Boucheron คืนชีพจิวเวลรีชั้นสูงดีไซน์พรรณไม้ในคอลเล็กชั่นแรกแห่งปี 'Untamed Nature'

สัมภาษณ์: กุลวิทย์ เลาสุขศรี

เรียบเรียง: ธนภพ ณ ตะกั่วทุ่ง

 

     โดยปกติแล้วแบรนด์อัญมณีระดับโลกมักจะจัดงานเปิดตัวผลงานจิวเวลรีชั้นสูงดีไซน์ใหม่ในช่วงกลางปี แต่ Boucheron แบรนด์เก่าแก่จากประเทศฝรั่งเศสขอสร้างความตื่นเต้นให้วงการตั้งแต่ต้นปีด้วยการเปิดตัวจิวเวลรีชั้นสูงคอลเล็กชั่นใหม่ประจำปี 2025 โดยใช้ชื่อว่า Untamed Nature เนื่องจาก Claire Choisne ครีเอทีฟไดเร็กเตอร์ที่อยู่คู่แบรนด์มานาน 14 ปี ได้นำผลงานระดับตำนานหลายชิ้นจากฝีมือการออกแบบของผู้ก่อตั้งแบรนด์ Frederic Boucheron เมื่อ 140 ปีก่อน รวมถึงเอกสารงานวิจัยเกี่ยวกับพรรณไม้และแมลงอันเป็นต้นแบบของจิวเวลรีเหล่านั้นจากคลังสารานุกรมของเขามาเป็นต้นแบบและแรงบันดาลใจในการสร้างสรรค์ผลงานใหม่ทั้งหมด 28 ดีไซน์

     คอลเล็กชั่นนี้บูเชอรองนำความงดงามของจิวเวลรีสไตล์เรียลิสม์สมัยคริสต์ศตวรรษที่ 19 มาผนวกเข้ากับเทคโนโลยีที่ทันสมัยในยุคปัจจุบันเพื่อให้ผลงานสวมง่ายและเบาสบายขึ้น แคลร์อธิบายว่า "เราอยากนำนวัตกรรมล้ำสมัย เทคนิคการทำจิวเวลรีที่สั่งสมมายาวนาน และวัสดุที่มีคุณค่า มาผนวกเข้าด้วยกันเพื่อสร้างสรรค์ผลงานคอลเล็กชั่นนี้ เพราะบางครั้งเทคนิคดั้งเดิมนั้นดีกว่า ส่วนเทคโนโลยีสมัยใหม่ก็ช่วยให้เรารังสรรค์ผลงานได้ตามจินตนาการมากขึ้น เหมือนฝันเป็นจริง"

 

 

     นอกจากนั้นแคลร์ยังได้คิดค้นและเพิ่มเติมฮาร์ดแวร์หลายรูปแบบ เพื่อให้จิวเวลรีแต่ละชิ้นสามารถนำมาปรับสวมได่้หลายสไตล์ เช่น นำเข็มกลัดมาสวมเป็นเครื่องประดับศีรษะ นำจี้มาสวมเป็นแหวนหรือตุ้มหู เอื้อให้เจ้าของนำออกมาใช้งานบ่อยขึ้น เพราะเธอเชื่อว่านี่คือการสร้างคุณค่าและความคุ้มค่าให้กับผลงาน "สิ่งที่น่าเศร้าที่สุดสำหรับฉันคือการเก็บจิวเวลรีไว้ในกล่องหรือตู้เชฟเพราะไม่อาจนำออกมาสวมได้บ่อยๆ ดังนั้น ฉันจึงเริ่มคิดหาวิธีการปรับสวมให้ได้หลายแบบรวมถึงดีไซน์ที่เข้าได้กับลุคในโอกาสต่างๆ ด้วย เช่น ไปงานกาล่าดินเนอร์ หรือไปกินข้าวกลางวันก็ยังได้" ภาพแคมเปญสำหรับคอลเล็กชั่นนี้ บูเซอรองเลือกนำเสนอความงดงามเหนือกาลเวลาของจิวเวลรีชั้นสูงผ่านลุคเรียบโก้ที่ดูแคชวล โดยนางแบบและนายแบบส่วมเสื้อคอเต่าสีดำ

     การเลือกใช้เพียงทองคำขาวและเพชรสีขาวนั้นก็เพื่อแสดงความเคารพต่อผลงานต้นฉบับที่เฟรเดริกออกแบบไว้และเพื่อจะได้นำจิวเวลรีจากคอลเล็กชั่นนี้ไปแมตช์กับชิ้นอื่นๆ ในชีวิตประจำวันได้บ่อยขึ้นด้วย ตัวเรือนออกแบบให้มีความอ่อนช้อยเน้นความออร์แกนิกของรูปทรงพรรณไม้และปีกแมลงให้มีความสมจริง หลายชิ้นออกแบบให้เป็นแบบโอเพนเวิร์กหรือตัวเรือนโปร่งเพื่อให้แสงลอดผ่านตัวเรือนไปสะท้อนบนเหลี่ยมเพชรสีขาวด้านหน้าและด้านหลัง

     จากคลังผลงานเก่าสู่คอลเล็กชั่นจิวเวลรีชั้นสูงแคลร์บอกว่าเป้าหมายในการทำงานครั้งนี้ของเธอ คือ "ขยายขอบเขตของการสร้างสรรค์จิวเวลรีชั้นสูงออกไปให้ไกลขึ้น โดยยังคงเคารพเชิดชูดีเอ็นเอและผลงานเก่าของบูเชอรองที่เฟรเดริกได้สร้างเอาไว้ฉันไม่รู้ว่าจะอยู่ทำหน้าที่ตรงนี้ไปได้อีกนานแค่ไหน แต่ ณ วันนี้ฉันตั้งใจที่จะทุ่มเทผลักดันให้มีการทดลองสิ่งใหม่ๆ โดยเฉพาะเรื่องเทคนิคกับวัสดุ รวมถึงการสานต่อชิ้นงานให้เป็นเรื่องราวอันน่าประทับใจ ฉันไม่อยากออกแบบจิวเวลรีที่ดูสวยงามเพียงอย่างเดียว ฉันอยากสร้างสรรค์ผลงานที่เจ้าของสามารถสร้างความทรงจำร่วมกับมันได้ด้วย"

 

 

CLAIRE'S TOP 3 FAVOURITES

1 Papillon de Nuit (Moth) เข็มกลัดผีเสื้อกลางคืนงดงามแบบสุขุม ตอนแรกที่เราเริ่มงานชิ้นนี้ฉันไม่แน่ใจเลยว่าจะสามารถทำออกมาได้สำเร็จหรือไม่ กับการทำให้ปีกผีเสือดูสมจริง ด้วยการแกะเปลือกหอยมุกที่เล่นแสงแบบมีมิติแต่ไม่เปล่งประกาย เป็นงานฝีมือที่ทำยากมาก"

2 Chardon (Thistle) "ฉันรักสร้อยคอพืชไม้หนามมาก เพราะ ต้นแบบของผลงานชิ้นนี้สวมไม่ค่อยสบายนักเนื่องจากดีไซน์ที่เป็นหนามตามตัวเรือน แต่เราพัฒนาและปรับแบบให้สวมง่ายสบายขึ้น เป็นผลงานที่สมบูรณ์แบบชิ้นหนึ่งเลย (ต้นแบบของผลงานชิ้นนี้มาจากเข็มกลัดในปี 1878 เลือกส่วนลำต้นและใบมาออกแบบโดยใช้คอมพิวเตอร์ แล้วนำไปขึ้นตัวเรือนแบบสามมิติและโอเพนเวิร์กโดยช่างฝีมือชั้นครู เพื่อให้ได้สัมผัสที่อ่อนพลิ้วและเบาสบาย ใช้เวลาในการรังสรรค์นานถึง 1,100 ชั่วโมง)

3 Roseau (Reed) "ที่เลือกดีไซน์ต้น Reed เพราะเราอยากออกแบบผลงานที่เน้นดีไซน์กราฟิกในทุกส่วนของตัวเรือนและรูปทรงของเพชร" (ประกอบด้วยสร้อยคอ กำไลข้อมือ เข็มกลัดและเครื่องประดับศีรษะ ใช้เทคนิคการขึ้นตัวเรือนด้วยขี้ผึ้งเพื่อทำให้ความโค้งมนของลำต้นแลดูเหมือนกำลังลู่ไปตามลมในองศาที่ต้องการ ก่อนจะประดับบริเวณก้านและดอกด้วยเพชรทรงรี ส่วนใบนั้นประดับด้วยเพชรทรงกลมบริลเลียนต์คัตที่ให้ประกายเหมือนมีน้ำค้างเกาะ)

 

(สามารถอ่านเรื่อง Boucheron เผยจิวเวลรีสไตล์ 'โบฮีเมียน' ชิ้นใหม่ในคอลเล็กชั่น ‘Serpent Bohème’ ได้ที่นี่)