หากกล่าวถึงเมซงจิวเวลรีระดับหัวแถว คนส่วนใหญ่มักนึกถึงจิวเวลรีชั้นสูงที่ปรากฏอย่างโดดเด่นในแต่ละคอลเล็กชั่น หรือผลงานจากอดีตที่สร้างประวัติศาสตร์ไว้มากมาย ซึ่งแท้จริงงานฝีมือที่ละเอียดประณีตและน่าสนใจเป็นอย่างยิ่งคือนาฬิกา เพราะรูปแบบงานสร้างสรรค์ที่เน้นยำเรื่องความละเอียดลออสามารถสอดผสานเข้ากับรูปแบบของเรือนเวลาได้อย่างงดงามเช่นเดียวกัน ดังนั้นการสรรสร้างนาฬิกาโดยฝีมือเมซงจิวเวลรีจึงเป็นที่น่าจับตามอง โว้กจึงพาไปสำรวจนาฬิกาตูร์บิญงของ Boucheron การคลุกเคล้ากันระหว่างงานฝีมือด้านอัญมณีและความยอดเยี่ยมของนาฬิกาอย่างกลไกตูร์บิญงที่ถือเป็นสัญญะแห่งความเหนือระดับของวงการนาฬิกา

Épure Tourbillon Acanthe
“เวลา” และ “ศิลปะ” 2 คำนิยามที่คุ้นเคยคือหัวใจหลักของบูเชอรองเมื่อก้าวเข้าสู่โลกนาฬิกาอย่างเต็มรูปแบบ เน้นย้ำการถ่ายทอดเรื่องราวของเมซงผ่านมิติความแม่นยำ จินตนาการ และอารมณ์ความรู้สึก วิถีความละเอียดอ่อนเหล่านี้คือสิ่งที่ทำให้เมซงจิวเวลรี โดยเฉพาะบูเชอรองตั้งแนวทางการสรรสร้างเรือนเวลาได้โดดเด่นมีเอกลักษณ์ ซึ่งนาฬิกาตูร์บิญงที่เปิดตัวใหม่ล่าสุดหยิบยกแรงบันดาลใจที่เรียบง่ายแต่หนักแน่นโดยพื้นฐาน ไม่ว่าจะเป็นธรรมชาติ สรรพสัตว์ งานกูตูร์ และสถาปัตยกรรม นำมาสู่ผลงาน Épure Tourbillon Acanthe, Épure Tourbillon Plume de Paon, Épure Tourbillon Hopi, Épure Tourbillon Pegasus และ Épure Tourbillon Ama

Épure Tourbillon Plume de Paon
สัญลักษณ์สำคัญด้านนวัตกรรมของเรือนเวลากับกลไกตูร์บิญง นอกจากนี้จะเปรียบเปรยถึงเรื่องนวัตกรรมอันล้ำสมัยในอดีต และเป็นสัญญะของความยอดเยี่ยมในปัจจุบัน ยังสะท้อนภาพงานฝีมือที่เผยความงดงามบนหน้าปัดได้อย่างลื่นไหล สามารถสอดประสานเข้ากับงานประดับอัญมณีระดับสูงหรือรายละเอียดการตกแต่งเชิงศิลป์ทั้งหลายเป็นอย่างดี โดยบูเชอรองเองก็มีมุมมองเกี่ยวกับตูร์บิญงว่ากระจกสะท้อนตัวตนของเมซงที่มุ่งมั่นสู่เส้นทางความยอดเยี่ยม ความสง่างาม และความสร้างสรรค์อย่างถึงที่สุด

Épure Tourbillon Hopi
Épure Tourbillon Acanthe คือผลงานฝีมือชั้นสูงที่สะท้อนเรื่องราวสัญญะจากปกรณรรมกรีก ท่องไปในโลกของธรรมชาติ โดยเฉพาะแพรกพันธุ์พฤกษาและสายน้ำ สะท้อนจิตวิญญาณความนุ่มนวล ความเยาว์วัย และมิติความสร้างสรรค์ที่เกิดขึ้นตามธรรมชาติ ด้าน Épure Tourbillon Plume de Paon ถอดแบบความสวยงามมาจากขนนกยูงที่รำแพนได้อย่างงดงาม ความน่าสนใจคือรายละเอียดการประดับเพชรร้อยเรียงอย่างอ่อนช้อยคล้องวงหน้าปัดตูร์บิญง ซึ่งเมซงกล่าวถึงนาฬิกาเรือนนี้ว่าเป็นสัญลักษณ์แห่งความบริสุทธิ์ พลัง และบทกวีโดยธรรมชาติ

Épure Tourbillon Pegasus
สำหรับ Épure Tourbillon Hopi สามารถเชื่อมโยงกับเรื่องสรรพสัตว์อย่างเป็นประจักษ์ นกฮัมมิงเบิร์ดปรากฏบนหน้าปัด รังสรรค์ด้วยเทคนิคหลากหลายรูปแบบตั้งแต่การจัดเรียงอัญมณี ประติมากรรม 3 มิติ การแกะสลัก เรื่อยไปจนถึงการซ้อนเรียงของเลเยอร์ด้วยวัสดุที่แตกต่างกัน ซึ่งบูเชอรองให้นิยามว่าเป็นเรือนเวลาแห่งความสนุกและความรัก รวมถึงสามารถถ่ายทอดเรื่องราวของความอมตะเหนือกาลเวลา ความโดดเด่นของสีพาสเทล และภาพพระอาทิตย์ตกในอุดมคติ ซึ่งต่อยอดจากสรรพสัตว์ในโลกความจริงสู่สัตว์ในเทพนิยายอย่างเปกาซัส เรือนเวลา Épure Tourbillon Pegasus โดดเด่นตั้งแต่งานประติมากรรมม้าสีเขียวที่ทำจากสำริดเคลือบแล็กเกอร์ มาพร้อมปีกที่ประดับเพชร 225 เม็ด และมรกตกว่า 38 เม็ด ถือเป็นนาฬิกาตูร์บิญงที่หนักแน่นและมีน้ำหนักเยอะที่สุดในคอลเล็กชั่นนี้เช่นกัน

Épure Tourbillon Ama
ปิดท้ายด้วยความลื่นไหลของสายน้ำกับ Épure Tourbillon Ama ที่โดดเด่นด้วยฉากหลังของน้ำที่ส่องประกายร่วมกับแสง เช่นเดียวกับปลาที่แหวกหวายสยายหางที่ขึ้นเรือนด้วยวัสดุไวต์โกลด์ และประดับเพชรเจียระไนแบบ baguette-cut ให้อารมณ์เหมือนกำลังพาทุกคนเข้าสู่โลกใต้น้ำเหนือจินตนาการ ทั้งหมดสะท้อนความงดงามของตัวเรือนเวลาที่สอดผสานเข้ากับมิติแห่งงานฝีมือของเมซงจิวเวลรีชั้นนำ
(สามารถอ่านเรื่องราวเพิ่มเติมของเมซงบูเชอรองได้กับบทความ จากการจัดดอกไม้แบบอิเคบานะและปรัชญาวาบิซาบิสู่ 'Impermanence' จิวเวลรีชั้นสูงบทใหม่ของ Boucheron)

