แบรนด์เครื่องประดับอัญมณีและเครื่องประดับชั้นสูงจากประเทศฝรั่งเศส Boucheron เปิดตัวบูติกแห่งแรกในประเทศไทย ณ สยามพารากอน บนพื้นที่ขนาด 163 ตารางเมตร ซึ่งได้รับการออกแบบและการตกแต่งแสดงถึง 'ความเป็นกรุงเทพมหานคร' ผ่านการผสานเสน่ห์ของสถาปัตยกรรมแบบโมเดิร์นและสีสันสวยงามแบบวัดของไทย ทำให้บูติกแห่งนี้มีกลิ่นอายความเป็นไทยอย่างชัดเจน พร้อมถ่ายทอดจิตวิญญาณแห่ง Boucheron ได้อย่างสมบูรณ์แบบ การออกแบบยังผสานแรงบันดาลใจจากอาคารเลขที่ 26 จัตุรัสว็องโดม ณ กรุงปารีส ซึ่งเป็นบูติกแห่งแรกที่ก่อตั้งขึ้นเมื่อปี ค.ศ. 1893 ด้านหน้าบูติกโดดเด่นด้วยปริซึมแก้วในเฉดสี Boucheron Green อันเป็นเอกลักษณ์ ผสานด้วยลวดลายกรอสเกรนบนฝาผนังที่สะท้อนถึงรากฐานจากกูตูร์ และโมทีฟรูปทรงเจียระไนเหลี่ยมมรกตที่ชวนให้นึกถึงภาพมุมสูงของจัตุรัสว็องโดม

1 / 4

2 / 4

3 / 4

4 / 4
ทันทีที่ก้าวเข้าสู่บูติก ผู้มาเยือนจะสัมผัสได้ถึงบรรยากาศอันเป็นเอกลักษณ์ของ 'ความเป็น Boucheron' ผ่านรายละเอียดงานออกแบบภายในที่ผสานมรดกแห่งเมซงเข้ากับวัฒนธรรมท้องถิ่นอย่างละเมียดละไม เริ่มจากพื้นไม้ต่อลายที่ตัดเฉดกับผนังสีส้มปะการัง และผนังโทนนวลแป้งอันนุ่มนวล โถงทางเข้าถูกตกแต่งด้วยองค์ประกอบเชิงสัญลักษณ์ อาทิ โต๊ะติดผนังจากหอจดหมายเหตุของเมซง รูปทรงหลังเบี้ยสีเขียวประดับพื้น ลายเสาอนุสาวรีย์จากจัตุรัสว็องโดมที่กรอบด้วยมรกต รวมถึงหินอ่อนอิตาเลียนที่สอดรับกับแผ่นกรุผนังลายขัดสานและตู้ไม้แบบไทยร่วมสมัยอย่างลงตัว
เมื่อก้าวผ่านกรอบหินอ่อนจากโถงทางเข้า จะเข้าสู่พื้นที่รับรองลูกค้าที่ถูกจัดแบ่งอย่างมีจังหวะ โดยให้ความสำคัญทั้งในด้านฟังก์ชันและบรรยากาศ ห้องด้านหน้าเปี่ยมด้วยกลิ่นอายของการต้อนรับผ่านผนังแพรต่วนลายน้ำสีเหลืองโทนอบอุ่น ซึ่งจัดวางเคียงกับเวิ้งผนังสานใบลานเดินลายเรขาคณิตสีเขียว ถ่ายทอดจิตวิญญาณแห่งหัตถกรรมไทยได้อย่างสง่างาม ขณะที่ห้องรับรองด้านในสะกดทุกสายตาด้วยการจับคู่เฉดเขียวและส้มอย่างกล้าหาญ กลายเป็นฉากหลังอันงดงามให้กับผลงานจิวเวลรีของเมซง ส่วนพนักเก้าอี้บุด้วยกำมะหยี่ลายไม้ระแนงที่ได้แรงบันดาลใจจากงานจักสานพื้นบ้านไทย ช่วยเติมเต็มความงามสง่าที่งดงามราวบทกวีแห่งการออกแบบ
ห้องวีไอพี ถ่ายทอดความงดงามของบูติกได้อย่างชัดเจน จากไหวพริบอันแยบคายในงานออกแบบที่หลอมรวมศิลปะการใช้สี ที่ปรากฏตามวัดวาอารามสำคัญของกรุงเทพฯ เข้ากับรูปทรงเรขาคณิตเล่นเหลี่ยมมุมแบบอลังการศิลป์ตามฉบับ Boucheron การใช้ลายเส้นและทรวดทรงทรงเรขาคณิตที่ได้รับการเติมเต็มมิติทางรายละเอียด และความอบอุ่นชวนผ่อนคลายด้วยกรุผนัง จำลองลวดลายเสมือนงานฝีมือจักสาน ในขณะที่โมทีฟแม่ลายต่างๆ ถูกดัดแปลงมาจากงานสถาปัตยกรรมที่มีบทบาทอย่างยิ่งต่องานสร้างสรรค์ของ Boucheron ทวีความโดดเด่นด้วยการใช้สีสดโทนสว่าง ก่อลวดลายต่อเนื่องอยู่บนสิ่งทอหุ้มชุดโซฟากับเก้าอี้บุนวม โลหะทองเหลือง อีกหนึ่งสัญลักษณ์ของงานสร้างสรรค์ตามแนวทางอลังการศิลป์ ก็ถูกนำมาประดับบนผนังกั้นห้องและบนโต๊ะกาแฟ เข้ากับลวดลายของพรมปูพื้น ซึ่งผ่านการออกแบบมาให้สะท้อนถึงงานตกแต่งด้วยโลหะทองเหลืองกับสิ่งทอของชุดที่นั่งรอบโต๊ะ
เพื่อสะท้อนความหลงใหลที่ Boucheron มีต่องานศิลปะ ห้องวีไอพีจึงกลายเป็นพื้นที่เปิดรับประสบการณ์ทางสุนทรียะ โดยจัดแสดงผลงานภาพถ่ายจากชุด Noir Silence ของ Yves Saint-Dafruse ช่างภาพชาวฝรั่งเศสผู้ถ่ายทอดความงามในความเงียบผ่านมุมมองอันเฉียบคม ผลงาน Noir Silence 5 และ Noir Silence 13 ซึ่งสะท้อนพื้นผิวของงานไม้รมดำ หนึ่งในวัสดุทรงคุณค่าของเมซงที่ปรากฏมาตั้งแต่ปลายศตวรรษที่ 19 ทั้งในคลังเอกสารประวัติศาสตร์และเครื่องประดับชั้นสูงของ Boucheron อาทิกลุ่ม Carte Blanche และ Ailleurs ต่างเป็นเครื่องยืนยันถึงบทสนทนาระหว่างศิลปะและเครื่องประดับอย่างแยบยล ศิลปินทำลายข้อจำกัดของภาพถ่าย ด้วยการลดทอนจุดโฟกัส การเล่นกับมิติ ซึ่งสอดคล้องกับวิธีคิดของ Frédéric Boucheron ผู้ก่อตั้งเมซง ที่เชื่อว่าความงามอาจถือกำเนิดจากแรงบันดาลใจที่ดูเรียบง่ายที่สุด หากอยู่ในมือของผู้มองเห็นศักยภาพนั้นอย่างแท้จริง
สำหรับ Boucheron บูติกไม่ได้เป็นเพียงสถานที่จัดแสดงหรือจำหน่ายเครื่องประดับ แต่คือการถ่ายทอดจิตวิญญาณแห่งเมซง ผ่านรายละเอียดอันอบอุ่นและปราณีต เชื้อเชิญให้ผู้ชื่นชอบมาสัมผัสประสบการณ์อย่างใกล้ชิด