่ไม่เพียงแต่ประดับประดาตามองค์ประกอบต่างๆ ของตัวเรือน แต่หมายถึงรูปแบบการสรรสร้างราวกับเป็นจิวเวลรีที่สวมใส่ได้หลากหลายรูปแบบ มุมมองเช่นนี้เชื่อมโยงกับนาฬิกา Grand Lady Kalla จาก Vacheron Constantin ที่เปิดตัวโฉมใหม่อีกครั้งในปี 2025 เพิ่มวิสัยทัศน์ความงดงามในรูปแบบที่สามารถสอดประสานเข้าวิถีแห่งสไตล์ได้อย่างน่าสนใจ
1 / 3
หากย้อนกลับไปในปี 1979 เมซงเคยรังสรรค์ Kallista ผลงานความหรูหราที่เนรมิตนาฬิกาออกมาในรูปแบบตัวเรือนและสายเพชรทุกสัดส่วน จนกระทั่งในปี 2024 ก็ผลิผลงาน Grand Lady Kalla ในรูปแบบของเพชรทั้งตัวเรือนและสายเช่นเดียวกัน ทว่าแตกต่างเรื่องรูปแบบการสวมใส่และมุมมองความหลากหลายที่เปิดโลกนาฬิกาจิวเวลรีชั้นสูงให้ลื่นไหลไปอีกขั้น พอมาถึงปี 2025 วาเชอรอง คงสตองแตง ก้าวไปอีกระดับด้วยการรังสรรค์นาฬิกาจิวเวลรีชั้นสูงที่ผสมผสานการใช้ทั้งเพชรและอัญมณีสีเลอค่าในจังหวะเวลาเดียวกัน
1 / 3
ประวัติศาสตร์ของเมซงมีการระบุถึงนาฬิกาสำหรับสุภาพสตรี มีรายละเอียดการประดับอัญมณีอย่างงดงามมาตั้งแต่ปี 1812 รวมถึงปี 1924 ที่มีการบันทึกว่าเมซงสรรสร้างนาฬิกาจิวเวลรีที่สามารถปรับรูปแบบเป็นจี้และเข็มกลัดได้ด้วยเช่นกัน ซึ่งสิ่งเหล่านี้ถือเป็นต้นแบบของ Lady Grand Kalla เช่นเดียวกับนาฬิกา Lady Kalla ที่ถูกนำเสนออย่างสง่างามมาตลอดหลายทศวรรษและเป็นการสานต่อความสำเร็จของนาฬิกาจิวเวลรีระดับสูงของเมซงนาฬิกาเก่าแก่ลำดับต้นๆ ของสวิตเซอร์แลนด์
1 / 4
เอกลักษณ์สำคัญของ Lady Grand Kalla คือการถอดแยกชิ้นส่วนเพื่อใช้สวมใส่เป็นเครื่องประดับได้อย่างหลากหลาย ตั้งแต่นาฬิกาข้อมือ สร้อยคอ ไปจนถึงกำไลข้อมือ รูปแบบของเรือนเวลาในปี 2025 จะประดับเพชรราว 39.4 กะรัต รวมจำนวน 3 แถว 103 เม็ด ในขณะที่แถวกลางจะถูกปรับเปลี่ยนเป็นอัญมณีสี ทั้งแซปไฟร์สีน้ำเงิน ทับทิม และมรกต นอกจากนี้ชิ้นส่วนจิวเวลรีเพิ่มเติมมีการประดับเพชรเพิ่ม 12 เม็ด ด้านสร้อยคอก็ประดับมุกอโกย่า 112 เม็ด โดยอัญมณีจะเจียระไนแบบ emerald-cut ร้อยเรียงกันอย่างเรียบง่ายแต่สง่างาม มาพร้อมกับเทคนิคการเจียระไนแบบ sugarloaf-cut เพื่อสร้างความแตกต่างและยกระดับงานฝีมือด้านจิวเวลรีขึ้นอีกระดับ
1 / 4
ความน่าสนใจคือวัสดุตัวเรือนสำหรับนาฬิกาจิวเวลรีเซ็ตนี้ก็แตกต่างกัน เรือนแซปไฟร์และทับทิมทำจากวัสดุไวต์โกลด์ ส่วนเรือนมรกตทำจากวัสดุแพลทินัม โดยแต่ละเรือนใช้อัญมณีน้ำหนัก 49.72, 49.85 และ 35.72 ตามลำดับ ในส่วนของรายละเอียดอื่นๆ ใช้รูปแบบเดียวกันทั้งหมดตามที่กล่าวไปก่อนหน้านี้ ซึ่งทุกองค์ประกอบหลอมรวมกันเป็น Lady Grand Kalla สุดยอดเรือนเวลาจิวเวลรีชั้นสูงอันภาคภูมิใจของวาเชอรอง คงสตองแตง ไม่เพียงแต่เรื่องมูลค่าราคา ทว่าหมายถึงการเชื่อมโยงถึงประวัติศาสตร์มิติความสวยงามจากศตวรรษที่ 19 และ 20 กับการดูเวลาของสุภาพสตรีที่อาจไม่ได้เห็นเป็นประจักษ์ แต่สอดแทรกอยู่ตามรายละเอียดต่างๆ ของจิวเวลรีอย่างมีชั้นเชิง สอดคล้องกับคำกล่าวของ Sardine Donguy ผู้อำนวยการด้านผลิตภัณฑ์และนวัตกรรมของเมซงที่ระบุเกี่ยวกับประวัติศาสตร์ของนาฬิกาจิวเวลรีที่หล่อหลอมเส้นทางความสร้างสรรค์ นวัตกรรม และความเชี่ยวชาญที่เป็นต้นกำเนิดของนาฬิกาที่มีเอกลักษณ์สำหรับสุภาพสตรี
(สามารถอ่านเรื่องราวของนาฬิกาสำหรับสุภาพสตรีได้กับบทความ “Hidden Watch” นาฬิกาแบบซ่อนเกิดจากความไม่เท่าเทียมที่ผู้หญิงไม่สามารถดูเวลาอย่างโจ่งแจ้ง)