Dolce & Gabbana เผยโฉมเครื่องประดับและเรือนเวลาในงาน Haute Jewels Geneva 2025

     Dolce & Gabbana ร่วมงาน Haute Jewels Geneva 2025 เผยเครื่องประดับและนาฬิกาที่ร้อยเรียงทองอิตาเลียนแบบดั้งเดิม ผสานอัญมณีล้ำค่าด้วยความประณีต อาทิ ศาสตร์การประดิษฐ์เรือนเวลาแบบสวิสที่แสดงถึงจินตนาการอันเป็นเอกลักษณ์ของแบรนด์ กลายเป็นผลงานศิลป์ที่ไม่เพียงงดงามแต่เปี่ยมด้วยอารมณ์และความทรงจำ ทุกชิ้นล้วนถ่ายทอดจิตวิญญาณแห่งอิตาลีได้อย่างไร้ที่ติ ไม่ว่าจะเป็นไฟน์จิวเวลรีคอลเล็กชั่น ‘Devotion’ จิวเวลรีรูปทรง Sacred Heart สื่อถึงความรักอันไร้เงื่อนไข และจิวเวลรีชั้นสูงคอลเล็กชั่น 'Sardegna' ที่ได้รับแรงบันดาลใจมาจากเกาะซาร์ดิเนียของอิตาลี แหล่งวัฒนธรรมดั้งเดิมที่รุ่มรวยไปด้วยประวัติศาสตร์ ไปจนถึงชิ้นงานนาฬิการุ่นใหม่ 'Manifattura Italiana Roma' ในทองคำและมุกดำ ที่ทุกชิ้น Dolce&Gabbana เชื่อว่าไม่ใช่แค่ของมีค่า หากแต่คือศิลปะ เรื่องราวที่ตราตรึงอยู่ในใจผู้สวมใส่มาเสมอ

 

 

     คอลเล็กชั่นเครื่องประดับชั้นสูง อาทิ คอลเล็กชั่น 'Devotion' ที่ยกหัวใจ Sacred Heart ขึ้นเป็นสัญลักษณ์แห่งความรักอันไร้เงื่อนไข ผสานความหรูหราแบบบาโรกด้วยเพชร โรโดไลต์ และไข่มุกน้ำจืด หรือ 'Lace' ที่เปลี่ยนความงามของลูกไม้ให้กลายเป็นบทกวีในรูปแบบเครื่องประดับ โดยใช้เทคนิค Italian Filigree และอัญมณีสีสด เติมกลิ่นอายศิลป์อย่างละเมียดละไม ในขณะที่คอลเล็กชั่น 'Rainbow' เติมชีวิตชีวาด้วยสีสันของหินธรรมชาตินานาชนิด ถ่ายทอดฝีมือช่างทองผ่านเทคนิค Twisted Wire อันประณีต ในส่วนคอลเล็กชั่น 'Sicily' ย้อนรอยประวัติศาสตร์เกาะซิซิลีด้วยกางเขน เครื่องราง และเหรียญบูชาที่เคลือบสีและแกะลายด้วยมือ สื่อถึงวัฒนธรรมเมดิเตอร์เรเนียนได้อย่างเข้มข้น ด้านคอลเล็กชั่น 'Spring' ถ่ายทอดความเบิกบานของฤดูใบไม้ผลิผ่านดอกไม้ ผีเสื้อ และอัญมณีหลากสี รวมถึงปะการังเมดิเตอร์เรเนียน พร้อมกับคอลเล็กชั่น 'Royal' ที่นำมงกุฎยุคโบราณมาดัดแปลงเป็นเครื่องประดับด้วยทับทิม ไพลิน และเพชรดำสะท้อนความกล้าหาญแบบจักรวรรดิโรมัน ปิดท้ายด้วยคอลเล็กชั่น 'Special' ซึ่งเปล่งประกายด้วยเพชรทรงต่างๆ ที่ผสมผสานกับมรกต ทับทิม และไพลินบนสร้อยเทนนิสและโชกเกอร์ สะท้อความลึกซึ้งระหว่างศิลปะการเจียระไนและงานทองชั้นสูงได้อย่างสมบูรณ์แบบในทุกชิ้นงาน

 

 

     ต่อยอดจากความประณีตของทุกคอลเล็กชั่นด้วย Limited Edition บทสรุปแห่งจินตนาการของ Dolce & Gabbana ที่ผสานงานทองฝีมืออิตาเลียนเข้ากับดีไซน์ร่วมสมัยและแรงบันดาลใจจากศิลปะ โดยเลือกใช้อัญมณีหายากและเทคนิคชั้นสูงในการรังสรรค์แต่ละชิ้นอย่างพิถีพิถัน ตั้งแต่สร้อยคอประดับดอกไม้หลากสีเคลือบเพชรพาเว่และไพลิน ไปจนถึงผีเสื้อเคลือบสีแต่ละชิ้นด้วยมือ ดอกไม้ที่ปั้นและแต่งแต้มสีด้วยความประณีต รวมถึงกางเขนจากลวดลายซับซ้อนที่สะท้อนมรดกทางวัฒนธรรมและวิสัยทัศน์แห่งความงามในโลกยุคใหม่ ทุกชิ้นงานผลิตจำกัดเพียง 100 ชิ้น เสมือนงานศิลป์ล้ำค่าที่มอบเอกลักษณ์อันเป็นหนึ่งเดียวให้กับผู้ครอบครอง

 

(สามารถอ่านเรื่อง จิวเวลรีขนมปัง! Dolce & Gabbana เผยโฉมจิวเวลรีสุดพิเศษ ร่วมเฉลิมฉลองมรดกของชาว Sardinian ได้ที่นี่)