หลังจากที่สร้างปรากฏการณ์ช็อคคนทั้งโลกไปเมื่อช่วงต้นปีที่ผ่านมาด้วย "การบอกลาราชวงศ์" พร้อมย้ายไปใช้ชีวิตเรียบง่ายที่แคนาดา ก่อนที่ล่าสุดจะย้ายที่พำนักอีกครั้งมาอยู่ที่คฤหาสน์สุดหรูที่เมืองลอสแอนเจลิส ประเทศสหรัฐอเมริกา จนกลายเป็นประเด็นให้พูดถึงอยู่ในเวลานี้ ขุดลากเอาแฮชแท็ก #Megxit กลับมาให้ชาวเน็ตปั่นเล่นกันอีกครั้ง แต่ดูเหมือนว่าแฮชแท็ก #Megxit ที่เกิดขึ้นเพื่อใช้ตำหนิการตัดสินใจของเมแกน มาร์เคิลตั้งแต่ต้นปี จะเป็นความเข้าใจผิดครั้งใหญ่ของสำนักข่าว และชาวเน็ตไปเสียแล้ว เมื่อล่าสุดสื่อชื่อดังอย่าง The Sun หนึ่งในแท็บลอยด์คู่อริของดยุก และดัชเชสแห่งซัสเซกซ์ ได้ออกมาเปิดเผยว่า "แท้จริงแล้วการบอกลาราชวงศ์นั้น เป็นการตัดสินใจของเจ้าชายแฮร์รี่ ที่รู้สึกอึดอัดมานาน"...

     ทั้งนี้ เดอะ ซัน ได้อ้างถึง "คนวงใน" ของสำนักพิมพ์ที่กำลังจัดทำหนังสือที่ว่าด้วยชีวประวัติของเจ้าชายแฮร์รี่ และเมแกน มาร์เคิล ในชื่อ “Finding Freedom: Harry and Meghan and the Making of Modern Royal Family” ที่จะถูกวางแผงอย่างเป็นทางการในวันที่ 11 สิงหาคมที่จะถึงนี้ ได้ให้ข้อมูลเอาไว้ว่า ในหนังสือดังกล่าวข้อมูลหลายอย่างจะถูกทำให้ถูกต้องตามความเป็นจริง ไม่ใช่ข่าวลือ โดยเฉพาะกับคำว่า 'Megxit' ที่มักจะทำให้เจ้าชายแฮร์รี่รู้สึกโกรธอยู่เสมอที่ได้ยินชื่อแฮชแท็กนี้ เพราะ มันให้ความรู้สึกราวกับว่า การตัดสินใจที่ทั้งคู่เดินออกมาจากราชวงศ์นี้นเป็นของดัชเชสแห่งซัสเซกซ์ ซึ่งแท้จริงแล้วไม่ใช่นั่นเอง

     วงในยังกล่าวต่อไปอีกว่า “ความจริงแล้วเจ้าชายแฮรี่ต่างหากที่เป็นผู้ผลักดันการตัดสินใจในครั้งนั้น ซึ่งในหนังสือดังกล่าวก็จะถูกเขียนข้อมูลส่วนนี้ลงไปด้วย โดยการสินใจบอกลาราชวงศ์ที่มีดยุกแห่งซัสเซกซ์เป็นต้นคิดนั้น มีเมแกน มาร์เคิล เป็นเพียงผู้สนับสนุนเท่านั้น และยังมีหลายต่อหลายครั้งที่เธอมักจะถามเจ้าชายว่า แน่ใจแล้วหรือที่จะตัดสินใจเช่นนั้น"

     แม้ว่าจะยังคงเป็นข้อถกเถียงอยู่ในเวลานี้ว่าข้อมูลนี้เป็นจริงหรือไม่... กระทั่งที่มีหลายคนต่างตั้งคำถามว่า “Finding Freedom: Harry and Meghan and the Making of Modern Royal Family” นี้ได้รับการแต่งขึ้นเพื่อเชิดชู บิดเบือน และแก้ตัวในกับสามีภรรยาแห่งครอบครัวซัสเซกซ์หรือไม่ ซึ่งยังเป็นเรื่องที่ให้คำตอบไม่ได้จนกว่าจะถึงวันที่หนังสือเล่มนั้นวางแผง อย่างไรก็ตาม มันก็อาจจะถึงเวลาแล้วที่จะเริ่มต้นเปลี่ยนการเรียกขานจาก "Megxit" เป็น “ Hexit” ตามที่ใครๆ ต่างแซวเล่นกันอยู่ในตอนนี้...