“กระโปรง” ไอเท็มชิ้นนี้ถือเป็นไอเท็มจำเป็นสำหรับสาวๆ ทุกช่วงวัย แต่ละคนมีความผูกผันกับไอเท็มชิ้นนี้ในรูปแบบที่แตกต่างกันไป เพราะแต่ละคนย่อมมีรูปทรงกระโปรงทีชอบไม่เหมือนกัน ตั้งแต่ทรงเอ ทรงสอบ ทรงตรง ความสั้น-ยาว และอื่นๆ อีกมากมาย แต่มีกระโปรงอยู่แบบหนึ่งที่สาวๆ มักไม่ค่อยนำมามิกซ์แอนด์แมตช์มากนัก บ้างก็ว่ามันเชย บ้างก็ว่าเหมือนกระโปรงนิสิต-นักศึกษา มาถึงจุดนี้คงจะเดากันได้แล้วว่ามันคือ “กระโปรงพลีต” นั่นเอง  แต่เดี๋ยวก่อนกระโปรงรีดจีบนั้นเป็นแฟชั่นไอเท็มที่น่าสนใจอยู่ไม่น้อย วันนี้โว้กจะพาไปดูเทคนิคการเลือกและสร้างสรรค์ในแบบฉบับของ Dior ที่ทำให้กระโปรงพลีตดูมีมิติน่าสนใจจนอาจทำให้สาวๆ เปลี่ยนใจกลับมาหยิบไอเท็มชิ้นนี้ออกมาจากตู้กันเลยทีเดียว!

การสวมกระโปรงพลีตคู่กับเสื้อเชิ้ตและแจ๊กเก็ตเพื่อปิดส่วนขอบกระโปรงพลีต / ภาพ: Vogue Runway

     กฎข้อแรกของการสวมกระโปรงพลีตแบบดิออร์คือการสร้างความสมดุลให้กับลุคโดยการใช้ท่อนบนที่น่าสนใจหรือเลเยอร์ท่อนบนให้เกิดเป็น 2 ชั้น เราจะเห็นว่ากระโปรงพลีตมีดีเทลเฉพาะตัวไม่จำเป็นต้องเสริมเติมแต่งนัก เพราะฉะนั้นกระโปรงพลีตสีเรียบเข้าคู่กับไอเท็มชิ้นบนสีเรียบอาจทำให้ลุคดูไม่สมดุลเกินไป เพราะฉะนั้นการเลือกใส่กระโปรงพลีตโดยมีแจ๊กเก็ตหรือโอเวอร์เชิ้ตสักตัวปิดบริเวณขอบกระโปรงด้านบน ทำให้ส่วนบนดูหนักแน่นเป็นชิ้นเป็นอันขึ้นกระโปรงพลีตก็มีหน้าที่สร้างสมดุลด้วยความพลิ้วไหวของตัวมันเอง ด้วยเหตุผลนี้จึงทำให้การสไตลิ่งกระโปรงพลีตแบบนี้ดูมีทั้งความแข็งแกร่งและอ่อนโยนในเวลาเดียวกัน

กระโปรงพลีตผ้าทูลและผ้าเดนิมจาก Dior / ภาพ: Vogue Runway - Courtesy of Brand

     “สร้างความแปลกใหม่ด้วยเนื้อผ้า” ปกติเราจะเห็นกระโปรงพลีตผ้าฝ้ายเอยหรือผ้าใยสังเคราะห์ต่างๆ สาวๆ จึงติดภาพกระโปรงในมิติเดียว ชุดนิสิต-นักศึกษากลายเป็นภาพจำนี้ไปโดยปริยาย แต่ดิออร์บอกเดี๋ยวก่อนกระโปรงพลีตสามารถทำจากผ้าหลากหลายประเภทกว่านั้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งเดนิมและผ้าทูล ซึ่งแบรนด์ดังจากฝรั่งเศสภูมิใจนำเสนอกระโปรงพลีตผ้าทูลมาหลายคอลเล็กชั่นติดต่อกัน หากใครเข้าชมเว็บไซต์ของแบรนด์บ่อยๆ จะเห็นว่ามีกระโปรงพลีตผ้าทูลปรากฏขึ้นในหมวดเครื่องแต่งกายสำหรับสุภาพสตรีเสมอ นั่นเป็นเพราะความพิเศษของกระโปรงตัวนี้ที่ยังให้อารมณ์ความเป็นเลเยอร์ของการรีดจีบเช่นเดิม แต่มากไปกว่านั้นตัวกระโปรงจะพลิ้วไหวขึ้น พร้อมด้วยความบางของมันทำให้ได้อารมณ์ซีทรูเผยความเซ็กซี่เล็กๆ หากใครคิดว่าโป๊เกินไปก็สามารถหยิบกางเกงมาเลเยอร์ไว้ด้านในอีกชั้นหนึ่งได้ ถือเป็นการเพิ่มความซับซ้อนให้กับลุคกระโปรงธรรมดาๆ ดูน่าสนใจยิ่งขึ้น

วิธีสร้างสรรค์ลุคกระโปรงพลีตให้เหมือนสาว Dior ด้วยการเพิ่มแอ็กเซสเซอรี่ช่วงเอว / ภาพ: Vogue Runway

     “ลองเพิ่มแอ็กเซสเซอรี่ช่วงเอวดูสิ” ข้อแนะนำต่อมาของการมิกซ์แอนด์แมตช์กระโปรงพลีตกับเสื้อท่อนบน บางครั้งเราอาจจะไม่อยากวางเลเยอร์เสื้อผ้าให้ซับซ้อนจนเกินไป หรือคิดว่าท่อนบนล่างอาจจะไม่เพียงพอ เราขอเสนอการสไตลิ่งด้วยเข็มขัด แต่เดี๋ยวก่อนเข็มขัดจะต้องไม่ใช่เข็มขัดเส้นทั่วไป หัวใจสำคัญของลุคแบบนี้คือลูกเล่นของเข็มขัดที่ให้ลักษณะเหมือนสายรัดเอว หรือถ้าเป็นเข็มขัดเส้นขนาดมาตรฐานก็ควรเป็นวัสดุที่ดูแปลกตาเช่นวัสดุหัตถกรรมงานสานต่างๆ เท่านี้ลุคกระโปรงพลีตของสาวๆ ก็จะดูเก๋ขึ้นไปอีกระดับ

ลวดลายบนกระโปรงเพิ่มมิติความแตกต่างให้กับกระโปรงพลีตของ Dior / ภาพ: Vogue Runway

     “สีพื้นมันเบสิกเกินไป” หลายคนเริ่มมองความสนุกมากกว่าแค่การอัดพลีตของกระโปรงแต่ด้วยสีสันที่มักเป็นสีดำ น้ำเงิน ขาว และสีพื้นอื่นๆ อาจทำให้สาวๆ หลายคนรู้สึกไม่สนุกพอจะเลือกหยิบมาใส่ เพราะฉะนั้นกระโปรงพลีตที่จะทำให้ลุคของสาวๆ น่าตื่นเต้นในทุกโอกาสก็คงหนีไม่พ้นเรื่องของลวดลาย ลายพิมพ์ต่างๆ จะช่วยให้กระโปรงพลีตลดทอนความแน่นของจีบต่างๆ ออกไปบ้าง ลายจะช่วยให้มิติของจีบลดลงและถูกแทนที่ด้วยลวดลายแทน นั่นทำให้กระโปรงพลีตที่เคยถูกมองว่าหยิบมาแมตช์กับไอเท็มอื่นให้สนุกยากจะไม่ใช่ปัญหา เพราะถ้าสาวๆ เลือกลายที่ชอบมาผสมผสานกับสไตล์ที่ใช่ก็จะเกิดเป็นลุคกระโปรงพลีตเฉพาะตัวในแบบที่ดิออร์เคยนำเสนอมาแล้วในหลายคอลเล็กชั่น

วิธีการรวมเอาทุกเคล็ดลับมาผสมผสานจนการเป็นสไตล์คุณเองโดยมีรากฐานบันดาลใจมาจากสาว Dior / ภาพ: Courtesy of Brand

     “นำทุกเคล็ดลับมารวมกัน” แน่นอนคุณอ่านมันไม่ผิดไปแน่ เราแนะนำให้ทุกคนลองหยิบเคล็ดลับทั้งหมดไม่ว่าจะเป็นการวางเลเยอร์ แอ็กเซสเซอรี่ รวมไปถึงลวดลายของกระโปรงพลีตเองมาผสมผสานให้เกิดลุค 1 ลุค ความพิเศษของการสร้างสไตล์จากกระโปรงในการเตรียมเข้าทศวรรษใหม่แบบนี้เรียกได้ว่ากฎเกณฑ์ของแฟชั่นถูกทอนลงเรียบร้อยแล้ว เพราะเมื่อสาวๆ เริ่มหยิบไอเท็มเข้ามาหลอมรวมกับไอเดียเฉพาะตัว กฎระเบียบทางแฟชั่นก็ค่อยละลายหายไป ต่อไปนี้กระโปรงพลีตโดยเฉพาะสีพื้นโทนเข้มจะไม่ใช่กระโปรงแค่สำหรับนิสิต-นักศึกษาอีกต่อไป แต่มันจะกลายเป็นไอเท็มชิ้นเด็ดที่ไม่ว่าสาวๆ จะหยิบมาใส่อีกสักกี่ครั้งก็ยังเรียกความมั่นใจ พร้อมทั้งป่าวประกาศอย่างกึกก้องว่า “ฉันมีสไตล์” ได้เสมอ